ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 668

สรุปบท บทที่ 668 พูดหนักให้เป็นเบา: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

สรุปตอน บทที่ 668 พูดหนักให้เป็นเบา – จากเรื่อง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)

ตอน บทที่ 668 พูดหนักให้เป็นเบา ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดยนักเขียน Meow(○` 3′○) เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

มู่น่อนน่อนกับเสิ่นเหลียงเล่นไปสักพัก ก็ได้เก็บข้าวของเตรียมออกจากบ้าน

ตอนที่ทั้งสองใส่ชุดนักเรียนออกจากบ้าน ฉีเฉิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็กำลังเปิดประตูห้องพอดี

สายตาของฉีเฉิงจ้องมองไปมาอยู่ที่บนตัวทั้งสองอย่างค่อนข้างแข็งทื่อ

จากนั้น เขาได้หยิบมือถือขึ้นมาโทรเบอร์ๆนึง

ไม่นาน มือถือของมู่น่อนน่อนก็ได้ดังขึ้น

มู่น่อนน่อนล้วงมือถือออกมา ชูขึ้นมาทางฉีเฉิงด้วยสีหน้าค่อนข้างอึดอัด

ฉีเฉิงตกตะลึงเกินไป เลยทำให้เขาสงสัยว่าเธอคือมู่น่อนน่อนหรือเปล่า ดังนั้นจึงได้โทรเบอร์ของเธอ

มู่น่อนน่อนอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว เมื่อครู่เธอกับเสิ่นเหลียงอยู่ในห้องเล่นกันสนุกสนาน ออกมาก็เจอฉีเฉิงพอดีเลย

อึดอัดชะมัด

ไม่นานสีหน้าของฉีเฉิงก็กลับมาเหมือนก่อนหน้านี้ เขาเก็บมือถือไปด้วยแล้วถามไปด้วย “คุณจะออกไปเหรอครับ ”

“อืม ออกไปกับเพื่อน”มู่น่อนน่อนพยักหน้าแล้วตอบ

เสิ่นเหลียงที่อยู่ข้างกายได้จิ้มแขนของมู่น่อนน่อน แล้วพูดเสียงเบาว่า “นี่ใครเหรอ เธอจะไปไหนเขาก็คุมด้วย ”

เสิ่นเหลียงเพิ่งพูดเสร็จ ก็ได้ยินฉีเฉิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพูดคำนึงว่า “คุณเสิ่น ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณมู่ครับ”

เสิ่นเหลียงฟังแล้วเบิกตากว้างด้วยความตะลึง

คนๆนี้นี่มีหูพันลี้เหรอ เธอเบาเสียงขนาดนี้ก็ยังได้ยินอีก

มู่น่อนน่อนตบมือเสิ่นเหลียงเบาๆ แล้วพูดกับฉีเฉิงว่า “เราจะออกไป นายไม่ต้องตามพวกเราหรอก”

ฉีเฉิงพยักหน้าเสร็จ ก็ได้หันหลังกลับเข้าไปที่ห้อง

พวกเธอแต่วตัวแบบนี้ เขาก็ไม่อยากตามหรอก

พอฉีเฉิงไปแล้ว เสิ่นเหลียงได้ดึงตัวมู่น่อนน่อนมาถามว่า “เธอเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมจู่ๆถึงได้จ้างบอดี้การ์ด ”

“ก็กันเจียงซ่งไง”มู่น่อนน่อนพูดหนักให้เป็นเบา พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม

“ก็ใช่ เจียงซ่งคนนั้นจิตใจคับแคบ ไม่ใช่คนดีอะไร กันเอาไว้หน่อยก็ดีเหมือนกัน”

เพราะยังไงมู่น่อนน่อนก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างปลอดภัย เสิ่นเหลียงจึงได้เชื่อคำพูดของมู่น่อนน่อน

“แต่บอดี้การ์ดคนนั้นของเธอดูแล้วน่ากลัวจังเลย ไม่เหมือนบอดี้การ์ดเลยสักนิด”

“สถานะของเขาซับซ้อนนิดหน่อย แต่เก่งมากเลยนะ”

“อืม” ปกติตอนที่เสิ่นเหลียงออกไปไหน ก็มีบอดี้การ์ดคอยติดตามไปด้วยเหมือนกัน

เพราะยังไงก็เป็นบุคคลสาธารณะ แฟนคลับก็เยอะ กลัวก็แต่จะเจอแฟนคลับที่ไม่มีสติ……

……

มู่น่อนน่อนกับเสิ่นเหลียงไปโรงเรียนมัธยมปลายที่เมื่อก่อนเคยเรียนด้วยกัน

ตอนนี้ก็ปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว ในโรงเรียนไม่ค่อยมีคน

ตอนแรกมู่น่อนน่อนยังไม่รู้สึก แต่หลังจากออกมาแล้ว ก็รู้สึกว่าใส่ชุดนักเรียนช่างโง่สิ้นดีเลย

ถึงจะปลอมตัวเป็นนักเรียนก็เถอะ แล้วพวกเธอจะอธิบายกับพนักงานรักษาความปลอดภัยยังไง เวลานี้พวกเธอใส่ชุดนักเรียนมาโรงเรียน

หลังจากปิดเทอม ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ใส่เสื้อผ้าปกติของตัวเอง และแต่งตัวสวยๆบ้าง

