พูดตามตรง ฝีมือของนายหญิงซูไม่ได้แย่เลย
ไม่ว่าอาหารคาวหรือของหวานท่านก็ทำออกมารสชาติดีไม่แพ้ภัตตาคารห้าดาวเลย
เพียงแต่ว่านายหญิงซูเริ่มทําอาหารเช้าตอน 7-8 โมงเช้า ทําอาหารว่างหลังอาหารตอน 10 โมงเช้า กินข้าวเที่ยงตอนเที่ยงตรง ของหวานมื้อบ่ายตอนบ่ายสาม กินข้าวเย็นประมาณ 6 โมงเย็น หลังอาหารยังมีชาผลไม้ โจ๊กเพื่อสุขภาพ...
ให้ตายเถอะ ก่อนเข้านอนยังถามอีกว่ากินมื้อดึกไหม?
แบบนี้ใครจะไปกินไหว
เมื่อตอนซู่เป่าเพิ่งมาถึงบ้านซูเธอผอมโย่ง แต่ตอนนี้ใบหน้าเล็กอ้วนเป็นชั้น มือเล็ก ๆ ก็มีแต่เนื้อ กอดนุ่มไปทั้งตัวแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะมู่กุยฝานไปวิ่งและออกกําลังกายทุกวัน คาดว่าตอนนี้ซิกแพคคงรวมกันเป็นก้อนเดียวแล้ว
ซูอีเฉินโทรศัพท์ “ชวีเสี่ยง เอาเอกสารโครงการใหม่ของบริษัทมาให้ผมหน่อย... อ๋อ คุณพาเกาหย่วนหางมาด้วยนะ”
ปลายสายชวีเสี่ยงวางสายด้วยความงุนงง
เขาเดินไปทางห้องทํางานท่านประธานแล้วก็เห็นว่ามีคนกลุ่มคนแอบมองอยู่นอกประตู
“มุงดูอะไรกัน ยังไม่รีบไปทำงานของตัวเองอีก” ชวีเสี่ยงพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ทุกคนก็รีบแยกย้ายกันไปทันที แต่ละคนแกล้งทําเป็นปริ้นเอกสาร ชงกาแฟ ปรึกษาเรื่องงานกับเพื่อนร่วมงาน...
ชวีเสี่ยงเขย่าตัวเกาหย่วนหาง พักใหญ่กว่าเกาหย่วนหางจะลืมตาขึ้นด้วยสีหน้างงงวย
“ไปกันเถอะ!” ชวีเสี่ยงพูด
เกาหย่วนหางลุกขึ้นมาอย่างสับสนมืนงง แล้วก็ต้องลูบคอตัวเอง
ทำไมเมื้อยคอจังเลย แล้วนี่เขาหลับไปได้ยังไง??
เขารู้สึกเจ็บตรงริมฝีปากขึ้นมาเลยเอามือไปจับแล้วก็ร้องซี๊ด
“ผู้ช่วยชวี พวกเราจะไปไหนกันครับ” เกาหยวนหางที่เดินตามหลังชวีเสี่ยงถามขึ้น
ชวีเสี่ยงตอบว่า “ท่านประธานซูบอกให้พวกเราเอาเอกสารฉบับหนึ่งไปให้เขาที่บ้าน”
เกาหย่วนหาง “ห๊ะ อ๋อ ครับ...”
หลังจากทั้งคู่ออกไป
ในออฟฟิตเสียงอึกทึกราวน้ำที่เดือดปุด ๆ
“เห็นไหม! ริมฝีปากของเขาถูกกัดเลือดออก! พระเจ้า มันต้องดุเดือดขนาดไหนเนี่ย...”
“แม่เจ้า เหมือนว่าพวกเขาจะไปบ้านประธานซูกันนะ พาไปเจอพ่อแม่เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
“เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ประธานซูเพิ่งจะพาผู้ชายคนที่ทั้งสูงทั้งหล่อคนนั้นกลับไปไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ผู้ช่วยชวีกับผู้ช่วยคนใหม่ก็กำลังไป... นี่ครอบครัวแบบไหนกันเนี่ย???”
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน
ชวีเสี่ยงและเกาหย่วนหางไม่รู้ว่าหรอกว่านี่เป็นครอบครัวแบบไหน
รู้แค่ว่าตอนไปก็ยังดี ๆ กันอยู่ แต่ตอนกลับพวกเขาท้องแทบแตก...
พอซู่เป่าเห็นเกาหย่วนหางทันใดนั้นก็นึกถึงเตียงน้ำขึ้นมาได้อีกครั้ง
เธอรีบวิ่งไปที่ห้องซูเหอเวิ่น
ซูเหอเวิ่นกําลังทําแหจับปลา มีกระดิ่งเล็ก ๆ หลายอันผูกติดกับแหจับปลาไว้
ข้าง ๆ เขายังมีชามผงชาดแดงใบหนึ่งวางอยู่ ตอนนี้กําลังเอาชาดแดงมาย้อมตาข่ายและกระดิ่งให้เป็นสีแดงทั้งหมด
ซู่เป่าถามด้วยความสงสัยว่า “พี่คะ พี่กําลังทําอะไรอยู่เหรอ?”
ซูเหอเวิ่นตอบว่า “พี่กําลังทําตาข่ายจับผีอยู่ ก็คือสิ่งที่หว่านออกไปตอนกลางคืนแล้วจะจับผีได้ทีเดียวเจ็ดแปดตัว”
ซู่เป่า “เหมือนจับปลาน่ะเหรอ?”
ซูเหอเวิ่นตอบว่า “อืม”
ซู่เป่า “พี่คาะ ในเมื่อพี่กลัวผีขนาดนั้น แล้วพี่จะจับผีมาเยอะขนาดนั้นทําไม?”
ซูเหอเวิ่นมองเธอแวบหนึ่งตอบว่า “ก็ช่วยเธอจับผีน่ะสิ”
ซู่เป่าร้องเอ๋แล้วตบไหล่ซูเหอเวิ่น “พี่ดูอะไรนี่สิ”
พูดจบ มือเล็ก ๆ ของเธอโบกไปโบกมามา แล้ววาดอะไรมั่ว ๆ กลางอากาศ แล้วหล่อแกที่มีแสงสีเงินหน้าตาเหมือนดวงจันทร์ก็ปรากฎขึ้นต่อหน้า
ซูเหอเวิ่นอึ้ง (°ー°”)
ซู่เป่าเก็บหล่อแกกลับไป แล้วส่งเสียงฮ่าอีกครั้งตาข่ายสีแดงก็ลอยออกมา
ซูเหอเวิ่น “!!!”
เขามองตาข่ายของซู่เป่าแล้วหันมองตาข่ายของตัวเองอีกที
นี่... ดูเหมือนว่าเขาจะเสียแรงเปล่าสินะ?
ซู่เป่าเก็บตาข่ายจับวิญญาณแล้วพูดเบาว่า “พี่คะ เราไม่ทำอันนี้แล้ว... พี่รู้จักเตียงน้ำไหม?”
ซูเหอเวิ่นงงงวย “เตียงน้ำอะไร?”
ซู่เป่าสีหน้าผิดหวังขึ้นมาทันที “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...