ตั้งแต่ที่มู่น่อนน่อนตั้งใจเก็บโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา มองออกว่าเธอตั้งใจทำ
เมื่อมาถึงตอนท้าย เธอยังจงใจปลดล็อกโทรศัพท์ของเขาด้วย เฉินถิงเซียวย่อมรู้ดี เธอกำลังใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นการบอกบางสิ่งกับเขา
เฉินถิงเซียวเริ่มคาดเดาทันที มู่น่อนน่อนอาจจะโดนลี่จิ่วเชียนสะกดจิต
มู่น่อนน่อนเพิ่งพูดว่า เขาไม่สนใจชีวิตของเฉินมู่งั้นเหรอ?
ลี่จิ่วเชียนใช้เรื่องนี้มาสะกดจิตมู่น่อนน่อนงั้นเหรอเนี่ย?
แต่ว่า เมื่อมองลักษณะมู่น่อนน่อนที่แอบส่งข่าวให้กับเขา จนสามารถมองออกว่า ลี่จิ่วเชียนได้สะกดจิตเธอแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
อาศัยความเข้าใจที่เขามีกับมู่น่อนน่อนแล้ว มู่น่อนน่อนเป็นผู้หญิงที่แสนโง่เขลาที่คิดจะเอาตัวไปเสี่ยง เพื่อวางแผนฉวยโอกาสนี้ที่ได้ตรวจสอบเรื่องอะไรบางอย่างของลี่จิ่วเชียน
สีหน้าของเฉินถิงเซียวเย็นชาทันทีราวกับถูกความเยือกเย็นปกคลุมอีกหนึ่งชั้น
เฉินถิงเซียวคนอย่างเขาจำเป็นต้องให้ผู้หญิงตัวคนเดียวเอาตัวเข้าแลกอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงเพื่อเขาไหมล่ะ?
คิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว!
ผู้หญิงโง่คนนั้นดันคิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียวเสียนี่!
เฉินถิงเซียวยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห พลางเดินออกไปทางด้านนอกด้วยความรู้สึกโกรธเกรี้ยว
แต่เมื่อเดินผ่านถึงข้างโทรศัพท์เครื่องนั้นที่ถูกมู่น่อนน่อนโยนทิ้งไปนั้น เขาก็หยุดฝีเท้า และเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
เขาเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำไม่ไกลนัก ก็เจอกับลี่จิ่วเชียนทันที
เหมือนว่าลี่จิ่วเชียนจะมาตรวจสอบประสิทธิภาพผลลัพธ์ พลางใช้สายตาจับจ้องเพื่อประเมินตัวเฉินถิงเซียวอยู่ตลอด
ความโกรธเคืองของเฉินถิงเซียวที่แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน แล้วเขาจะมองไม่ออกได้อย่างไร
น้ำเสียงลี่จิ่วเชียนยากแก่การปิดบังความภาคภูมิใจเอาไว้ “ดูเหมือนว่าคุณเฉินจะอารมณ์เสียมากเลยนะครับ”
เฉินถิงเซียวจ้องลี่จิ่วเชียนด้วยสายตาเย็นชาอยู่แวบเดียว จากนั้นก็ง้างหมัดพุ่งเป้าไปที่ลี่จิ่วเชียนทันที
ลี่จิ่วเชียนหลบไม่ทัน จึงถูกต่อยเต็มแรงเข้าอย่างจัง
แต่ว่า สีหน้าของเขากลับไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเลย
เฉินถิงเซียวอดใจไม่ไหวจนต้องลงมือต่อยเขา นั่นก็หมายความว่าเขาประสบผลสำเร็จแล้ว
เขาประสบความสำเร็จในการใช้มู่น่อนน่อนมาคอยเป็นตัวกระตุ้นเฉินถิงเซียว จนเฉินถิงเซียวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
งูมีจุดอ่อนเจ็ดส่วนที่ทำให้เสียชีวิต จุดอ่อนของมนุษย์ คือการโจมตีไปที่หัวใจไว้ก่อน
ส่วนจุดอ่อนของเฉินถิงเซียวนั้นคือมู่น่อนน่อน
เขาแค่ใช้มู่น่อนน่อนมาเป็นตัวต่อกรเฉินถิงเซียว เขาแทบไม่ต้องลงมือทำอะไรด้วยซ้ำ เฉินถิงเซียวก็กลายเป็นคนแพ้ล้มไม่เป็นท่าไปเสียแล้ว
ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผล แถมผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นก็ไม่เลวจริงๆ
ลี่จิ่วเชียนเอื้อมมือออกไปปาดเลือดสดมุมปากของตนเอง และกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มแจ่มใส “คุณเฉินลงมือเองโดยตรงเช่นนี้ เป็นการลดตัวเองเลยนะเนี่ย”
“แกคิดว่าตัวแกเองมีของดีอยู่เหรอ?” เฉินถิงเซียวจับคอเสื้อเขาขึ้น พลางใช้สายตากินเลือดกินเนื้อจับมองไปเขาตาเขม็ง
รูปร่างของลี่จิ่วเชียนเตี้ยกว่าเฉินถิงเซียวเล็กน้อย เฉินถิงเซียวอาศัยความสูงเป็นข้อได้เปรียบ ตอนที่หิ้วลี่จิ่วเชียนอยู่ตอนนั้น บรรยากาศช่างกดดันมาก
“ผมล่ะนับถือคุณจริงๆ ตอนนี้ ยังมีกะจิตกะใจมาด่าผมแรงๆ ได้อีก” รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าลี่จิ่วเชียนดูจางลงเล็กน้อย แววตากลับไม่มีอาการหวาดกลัวแม้แต่น้อย
จังหวะนั้นเอง สือเย่รีบวิ่งกระหืดกระหอบมาจากอีกทางทันที
“คุณชายครับ” เมื่อเขาเห็นภาพนั้น พลันอึ้งไปชั่วครู่ แต่ก็กลับมาทำสีหน้าปกติเช่นเดิม
เฉินถิงเซียวหันหน้ากลับมามองสือเย่แวบหนึ่งอย่างไร้ความรู้สึก “เอาตัวมู่น่อนน่อนกลับบ้าน!”
สีหน้าสือเย่พลันแสดงความลังเลออกมาเล็กน้อย แต่สุดท้ายยังตกปากรับคำ “ครับคุณชาย”
เฉินถิงเซียวโยนตัวลี่จิ่วเชียนออกไป ราวกับเหมือนโยนผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ทิ้ง
ลี่จิ่วเชียนเตรียมทรงตัวไว้ตั้งแต่แรก จึงไม่ได้ล้มลงจนหมดสภาพ
“คุณไม่ไปลองถามมู่น่อนน่อนดูหน่อยเหรอว่าจะยอมกลับไปกับคุณหรือเปล่า!” น้ำเสียงลี่จิ่วเชียนแสดงความภาคภูมิใจออกมาเล็กน้อย
เขาล่ะหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นเฉินถิงเซียวแพ้อย่างราบคาบ
“ไม่สนว่าเธอจะยอมหรือไม่ยอม เธอก็เป็นคนของฉัน! แม้ว่าเธอตายไปแล้ว ก็ต้องเป็นผีใต้อาณัติของเฉินถิงเซียว! แกมาถือดีอะไร!”
ดวงตาของเฉินถิงเซียวเต็มไปด้วยความเย้ยหยันอย่างไม่มีการปิดบัง ราวกับลี่จิ่วเชียนเป็นขยะที่ไม่สมควรจะมองเห็นด้วยซ้ำ
บางคนก็กลับไปแล้ว แต่ว่าคนที่อยู่ภายในห้องจัดเลี้ยงนั้นยังมีเยอะมาก
มู่น่อนน่อนก็เตรียมตัวจะกลับเช่นกัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมุมห้องและกำลังโทรศัพท์หาลี่จิ่วเชียน
หลังจากที่เธอมาถึงห้องจัดเลี้ยงแล้ว ก็ไม่เห็นลี่จิ่วเชียนเลย ตอนนี้จะกลับบ้าน เธอก็ต้องโทรศัพท์หาลี่จิ่วเชียน
แต่ว่า เธอเพิ่งกดโทรศัพท์ออกไปยังไม่ทันต่อสายเลย โทรศัพท์ก็โดนคนดึงไป และโดนยึดกดตัดสายทิ้งทันที
สือเย่หยิบโทรศัพท์มา และโค้งศีรษะเล็กน้อย “คุณหญิงน้อยครับ”
“จะทำอะไร? เอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ!” มู่น่อนน่อนเห็นสือเย่ จึงทำสายตาเย็นชาใส่ พลางยื่นมือออกไป “ส่งโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน!”
สือเย่ยืนอยู่ตรงด้านหน้าของเธอ ด้วยท่าทางสงบนิ่งดั่งภูผา “คุณหญิงน้อยครับ พวกเรามารับคุณกลับบ้านครับ”
มู่น่อนน่อนขึ้นเสียงสูง และเรียกชื่อของเขา “สือเย่!”
สีหน้าแววตาของสือเย่ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนแปลงใดๆ พร้อมทั้งใช้น้ำเสียงจริงจังและอ่อนโยน “คุณหญิงน้อยจะเดินไปดีๆ เอง หรือว่าต้องให้พวกเรา ‘เรียนเชิญ’ ด้วยตัวเองครับ?
เขาตั้งใจเน้นย้ำความว่า ‘เรียนเชิญ’ ซึ่งเป็นการบอกมู่น่อนน่อน ว่าถ้าเธอไม่ยอมเดินตามไปดีๆ พวกของสือเย่ก็จะบีบบังคับพาตัวเธอออกไป
มู่น่อนน่อนยิ้มให้อย่างเย็นชา “ถ้าฉันดื้อดึงไม่ไปกับนายล่ะ?”
“งั้นผมก็ต้องใช้ไม้เด็ดโดยการ ‘เรียนเชิญ’ แล้วล่ะครับ” สือเย่พูดจาด้วยความเคารพ
“เจ้านายแบบไหน ลูกน้องก็แบบนั้นจริงๆ” มู่น่อนน่อนกำลังแอบพูดเหน็บแนมเฉินถิงเซียว
สือเย่ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับการที่มู่น่อนน่อนพูดจาด้วยอารมณ์แปลกพิกลจริงๆ
เขาเม้มริมฝาก พลางแสร้งทำทีว่าไม่ได้ยินความหมายเป็นนัยของมู่น่อนน่อน “ความหมายของคุณหญิงน้อยคืออะไรครับ?”
“ใครเป็นคุณหญิงน้อย ฉันมิบังอาจหรอก” มู่น่อนน่อนพูดจบก็ผลักเขาทันที “หลีกทาง!”
เธอเพิ่งจะก้าวไม่ถึงสองก้าว จึงหยุดทันที
ไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวมาถึงตอนไหน พลันยืนขวางทางเดินของเธอทันที
“ไม่ได้ยินสือเย่พูดหรือไง? ผมมารับคุณกลับบ้าน”
เฉินถิงเซียวยืนตรงหน้าเธอ แถมแสดงท่าทางจริงจังมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...