มู่น่อนน่อนตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นจึงขมวดคิ้วและพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก “ถึงแม้ว่าฉันจะกลับบ้าน ก็ต้องเป็นบ้านฉัน ไม่ใช่กลับพร้อมกับคุณ!”
เมื่อน้ำเสียงของเขาสิ้นสุดลง จึงรับรู้ได้ถึงความเย็นชาที่แผ่รัศมีออกมาจากตัวของเฉินถิงเซียว ที่กำลังเก็บงำความรู้สึกไว้อย่างอัดแน่น
มู่น่อนน่อนเริ่มแสดงอาการระแวดระวังอยู่ในใจ จังหวะที่เธอจะถอยหลังหนี ทว่าเฉินถิงเซียวกลับยื่นมือออกมาคว้าแขนของเธอไว้อย่างแรงทันที พร้อมทั้งใช้แรงในการดึงตัวเธอเข้าสู่อ้อมกอด
มู่น่อนน่อนไม่ทันได้ตื่นตกใจด้วยซ้ำ กลับรู้สึกตัวเบาหวิว เพราะถูกเฉินถิงเซียวจับอุ้มขึ้นมาทันที
มีคนเห็นสถานการณ์นี้จะเริ่มส่งเสียงเอ็ดตะโรขึ้นมา “ว้าว!”
จากนั้นจึงมีสายตานับไม่ถ้วนหันมาองด้วยความแปลกใจ ท่ามกลางสายตานั้นยังมีคนทำเสียงดูสับสนปะปนออกมาด้วย
สีหน้ามู่น่อนน่อนพลางปรากฏอาการตื่นตระหนกอยู่เล็กน้อย พลันยื่นมือออกไปคว้าเสื้อบริเวณหน้าอกของเฉินถิงเซียวเอาไว้ตามสัญชาตญาณ และก้มหน้าถามเขาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณทำอะไรเนี่ย?”
“ก็คุณไม่อยากเดินไปเอง ผมก็เลยอุ้มคุณเดินไง” เมื่อเฉินถิงเซียวพูดประโยคนี้ออกมา บริเวณคิ้วค่อยๆ ผ่อนคลายลง และมีรอยยิ้มผสมอยู่ในนั้น
มู่น่อนน่อนสำรวจโดยรอบ ยิ่งเห็นว่ามีคนมองมาทางเธอเยอะขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้ามู่น่อนน่อนจึงแสดงอาการข่มขู่หน้าตาทมึงทึงใส่เฉินถิงเซียว “คุณรีบปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!”
“อย่าขยับ ถ้าขืนคุณยังขยับตัวอีกนิด ผมจะไม่รับประกันแล้วนะ ว่าผมจะทำอะไรกับคุณตรงนี้บ้าง” เฉินถิงเซียวพูดจาตามปกติ น้ำเสียงปนข่มขู่ออกมา มู่น่อนน่อนฟังออก
เสิ่นเหลียงกับกู้จือหยั่นและพวกเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝั่งของเฉินถิงเซียว พวกเขารีบตาลีตาเหลือกเข้ามาหา และถามสือเย่ทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
สือเย่ไม่ยอมพูดจา ได้แต่ส่ายหน้าไปมา และเดินตามไป
กู้จือหยั่น ฟู้ถิงซีสบตากัน จากนั้นก็เดินตามหลังไป
เฉินถิงเซียวจัดการอุ้มมู่น่อนน่อนและเดินอยู่ด้านหน้าสุด บรรดาแขกเหรื่อในงานต่างหลีกทางให้พวกเขา เพื่อเป็นทางเดินมู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวได้เดิน
ตอนที่คนกลุ่มนั้นจากไปแล้ว ยังเรียกความสนใจมากกว่าตอนที่พวกเขามาเสียอีก
……
เฉินถิงเซียวอุ้มมู่น่อนน่อนเอาไว้ และโดยสารลิฟต์เพื่อลงมาข้างล่าง
สือเย่ได้โทรศัพท์หาลูกน้องที่รถจอดอยู่ในลานจอดรถ เพื่อแจ้งให้พวกเขาขับรถมารออยู่ตรงประตูใหญ่ทันที
ตอนที่เฉินถิงเซียวอุ้มมู่น่อนน่อนลงมาด้านล่าง รถยนต์ของพวกเขาก็มาจอดรออยู่ตรงประตูใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อพวกเขาเดินออกไป ก็มีคนเดินนำหน้าไปเปิดประตูให้ก่อน
เฉินถิงเซียวจัดการโยนมู่น่อนน่อนเข้าไปด้านใน ซึ่งแสดงพฤติกรรมที่ค่อนข้างหยาบช้าบ้าง
จากนั้น เขาก็ขึ้นรถตาม เขาปิดบานประตูรถจนสั่นสะท้านเสียงดัง
มู่น่อนน่อนหันหน้ากลับมานั้น พลางพูดกับเฉินถิงเซียวด้วยความเขินอายอยู่บ้าง “เฉินถิงเซียว! นอกจากคุณจะใช้กำลังกับฉันแล้ว คุณยังจะทำอะไรอีก?”
“ผมทำได้หมดแล้ว ประเด็นสำคัญคือคุณอยากให้ผมทำอะไรล่ะ?” เฉินถิงเซียวใช้กำลังเอนตัวไปทางด้านหน้า แสดงไฟสีหม่นนอกตัวรถสาดส่องลงบนใบหน้าของเขา ยิ่งทำให้นัยน์ตาของเขายิ่งเคร่งขรึมหนักกว่าเดิม
มู่น่อนน่อนหัวเราะเย็นชาใส่ “ฉันอยากจะฆ่าคุณเพื่อเป็นการแก้แค้นให้มู่มู่!”
เฉินถิงเซียวหรี่ดวงตาลงจ้องมองมู่น่อนน่อนอยู่สักพัก จากนั้นก็เขยิบเข้าใกล้เล็กน้อย
ทั้งสองคนแนบชิดจนใกล้กันเป็นพิเศษ
“ลี่จิ่วเชียนเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย คุณไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำต่อไปแล้ว” จังหวะที่เขาพูดออกมานั้น มุมปากราวกับสัมผัสริมฝีปากของมู่น่อนน่อนด้วย
ด้านหลังของมู่น่อนน่อนเป็นเบาะเก้าอี้ ซึ่งไม่มีทางให้หนี จึงเอนศีรษะไปอีกทางแทน
แต่ว่า เฉินถิงเซียวยื่นมือออกไปค้ำด้านข้างศีรษะของเธอ จนทำให้เธอจะเอนหน้าไปทางไหนก็ไม่สามารถเอนได้
“ฉันแกล้งทำอยู่เหรอ?” มู่น่อนน่อน “งั้นคุณช่วยบอกฉันที มู่มู่อยู่ที่ไหน? ฉันอยากเจอหน้าลูก!”
เฉินถิงเซียวเงียบงันไปชั่วครู่ถึงตอบกลับมา “ช่วงนี้เธอไม่ได้อยู่กับผม”
“ไม่ได้อยู่กับคุณ?” มู่น่อนน่อนหัวเราะร่าอย่างเย็นชา “งั้นเธออยู่ที่ไหนล่ะ?”
เฉินถิงเซียวแสดงสีหน้าหมดความอดทน เพราะว่าเขาไม่ชอบจริงเลยที่มู่น่อนน่อนพูดคุยกับเขาด้วยลักษณะท่าทางเช่นนี้
“มู่น่อนน่อน ผมให้โอกาสคุณในการสารภาพออกมาเป็นครั้งสุดท้ายนะ!” ไม่งั้นเขาจะไม่เกรงใจแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...