ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 669

สรุปบท บทที่ 669 คุณโกหก: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ตอน บทที่ 669 คุณโกหก จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 669 คุณโกหก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่เขียนโดย Meow(○` 3′○) เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ทั้งสองวิ่งออกไปไกลมาก วิ่งมาถึงตลาดนัดของหลังโรงเรียนถึงหยุดลงมา

ข้างตลาดนัดมีห้องน้ำสาธารณะอยู่ มู่น่อนน่อนกับเสิ่นเหลียงได้ไปถอดชุดนักเรียนในห้องน้ำ ด้านในของชุดนักเรียนได้ใส่เสื้อนวมกันหนาวเอาไว้

เก็บชุดนักเรียนเสร็จ ทั้งสองถึงออกมาจากข้างใน

ตอนที่เสิ่นเหลียงออกมาจากห้องน้ำสาธารณะ ได้ยืนมองรอบๆอยู่ข้างกำแพง จากนั้นถึงเดินออกมาข้างนอกอย่างสบายใจ

“เสียวจังเลย เกือบจะถูกจับแล้ว”

ถึงแม้ปากของเสิ่นเหลียงจะพูดแบบนี้ แต่มู่น่อนน่อนกลับไม่รู้สึกว่าน้ำเสียงของเธอมีความเสียวซ่านเธอเลย

“ถูกจับอ่ะเรื่องเล็ก”มู่น่อนน่อนเดินมาที่ข้างกายของเสิ่นเหลียงอย่างช้าๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา “ถ้าถูกนักข่าวแอบถ่ายได้ พรุ่งนี้ก็จะขึ้นข่าวหน้าหนึ่งอีกแล้ว การค้นหายอดนิยมก็จะเป็นเธอหมดแน่นอน เดี๋ยวก็พาดหัวข่าวว่า‘ไม่นึกเลยว่านักแสดงหญิงเสิ่นเหลียงชอบosplay’ ‘ผู้หญิงที่ลับลอบเข้าไปในโรงเรียนกลางดึก’……”

เสิ่นเหลียงแสยะยิ้มมุมปาก “เธอหยุดพูดเลยนะ ฉันโรคจิตขนาดนี้นี่ไหน”

“สื่อไม่สนหรอกว่าเธอโรคจิตหรือเปล่า เพราะพวกเขาขอแค่มีกระแสมีคนคลิกดูก็พอแล้ว”

“แต่นี่ยังไม่ได้ถูกแอบถ่ายไม่ใช่เหรอ เฮ้อ หิวจังเลย หาอะไรกินกันก่อนเถอะ”

“ครั้งหน้าเธอ……”

“เอาล่ะๆ ฉันรู้แล้ว”

เสิ่นเหลียงขี้เกียจฟังมู่น่อนน่อนสั่งสอน ได้ดึงเธอวิ่งออกไปข้างนอกโดยตรง

เนื่องจากปิดเทอมฤดูหนาว อีกทั้งยังใกล้สิ้นปี ร้านในตลาดนัดปิดเยอะเลย มีแค่ไม่กี่ร้านที่ยังเปิดอยู่

ทั้งสองเลือกร้านอาหารร้านนึงแล้วเข้าไปสั่งอาหาร

โรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงไม่เยอะ แต่ตลาดนัดมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก

เมื่อก่อนตอนที่พวกเธอยังเรียนอยู่ที่นี่ ตลาดนัดล้วนถูกพวกเธอกินหมดทุกร้านแล้ว

เถ้าแก่เป็นชายวัยกลางคน ดูแล้วเป็นผู้ชายแบบที่เงียบขรึม

เถ้าแก่ถือเมนูอาหารมาถามว่า “ลองดูครับว่าจะสั่งอะไรดี”

มู่น่อนน่อนเพิ่งรับเมนูอาหารมา จู่ๆเถ้าแก่ได้ก้มหน้าและเอียงตัวเล็กน้อยพร้อมพูดเสียงเบาว่า “พวกคุณมากันแค่สองคนเหรอ ”

พอเสิ่นเหลียงฟังคำพูดของเขาแล้ว พริบตาเดียวแววตาก็เต็มไปด้วยความระแวดระวัง

เถ้าแก่ไม่ได้เอามาใส่ใจ ได้พูดเสียงเบาต่อ “เมื่อครู่มีรถคันนึงตามหลังพวกคุณมาโดยตลอด ผมยังนึกว่ามากับพวกคุณเสียอีก ถ้าไม่ใช่คนรู้จักกัน พวกคุณรีบเรียกเพื่อนมารับ หรือว่าแจ้งความโดยตรงเถอะครับ”

“อะไรนะ คุณว่า……”เสิ่นเหลียงนั่งหันหลังให้กับประตู ทันใดนั้นรู้สึกว่าแผ่นหลังตัวเองค่อนข้างเย็นเฉียบขึ้นมาทันที เธอตระหนักได้ว่าพูดจาเสียงดังเกินไป ได้รีบเอามือปิดปากเอาไว้ไม่พูดจาอีก

มู่น่อนน่อนได้นั่งหันหน้าเข้าหากับประตูพอดี เธอเหลือบมองนอกประตูแวบนึง พร้อมชี้เมนูอย่างนึงแล้วพูดกับเถ้าแก่ว่า “พวกเรารู้แล้วค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่มากนะคะ”

พอสั่งอาหารเสร็จ มู่น่อนน่อนก็ได้โทรหาฉีเฉิง

ก็ไม่รู้ว่าฉีเฉิงกำลังทำอะไรอยู่ ผ่านไปสักพักถึงรับสายเธอ

“ฉีเฉิง พวกเราอยู่ข้างนอกเหมือนจะมีเรื่องนิดหน่อย รู้สึกมีคนสะกดรอยตามพวกเรา นายมาตอนนี้ได้มั้ย ”

ฉีเฉิงถามอย่างรวบรัด “ที่อยู่ครับ”

มู่น่อนน่อนได้แจ้งที่อยู่ให้กับฉีเฉิง

เสิ่นเหลียงฟังคำพูดของมู่น่อนน่อนได้อย่างชัดเจนหมด พอมู่น่อนน่อนวางสายแล้ว เธอก็ขมวดคิ้วถาม “เธอโทรหาบอดี้การ์ดของเธอ หรือไม่เราแจ้งความโดยตรงเลยดีกว่ามั้ง ”

เท่าที่เสิ่นเหลียงดู บอดี้การ์ดอย่างมากก็แค่สามารถบดบังหน่อย เรื่องแบบนี้แจ้งความดีที่สุด

มู่น่อนน่อนส่ายหัว “เมื่อครู่พวกเราออกมาจากโรงเรียนถึงตลาดนัด ระยะทางไม่ใกล้ ถ้าคนที่สะกดรอยตามพวกเราแอบวางแผนชั่ว พวกมันมีโอกาสมากมายสามารถลงมือ แต่เราไม่แน่ใจพวกว่ามันอยากทำอะไรกันแน่ แจ้งความผลีผลามก็ไม่มีประโยชน์”

“ก็ได้ ในรถจะมีสักกี่คนกันเชียว อย่างมากก็แค่ให้ฉันได้ยืดเส้นยืดสายหน่อยเท่านั้นแหละ”ระหว่างที่เสิ่นเหลียงพูด ก็พยายามที่จะถกแขนเสื้อตัวเองขึ้นมา

แต่เสื้อหนาเกินไป เธอถกแขนเสื้ออยู่หลายทีก็ถกไม่ขึ้น……

มู่น่อนน่อนยิ้มและทำเป็นเหมือนไม่เห็น ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำที่ด้านหลังของร้านอาหาร

ในรถไม่ได้เปิดไฟ สามารถเห็นแค่เค้าโครงของคนๆนึงอย่างเลือนราง

ถึงจะเป็นแค่เค้าโครงก็ตาม มู่น่อนน่อนก็ดูออกทันทีว่าคนในรถคือใคร

ดูเหมือนคนที่อยู่ในรถก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าเธอจะโผล่มากะทันหัน ทันใดนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย

ผ่านไปครึ่งค่อนวัน มู่น่อนน่อนได้พูดพึมพำว่า “เฉินถิงเซียว ”

เขามาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังไง

เธอเคยคิดความเป็นไปได้จนนับไม่ถ้วน แต่หนึ่งเดียวที่ไม่เคยคิด คนที่อยู่ในรถจะคือเฉินถิงเซียว

ขณะนี้ เฉินถิงเซียวได้ผลักประตูออก แล้วลงมาจากในรถโดยตรง

ตอนที่เขาอยู่ในรถ มู่น่อนน่อนยังไม่มีความรู้สึกอะไร แค่รู้สึกประหลาดใจเฉยๆ

แต่พอเฉินถิงเซียวลงจากรถปุ๊บ ความได้เปรียบของส่วนสูงและออร่าที่ทรงพลัง ความดุร้ายที่คุ้นเคยแบบนั้นได้โผล่มาอีก

เขามองมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นชา “ขับผ่านมาทางนี้ ไม่ได้หรือไง ”

“คุณโกหก”มู่น่อนน่อนกำก้อนอิฐในมือไว้แน่นโดยที่ไม่รู้ตัว “เจ้าของร้านร้านบอกว่าคุณสะกดรอยตามพวกเรามาโดยตลอด”

“ถนนเส้นนี้เป็นของคุณหรือไง มีแค่คุณเท่านั้นที่มาเดินได้เหรอ ”เฉินถิงเซียวเอามือสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง น้ำเสียงแฝงด้วยการเหน็บแนม

“แล้วแต่คุณ ”มู่น่อนน่อนโยนก้อนอิฐในมือลงบนพื้นโดยตรง จากนั้นได้หันหลังเดินไปทางร้านอาหาร

ถ้าอยู่ถนนย่านธุรกิจ เจอเฉินถิงเซียวกลางดึกก็ไม่มีอะไรน่าแปลก แต่เฉินถิงเซียวจะขับผ่านสถานที่แบบนี้

มู่น่อนน่อนเชื่อเขาก็แปลกแล้ว

ใครจะไปรู้ว่าเขาปรากฏตัวอยู่ที่สถานที่แบบนี้กลางดึกคือทำอะไร

มู่น่อนน่อนเถียงเขาไม่ไหว ก็เลยไม่สนใจเขาซะเลย 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม