ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 310

ซูเหอเหวินตึงเครียดขึ้นมาทันที เขาลุกขึ้นยืนและกระซิบว่า “ซู่เป่า!”

ซู่เป่าเงยหน้าขึ้นปลอบเขาว่า “พี่ใหญ่ ไม่ต้องห่วงนะ ไม่เป็นไรหรอก!”

ซูเหอเหวินทำอะไรไม่ถูก

จะไปคาดหวังให้เด็กน้อยรู้ถึงอันตรายล่วงหน้าได้ไง ตอนนี้พวกเขาถูกคนจงใจขังเอาไว้แบบนี้ เธอยังไม่เอะใจเลย!

ซูเหอเหวินบังคับลากเธอออกไป “ไปกันเถอะ น้องกับซูเหอเวิ่นมาที่อะไรกันนี่?”

สิ่งที่ยืนยันได้ในตอนนี้คือสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ปกติอย่างแน่นอน

ซู่เป่าตอบว่า “ที่ที่มีคนน้อยไง! พี่ไม่ชอบที่ที่คนเยอะไม่ใช่เหรอค่ะ?

ซูเหอเหวินพูดไม่ออก

“ไปกัน” เขาลากซู่เป่าออกมาด้วยหน้าตาเย็นชา

ซู่เป่ารีบหยิบของบางอย่างในกระเป๋าสะพายข้างอย่างลนลาน “พี่ค่ะ เดี๋ยวก่อน หนูยังไม่เสร็จธุระเลย”

เธอหยิบยันต์สีเหลืองออกมาและวิ่งตึก ๆ ๆ ไปที่กล่องใบนั้น เขย่งเท้าพยายามเปิดมันอย่างยากลำบาก

ไม่ถึง...

พี่ค่ะ!เธอทำตาโตบลิ๊ง ๆ มองซูเหอเหวิน

ซูเหอเหวินพยายามสะกดขมับที่เต้นตุบ ๆ เขาจ้องกล่องไม้ใบนั้นอย่างไม่วางใจ แล้วเปิดมันอย่างระมัดระวังจากนั้นถอยออกไปทันที

เขารู้สึกว่าได้เท้าของเขามีความรู้อะไรนุ่ม ๆ ลื่น ๆ เขาก้มหน้าลงมองก็เห็นว่ากำลังเหยียบผมสีดำกลุ่มหนึ่งอยู่...

ซูเหอเหวินใจหายแวบ

ซู่เป่าเขย่งเท้าโยนยันต์สีเหลืองลงไปในกล่องไม้ ทันใดนั้นก็มีเปลวไฟสีเขียวลุกขึ้นมา

มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างกะทันหัน เสียงแหลมปี๊ดและฟังรีบร้อน แต่แค่แวบเดียวก็หายไป

ซูเหอเหวินเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ เขาอ้าปากค้างมองไปที่กล่องไม้ที่กำลังลุกไหม้

นี่มัน...น้องจุดไฟตั้งแต่เมื่อไหร่??

ไม่สิ เมื่อเสียงใครกรีดร้อง?!

เขาถึงขั้นสงสัยว่าเขาเห็นภาพหลอนหรือเปล่า

เปลวไฟดับลงอย่างรวดเร็ว ซูเหอเหวินไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เขาอุ้มซู่เป่าขึ้นมาอีกครั้งกำลังจะออกไป

ซู่เป่าคว้าพลั่วอันเล็ก ๆ ขึ้นมาแล้วโบกมือเล็ก ๆ ของเธอ “พี่ค่ะ เดี๋ยวก่อน ครั้งสุดท้ายแล้ว!”

ซูเหอเหวินเห็นเธอทำหน้ากังวลและจริงจังมาก จึงอุ้มเธอเข้าไปใกล้ ๆ โดยไม่รู้ตัว มองดูเธอจับพลั่วขนาดเล็กกวนไปมาในกล่องไม้

ในขณะที่กวนเธอก็พึมพำไปด้วย “ตี ๆ ๆ! ตีเจ้าวายร้ายให้ตาย”

“…”

เมื่อเห็นว่าในที่สุดเธอก็หยุดสักที ซูเหอเหวินก็หยิบพลั่วเล็ก ๆ ในมือของเธอโยนทิ้งไป แล้วรีบเดินไปที่ประตูกระจก

ประตูถูกล็อคจริง ๆ ด้วย

“เราออกไปไม่ได้”

ซูเหอเหวินยกนาฬิกาขึ้นมาเตรียมตัวจะโทรศัพท์ปรากฎว่าในนี้ไม่มีสัญญาณ

เขาโทรหา 110 อย่างไม่ลังเล ถึงจะไม่มีสัญญาณแต่ก็สามารจโทรแจ้ง 110 ได้

เมื่อโทรติดแล้วซูเหอเหวินก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ฮัลโหล...เราถูกขังอยู่ในร้าน สปริง ทรี เฮาท์บนชั้น 38 ของตึกซางม่าวในเขตซีเหลียง... “

ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็เห็นซู่เป่าคว้าตัวล็อคเหล็กและดึงมันอย่างแรง

ตัวล็อคเหล็กที่หนากว่าแขนของเธอถูกกระชากขาด

ล็อคประตูของประตูกระจกบานนั้นก็เปิดออกดังคลิ๊ก

ซูเหอเหวินที่กำลังยกนาฬิกาพูดโทรศัพท์อยู่ชะงักค้างไปทันใด

“รีบไปเร็ว!”ซู่เป่าลากซูเหอเหวิน

ซูเหอเหวินอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก เขามองซู่เป่าด้วยความตกตะลึง

หรือว่าเมื่อกี้ว่าประตูจะแค่หุบไว้เฉย ๆ งั้นเหรอ??

เสียงจากปลายสายดังขึ้น “เฮ้ ๆ” ซู่เป่าแขย่งเท้าตะโกนว่า “คุณลุงตำรวจรีบมาที่นี่เร็วค่ะ ที่นี่มีคนที่นี่มีเถ้ากระดูกคน...”

ซูเหอเหวินกดตัดสายทันที

ไปพูดมั่วกับคนอื่นยังพอทน แต่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งความเท็จไม่ได้

ซูเหอเหวินรีบพาซู่เป่าออกไปออกไปข้างนอก ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีซูเหอเวิ่นอยู่ข้างนอกอีกคน ถ้าคนที่นี่เป็นคนไม่ดี งั้นซูเหอเวิ่นที่อยู่ข้างนอกล่ะ?

ระหว่างทางต้องผ่านตู้โชว์ตุ๊กตาที่แปลกประหลาดและน่าพิศวง แต่ซูเหอเหวินก็ไม่ได้สนใจ ซูเป่าโดนเขาลากไปเธอหอบแหก ๆ พลางพูดว่า “พี่ค่ะ ช้าหน่อยซู่เป่าตามไม่ทันแล้ว!”

ซูเหอเหวินชะลอความเร็วลงโดยสัญชาตญาณ กำลังจะหันกลับไปอุ้มซู่เป่าขึ้นมา จึงบังเอิญเห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งลอยตามหลังซู่เป่ามา ใบหน้าของมันซีดเซียวและจ้องตรงมาที่เขา มีเสียงหัวเราะแหลมปรี๊ดดังอยู่รอบตัว ราวกับว่ามีคนจำนวนนับไม่ถ้วนแอบมองเขาอยู่ในความมืด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน