อันที่จริง ซุนจ่างเซิงเป็นคนในสมัยสาธารณรัฐจีน ขณะนั้นเขาทำธุรกิจในเมือง
อยู่มาวันหนึ่งเขาเดินผ่านแผงขายข้าวของร้านหนึ่งเข้า มองเห็นคู่หมั้นของเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านเป็นชายหนุ่ม ความคิดกว้างไกล ทำธุรกิจไปไม่ถึงสามเดือนเขาก็เป็นร้านขายข้าวที่ขายดีที่สุดในแถบนั้นแล้ว เนื่องจากยุ่งมากๆ คู่หมั้นของเขาเลยออกปากว่าจะมาช่วยขายด้วย
“คู่หมั้นของเขากับเขานั้นโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้ห้ามอะไรก็เข้ามาช่วยแล้ว ฉันเห็นเธอครั้งแรกก็ถูกเธอดึงดูดเข้าแล้ว…”
หญิงสาวหน้าตาสวยฉ่ำ ออร่าสุดๆ ร่างกายสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ซุนจ่างเซินจู่ๆ ก็เกิดความคิดขึ้นมาทันที
ด้วยความที่เขาทำธุรกิจ มือก็คงสกปรก
ในคืนวันนั้นเขาหาคนปีนเข้าไปที่ร้านขายข้าวสาร แล้วเอายาเบื่อหนูใส่ในถุงข้าสารทุกถุง
ซูเหอเวิ่นถึงกับเหวอ “เอายาเบื่อหนูใส่ในข้าวสาร?!”
บ้าไปแล้ววว!
จากประวัติศาสตร์ที่เขาเคยเรียนมา ในช่วงเวลานั้นมีชาวบ้านยากจนเยอะมากที่ต้องทำงานหนักทั้งเดือนเพื่อจะแลกกับข้าวสารแค่ครึ่งถุง ทั้งครอบครัวจึงต้องพึ่งพาข้าวถุงนี้ประทังชีวิต
แต่ซุนจ่างเซิงกลับเอายาเบื่อหนูใส่ลงในถุงข้าวสาร
ต้องรู้ด้วยว่าในหนึ่งวันที่ร้านขายข้าวสารออกไปมากมายไม่รู้กี่ถุง โดยเฉพาะที่เขาบอกว่าธุรกิจดำเนินไปได้ดีสุดๆ นี่ไม่เท่ากับว่ากำลังฆ่าคนหรอกเหรอ?
ซู่เป่าทำคิ้วขมวด พร้อมบอกว่า “มันสามารถฆ่าคนตายได้มากมายขนาดนี้ นี่เธอไม่รู้เหรอ?”
ซุนจ่างเซิงกล่าว “ฉันรู้ แต่แล้วไงล่ะ?ยุคนั้นทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตยากลำบาก มีคนมากมายที่ทนไม่ไหวแล้วฆ่าตัวตาย ที่ฉันทำคงไม่นับเป็นอะไรกระมัง!”
พวกซู่เป่า “…”
ซุนจ่างเซิงไม่สนใจจริงๆ สำหรับเขาแล้ว ชีวิตของคนอื่นจะเป็นตายร้ายดียังไงก็คงเหมือนกับชีวิตของมด เขาไม่สนใจหรอก
วันรุ่งขึ้น ดันมีคนเป็นเพราะกินข้าวที่ผสมยาเบื่อหนูตายจริงๆ ทั้งครอบครัวถูกวางยาตาย
และไม่ใช่แค่ครอบครัวเดียวที่ตาย แต่มีหลายครอบครัวที่ตาย บ้างก็อาเจียน บ้างก็เจ็บปวดสาหัส
ตำรวจตามหาเบาะแสจนเจอว่ามาจากร้านขายข้าวสาร จึงรีบไปจับตัวเจ้าของร้านมา
เจ้าของร้านถูกปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากไม่พบหลักฐาน แต่ครอบครัวที่โดนวางยาจากการกินข้าวล้วนมารวมตัวอยู่ที่หน้าบ้านของเขา
เจ้าของร้านถึงกับปวดหัว
“เขายิ่งร้อนเงินอยู่ ชาวบ้านก็ไม่กล้ามาซื้อข้าวสารร้านเขา ณ เวลานั้นเขาก็คิดแผนออก……”ซุนจ่างเซิงเอ่ย “ฉันหาคนที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้าไปซื้อข้าวสารมาสองคน แล้วลากเจ้าของร้านไปกินข้าวคุยธุรกิจกัน…”
ระหว่างที่ทั้งสองคนทำให้เจ้าของร้านข้าวสารเมาจนหมดสติไม่รู้เรื่อง จากนั้นซุนจ่างเซิงก็นำสัญญาที่เขาเขียนไว้แล้ว บังคับเอานิ้วมือของเจ้าของร้านมาปั๊มลายนิ้วมือ
ซูเหอขมวดคิ้วถาม “แล้วในสัญญาเขียนอะไรไว้?”
ซุนจ่างเซิงตอบ “ฉันก็เขียนในสัญญาว่าให้เขายินยอมโอนร้านขายข้าวสารให้ฉัน ขณะเดียวกันก็ให้ขายอาฮวามาขัดดอกใช้หนี้”
อาฮวาคือคู่หมั้นของเขา
ยังไงเจ้าของร้านขายข้าวสารก็ร้อนเงิน เป็นเพราะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับคนที่ถูกวางยาตาย ถึงกับรีบจนปากพองไปหมด
ดังนั้นการที่เขาขายร้านกับคู่หมั้นมาใช้หนี้ ก็ถือว่ามีเหตุผลนี่!
เจ้าของร้านไม่รู้เรื่องเลย จนกระทั่งซุนจ่างเซิงพาคนเข้าไป
ซู่เป่ายิ่งฟังยิ่งโกรธ เฮือกเดียวบีบชูครีมในมือจนแบน “แล้วไงต่อ?”
ซุนจ่างเซิงเอ่ย “จากนั้นผมก็สมหวัง”
ร้านขายข้าวสารกลายเป็นของเขา รวมถึงอาฮวาก็เป็นของเขาด้วย
เจ้าของร้านขายข้าวสารยังคงสู้สุดชีวิต ถูกคนของเขาแอบจับตัวไป กระทืบจนตายแล้วโยนลงแม่น้ำ
อาฮวาพอทราบข่าว ก็ตัดสินใจผูกคอตายด้วยความเสียใจ
ซุนจ่างเซิงเอ่ย “ตอนแรกนึกว่าแค่โยนเจ้าของร้านลงแม่น้ำก็คงตายไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ตาย แล้วแอบเข้ามาในบ้านฉันกลางดึก จับตัวฉันที่กำลังนอนหลับสนิท”
พอพูดถึงตรงนี้แล้วซุนจ่างเซิงก็รู้สึกคับแค้นใจขึ้นมา เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“จู่ๆพวกคนชั้นต่ำเลวทรามพวกนั้น ไม่รู้ไปเอาม้าที่แข็งแรงห้าตัวนั้นมาจากไหน มาผูกไว้ทั้งห้าด้าน…”
“จากนั้นก็มามัดหัวฉัน สองแขนสองขากับบนตัวม้า แล้วก็โยนประทัดลงไปตรงกลาง ม้าก็ตกใจวิ่งไปทั้งห้าด้าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...