สือเย่จึงชะงักหยุดด้วยความจำใจ แล้วหันกลับไปมองมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนก็ไม่อยากจะเสียเวลา จึงถามขึ้นตรง ๆ :“บอกมาว่ามู่มู่อยู่ที่ไหน”
สือเย่ส่ายหน้า:“ผมไม่รู้ครับ”
มู่น่อนน่อนกระตุกมุมปากขึ้น:“ถ้าจะให้คิดดี ๆ แล้วล่ะก็ เวลาที่นายอยู่กับเฉินถิงเซียวนั้นนานกว่าที่ฉันอยู่กับเฉินถิงเซียวมาก เขาเชื่อใจนายที่สุด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ให้นายเป็นคนจัดการ แต่นายกลับบอกกับฉันว่าไม่รู้?”
เฉินถิงเซียวเชื่อใจสือเย่ เกือบแทบทุกเรื่องที่ให้สือเย่เป็นคนลงมือจัดการ
มู่น่อนน่อนกล้ามั่นใจว่าสือเย่จะต้องรู้ว่าเฉินมู่อยู่ที่ใด
ต่อให้เรื่องนี้สือเย่จะไม่ได้จัดการด้วยตัวเองก็ตาม แต่อย่างไรสือเย่จะต้องรู้รายละเอียดอย่างแน่นอน
สือเย่สีหน้าสะดุ้ง ถอนหายใจเบา ๆ เล็กน้อย :“แต่ว่าเรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นคนจัดการ ทุกอย่างคุณผู้ชายเป็นคนจัดการเองทั้งนั้นครับ”
“เฉินถิงเซียวเป็นคนจัดการเอง?” นี่ทำให้มู่น่อนน่อนแปลกใจเล็กน้อย
แต่เมื่อคิดดูแล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นไปได้
ท่าทีมุมมองที่เฉินถิงเซียวมีต่อเฉินมู่นั้นเปลี่ยนไปแล้ว การลงมือจัดการเรื่องของเฉินมู่ด้วยตัวเองก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้
“ครับ” สือเย่ปาดเหงื่ออย่างเงียบ ๆ แบบนี้คงปล่อยเขาไปได้แล้วสินะ?
เธอเเอียงศีรษะเล็กน้อยและพูดช้า ๆ “ต่อให้เขาจะเป็นคนจัดการเอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่นายจะไม่รู้!”
สือเย่เงียบ
มู่น่อนน่อนจึงเข้าใจทันทีว่าเธอนั้นทายถูกแล้ว
สุดท้ายสือเย่จนปัญญากับมู่น่อนน่อน จึงได้บอกที่อยู่เธอไปตามตรง
ที่อยู่นี้ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากเมืองหู้หยางร้อยกว่ากิโลเมตร
เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงจากการปลูกดอกไม้ มู่น่อนน่อนเคยไปครั้งหนึ่งสมัยตอนที่ยังเรียนอยู่ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเฉินถิงเซียวจะพาเฉินมู่มาอยู่เมืองเล็ก ๆ แบบนี้ได้
เดิมทีเธอคิดว่าอาจจะเป็นเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหู้หยางหลายพันกว่ากิโลเมตร คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเมืองที่ห่างแค่ไม่กี่ร้อยกิโลเมตร
ต่อให้เมื่อลี่จิ่วเชียนจะรู้ว่าเฉินมู่ยังมีชีวิตอยู่ เกรงว่าเฉินถิงเซียวก็คงจะสอดส่องเฉินมู่ไม่ให้คลาดสายตา
……
มู่น่อนน่อนไปถึงที่สถานีรถขนส่งและขึ้นรถไปถึงเมืองเล็ก ๆ แห่งนั้น
เมืองเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างหนาวกว่าในเมือง
มู่น่อนน่อนตามหาเลขที่บ้านท่ามกลางลมหนาว เมื่อเธอหาเลขที่บ้านเจอ จมูกของเธอก็แดงขึ้นด้วยความเย็นแล้ว
เป็นวิลล่าเก่า ๆ ที่ไม่ค่อยสะดุดตาหลังหนึ่ง ยืนมองจากที่ไกล ๆ สามารถมองข้ามกำแพงรั้วบ้านเห็นต้นหญ้าในสวนหย่อมที่ลานหน้าบ้าน
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปใกล้แล้วพบว่า กำแพงรั้วหน้าบ้านค่อนข้างสูง จึงมองไม่เห็นด้านในบ้าน
เธอยืนอยู่ที่หน้าประตู แล้วทำการเคาะประตู
หลังจากที่เคาะอยู่สองสามที มู่น่อนน่อนก็ได้ยืนรออยู่ด้านหน้าประตู
ผ่านไปนานสักพัก ถึงได้มีคนมาเปิดประตู
ตามด้วยเสียงเปิดประตูดัง “เอี๊ยด” ก็มีเสียงห้วน ๆ ของชายหนุ่มดังขึ้น:“ใครอ่ะ”
เมื่อประตูถูกเปิดออก ชายร่างสูงใหญ่ในเสื้อแจ็คเก็ตสีดำหนาก็เดินออกมา
ชายหนุ่มที่ไว้หนวดเครา ที่ดูค่อนข้างดุดัน
เขาจ้องมองมาทางมู่น่อนน่อน มองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาเบิกกว้าง ถึงแม้จะะดูไม่ค่อยมีมารยาท แต่ว่าในแววตานั้นก็ไม่มีความหมายอื่นนแอบแฝง
เมื่อสำรวจเสร็จแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วถามเธออย่างหมดความอดทน:“คุณเป็นใคร”
“ฉันมาตามหาคน” มู่น่อนน่อนที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร “ขอถามหน่อยค่ะว่าที่นี่มีคนแซ่เฉินอยู่ไหมคะ”
เธอหมายถึงคนที่แซ่ “เฉิน” ส่วนชายหนุ่มนั้นอาจไม่รู้ว่าเป็น “เฉิน” ตัวไหน
สายตาของชายหนุ่มตกกระทบไปที่ใบหน้าของเธอ จากนั้นจึงกล่าวออกมาหนึ่งประโยค:“ไม่มีคนแซ่เฉินอะไรทั้งนั้น”
เมื่อพูดจบ เขาก็ปิดประตูลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...