เสิ่นเหลียงก็พิจารณาถึงปัญหานี้เหมือนกัน เธอได้พูดอย่างเกิดความคิดขึ้นมาเฉียบไว “งั้นพวกเราก็……ปีนกำแพงเลย ”

ไม่ให้โอกาสมู่น่อนน่อนได้ไหวตัว เสิ่นเหลียงก็ดึงมู่น่อนน่อนอ้อมมาถึงหลังโรงเรียนแล้ว

เธอเดินไปด้วยและพูดไปด้วย “เมื่อก่อนตรงนั้นมีกำแพงเตี้ยๆอันนึงไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนพวกเราก็ปีนเข้าไปจากตรงนั้นแหละ”

“แต่ผ่านมานานหลายปีแล้ว ยังปีนเข้าไปได้อีกเหรอ ”มู่น่อนน่อนรู้สึกคงจะปีนเข้าไปไม่ได้แล้ว

เสิ่นเหลียงพูดว่า “น่าจะยังอยู่นะ”

ทั้งสองเดินไปได้สักพัก ถึงเดินมาถึงกำแพงเตี้ยอันนั้น

เสิ่นเหลียงเดินมาถึงหน้าโต๊ะเรียนหนังสือตัวหนึ่ง แล้วพูดกับมู่น่อนน่อนว่า “สมัยนั้นพวกมันก็กดฉันไว้ตรงนี้และตบตีฉันอยู่ที่ตรงนี้แหละ ”

ตอนนี้เธอเอ่ยถึงปุ๊บก็อารมณ์ขึ้นเลย “ขนาดแม่ฉันยังไม่เคยตีฉันแบบนั้นเลย ที่ผ่านมาฉันตีคนอื่นตลอด ไม่นึกเลยว่าเด็กม.4พวกนั้นก็กล้าตีฉันด้วย”

“ฉันไม่ได้ถามสักที เธอทำให้พวกเธอย้ายโรงเรียนได้ยังไง ”มู่น่อนน่อนค่อนข้างแปลกใจ ตอนนั้นหลังจากเกิดเรื่องแล้วเธอรู้แค่ว่านักเรียนพวกที่รังแกเสิ่นเหลียงล้วนถูกย้ายโรงเรียนหมด ตอนนั้นเธอกับเสิ่นเหลียงไม่ได้สนิทกันมาก ดังนั้นเลยไม่เคยถามว่าระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น

เสิ่นเหลียงพูดคำเดียวให้ผ่านไป “ใจเสาะ ถูกฉันขู่น่ะสิ”

“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว”เสิ่นเหลียงเดินมา ยื่นมือพาดอยู่บนไหล่ของมู่น่อนน่อน แล้วพูดอย่างทอดถอนใจ “จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังสามารถนึกภาพได้เลย หน้าตาเท่ๆตอนนั้นของเธอ ตอนนั้นฉันก็อยากเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเธอแล้ว”

มู่น่อนน่อนแซวเธอ “ไม่เท่เท่าเธอหรอก ตอนนั้นเธอตบตีดื่มเหล้าอยู่ข้างนอก คุณครูยังคิดว่าเธอเป็นเด็กดีอีก เพื่อนนักเรียนต่างก็ชอบเธอมาก”

เสิ่นเหลียง“เชอะ”ทีนึง “ตอนนั้นฉันบรรลุนิติภาวะแล้วนะ ดื่มเหล้าอย่างถูกกฎหมาย ส่วนเรื่องตบตีกัน ก็พวกมันมาหาเรื่องฉันก่อนหนิ”

ก็จริง ตอนนั้นที่เสิ่นเหลียงมีเรื่องตบตี นอกจากผู้หญิงที่ริษยาเธอมาหาเรื่องเธอถึงที่แล้ว ยังมีผู้ชายใจคดอยู่ไม่น้อยเลยที่คิดนอกลู่นอกทางกับเธอ

ทั้งสองเม้าท์มอยถึงเรื่องของสมัยนั้น ก็พูดเยอะจนไม่รู้ตัว เม้าท์มอยกันอย่างเมามันเสร็จ ก็ได้ไปดูห้องเรียน

ปรากฏตอนที่ดูห้องเรียน ก็ถูกคนเฝ้าประตูที่ตรวจตราพบเห็น

“ใครอยู่ทางโน้น ”

ไฟฉายสว่างจ้าส่องมา มู่น่อนน่อนกับเสิ่นเหลียงวิ่งออกไปข้างนอกด้วยกัน

คนเฝ้าประตูก็ได้วิ่งตามอยู่ข้างหลัง

ตอนที่ทั้งสองวิ่งผ่านกำแพงเกียรติยศ มู่น่อนน่อนได้ชี้รูปถ่ายของบนนั้น “เสี่ยวเหลียง มีรูปถ่ายของเธอด้วย ”

“รีบวิ่งเถอะ ถ้าถูกคนเฝ้าประตูจับได้ รูปถ่ายของฉันก็จะแขวนอยู่บนนี้ไม่ได้แล้ว”

“พู……”

มู่น่อนน่อนอดขำไม่ได้

ตลอดทางทั้งสองได้บังใบหน้าเอาไว้ วิ่งออกไปจากประตูโรงเรียน 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม