ตอนที่ 98 ร้องไห้ได้สมบทบาท
มู่น่อนน่อนพูดพลาง สังเกตสีหน้ามู่ลี่เหยียนไปพลาง
ตอนที่เธอเอ่ยถึงบัตรดำ เธอเห็นมู่ลี่เหยียนหน้าเจื่อนลงไปอย่างชัดเจน
ตอนนี้จ๋อยแล้วเหรอ
แต่ว่า สายไปแล้วล่ะ
มู่ลี่เหยียนเห็นท่าว่ามู่น่อนน่อนกลัวจริงไม่ได้แกล้ง ก็รู้สึกลำบากใจ พูดขึ้น“ก็อย่าเพิ่ง
บอกเรื่องบัตรดำกับเขาสิ”
มู่น่อนน่อนยิ้มเย็นชาในใจ มาจนป่านนี้แล้ว มู่ลี่เหยียนยังไม่คิดส่งบัตรดำออกมาอีก
แม้ว่าในใจเธอจะคิดแบบนี้ แต่ก็แสดงสีหน้าว่าหวาดกลัวมาก
เธอแอบหยิกขาตัวเอง เจ็บจนน้ำตาเล็ด แล้วบีบน้ำตาอีกหน่อย น้ำตาก็ร่วงผล็อยๆ
มู่น่อนน่อนพูดเสียงเครือน้ำตา“บัตรดำนั่น เฉินถิงเซียวให้หนูยืมใช้ก็เท่านั้น ต้องคืนเขาค่ะ ต่อให้หนูไม่พูด เขาก็ต้องรู้เข้าสักวัน……”
ราวกับคิดเรื่องน่าหวาดกลัวอะไรได้ มู่น่อนน่อนปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก“คุณพ่อไม่รู้หรอกว่าเขาน่ากลัวแค่ไหน เป็นปิศาจคนหนึ่งเลย เขาไม่ปล่อยหนูไปแน่นอน……”
พอมู่น่อนน่อนร้องไห้ก็เก็บน้ำตาไม่อยู่ เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองบีบน้ำตาได้สมบทบาทขนาดนี้
เอง
บางที เธออาจจะลองไปเป็นนักแสดงได้
มู่ลี่เหยียนว้าวุ่นใจพออยู่แล้ว ก่อนหน้าที่อ่อนโยนกับมู่น่อนน่อนเพราะจะขอร้องเธอ ตอนนี้เห็นเธอร้องไห้ไม่หยุดก็ยิ่งรำคาญ
“ไม่ต้องร้องแล้ว!”มู่ลี่เหยียนตะคอกอย่างอารมณ์เสีย
มู่น่อนน่อนหยุดร้องทันที แต่ยังแกล้งสะอื้น
มู่ลี่เหยียนมองเธอด้วยสายตาดูแคลน คนโง่ก็คือคนโง่ สวยแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์
เขาคิดว่ามู่น่อนน่อนยั่วยวนจนเฉินถิงเซียวหลงหัวปักหัวปรำซะอีก ถึงได้บัตรดำมาจากเฉินถิงเซียว คิดไม่ถึงว่าแค่ยืมมาใช้
มู่น่อนน่อนก็รู้สึกรังเกียจตัวเอง เธอไม่ได้อยากจะแบบนี้หรอก แค่ร้องไห้สมบทบาทเกินไปก็เท่านั้น
มู่ลี่เหยียนถามขึ้นราวกับตัดสินใจครั้งใหญ่อะไร“แล้วถ้าหาบัตรดำกลับมาได้ล่ะ”
“หากลับมาได้หรือคะ”
มู่น่อนน่อนแสดงสีหน้าประหลาดใจ แล้วก็สลดกลับไปตามเดิม เธอยิ้มเจื่อนๆ“จะหากลับมาได้ไงกัน โจรหน้าตายังไงหนูยังไม่เห็น……”
มู่ลี่เหยียนพยายามสังเกตสีหน้าท่าทางของมู่น่อนน่อน ยืนยันว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับการลักพาตัว จึงขมวดคิ้วพูด“พ่อจะลองหาวิธี”
……
พอออกจากห้องทำงานมู่ลี่เหยียน มู่น่อนน่อนจึงไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ
โชคดีที่วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้า ไม่อย่างนั้นคงดูไม่จืด
ล้างหน้าเสร็จ เธอรู้สึกว่าตาจมูกแดงไปหมด
เมื่อกี้ร้องไห้สมบทบาทจริงๆ
เธอกลับไปที่ที่นั่งตัวเอง เพื่อนข้างๆเห็นท่าทางของเธอจึงถามด้วยความเป็นห่วง“น่อนน่อน เป็นอะไรไป”
มู่น่อนน่อนส่ายหน้า“เปล่าค่ะ”
เพื่อนร่วมงานจึงไม่ได้ถามอะไรมากนัก แต่เพื่อนที่เห็นเลขาของมู่ลี่เหยียนที่มาหาเธอพูดขึ้น“ท่านประธานเรียกเธอน่ะ”
“ท่านประธานเรียกเธอทำไมน่ะ”
“ไม่รู้สิ เรื่องโรงงานมั้ง เพราะเธอแต่งกับเฉินถิงเซียว ท่านประธานคงอยากอาศัยความสัมพันธ์……”
“……”
มู่น่อนน่อนฟังอยู่เงียบๆ รู้สึกว่าคนฝ่ายกิจกรรมนี่เก่งกาจจริงๆ ทายถูกด้วย
พวกเขาพูดอะไรต่อ มู่น่อนน่อนไม่ทันฟัง แต่ได้ยินแว่วๆว่า“เกินไปแล้วจริงๆ……ท่านประธานทำแบบนี้ได้ไง……”ประมาณนี้
มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจว่าสองคนนี้กินอะไรบำรุงสมอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...