ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 349

เห็นญาติโกรธ หญิงวัยกลางคนอีกด้านหนึ่งก็รีบพูด “เสี่ยวหงเธอก็อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของพี่เขยเธอเลย เขาก็เป็นแบบนี้ พูดจาไม่น่าฟัง แต่จริง ๆ แล้วก็จิตใจดี”

เสี่ยวหงเป็นลูกสาวของผู้ป่วย เมื่อไม่กี่วันก่อนตอนพ่อของเธอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จู่ ๆ หมอก็ให้พวกเขารีบส่งไปห้องผู้ป่วยฉุกเฉินทันที

หลังจากหมอที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินมาตรวจ ก็รีบให้นอนโรงพยาบาล ทางด้านห้องผ่าตัดก็รีบเตรียมผ่าตัดด่วน

หลังจากช่วยชีวิตผู้ป่วยกลับมาได้ ก็พบปัญหาที่ใหญ่ขึ้น เขายังมีโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้นอนที่แผนกผู้ป่วยหัวใจหนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็ถูกเปลี่ยนไปแผนกมะเร็งวิทยาเพื่อทำการผ่าตัด จนถึงวันนี้ก็พักอยู่โรงพยาบาลมาสองเดือนกว่าแล้ว

ผู้ป่วยคนนี้บังเอิญเป็นผู้ป่วยของซูอี้เซิน ชื่อว่าหวางต้าเฉวียน ตอนผ่าตัดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ได้ซูอี้เซินเป็นหมอผ่าตัด

ปัจจุบันหัวใจของเขาใส่ขดลวดไปสามเส้น บวกกับเป็นความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน รวมทั้งได้รับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่มาด้วย ดังนั้นก็เลยห้ามไม่ให้เขาดื่มเหล้าสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด รวมทั้งเรื่องการกินก็ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาล

เรื่องพวกนี้เมื่อกี้ซูอี้เซินก็ได้บอกไว้หมดแล้ว หมอที่มารับหน้าที่ต่อก็ไม่วางใจก็เลยกำชับไปอีกครั้ง เห็นได้ชัดเลยว่าการควบคุมอาหารกินนั้นสำคัญมากขนาดไหน

จึงเป็นสาเหตุให้เสี่ยวหงโกรธมาก

คราวนี้เธอไม่สนใจลูกพี่ลูกน้องและพี่เขยของเธออีกเลย จึงชักสีหน้าเดินจากไป ขณะนั้นเองทุกคนก็ตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัด

ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ทำได้เพียงคลี่คลายสถานการณ์แกล้งทำเป็นพูดออกไปอย่างโมโห “ปากอยู่ดีไม่ว่าดี รู้ว่าดีใจที่อาห้าจะออกจากโรงพยาบาล คนไม่รู้เขาก็คิดว่าคุณไม่หวังดีกับอาห้านะ!”

คุณลุงวัยกลางคนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เห็นเสี่ยวหงชักสีหน้าใส่ เขาเองก็ไม่ชอบจึงไม่สนใจเสี่ยวหงเหมือนกัน รู้สึกเพียงว่าเด็กคนนี้คิดเล็กคิดน้อย

พวกญาติ ๆ จะก็นั่งไม่ลงอีกต่อไป ทยอยพูดกันว่า “ออกจากโรงพยาบาลก็ดีแล้ว งั้นพวกเรากลับกันก่อนนะ อีกสองวันไว้ไปเยี่ยมที่บ้านนะ!”

หวงต้าเฉวียนโบกมือลา

หลังจากไปกันหมดแล้ว เสี่ยวหงก็พูดออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “พ่อ หนูจะบอกพ่อว่าอย่าไปสนใจพี่เขยอย่างเด็ดขาดเลยนะ! หมอก็บอกแล้วว่าไม่ให้ดื่มเหล้า ถ้าพ่อจะดื่มอีก พ่อก็รอความตายไปเถอะ”

หวงต้าเฉวียนนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย พูดโน้มน้าว “เธอก็อย่าไปสนใจพี่เขยเลย เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ”

เสี่ยวหงยิ้มเย้ยหยัน “เพราะเขาเป็นคนแบบนี้ไง แล้วจะปล่อยคนอื่นไปทำตามเขางั้นเหรอ”

เธอหวนคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนตอนที่เธอสอบได้ลำดับท้าย ๆ ตอนมอปลาย พี่เขยคนนี้ก็ดีใจเป็นพิเศษ พอเจอคนอื่นก็พูด “ฉันว่าแล้วเชียวว่ายัยเสี่ยวหงยังไงก็สอบไม่ติด ทำเป็นขยันขันแข็ง มองออกมานานแล้ว”

ต่อมาก็ตอนเธอจะเรียนต่อ! พี่เขยของเธอก็ยิ่งหนักกว่าเดิม ตอนดื่มเหล้าพูดกับญาติ ๆ ว่า “ถ้าเสี่ยวหงสอบเข้ามหาลัยได้นะ ฉันจะรีบจุดประทัดเลย และจะให้เงินเธออีกสามหมื่น!”

ตอนเสี่ยวหงอยู่มอปลายก็ติดเล่นจริง ๆ ชอบไปเล่นอินเทอร์เน็ตที่ร้านคอมฯ

แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ผลการเรียนของเธอก็ไม่ได้แย่ แล้วก็ตั้งเป้าว่าจะเอาชนะลูกชายของพี่เขยอยู่ตลอด ดังนั้นตอนที่ผลการเรียนของเธอดันไปอยู่ลำดับท้าย ๆ พี่เขยของเธอถึงได้ดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนั้น

ต่อมาเธอก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้

พี่เขยทำอย่างไรล่ะ ก็เงียบกริบไปเลยน่ะสิ

อีกด้านหนึ่ง คุณลุงวัยกลางคนเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยอย่างไม่สบอารมณ์

“พูดเล่นเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น กลับถูกชักสีหน้าใส่ ฉันก็เคยบอกแล้วว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้หยิ่งผยองมาก ชอบดูถูกคนอื่น”

ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหงก็หมดคำพูด “งั้นคุณก็หัดพูดให้น้อยลงสักหน่อยจะได้ไหม”

คุณลุงวัยกลางคนขมวดคิ้ว “ทำไมผมต้องพูดให้น้อยด้วยล่ะ สิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง มันมีที่ไหนกันนั่นก็กินไม่ได้ นี่ก็กินไม่ได้ เธอดูคุณตาที่หมู่บ้านเราคนนั้นสิ ทั้งดื่มเหล้าสูบบุหรี่อะไรก็กินหมดทุกอย่างจนตอนนี้อายุเก้าสิบแล้ว”

ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหงดูเหมือนจะเห็นด้วย ก็เลยไม่ได้พูดอะไร

และไม่มีใครเห็นผีร้ายตาเขียวโพนที่กำลังเกาะอยู่บนหัวของชายวัยกลางคน...

**

หลังจากพวกซู่เป่าทานข้าวเสร็จ เพื่อนร่วมงานของซูอี้เซินก็บอกว่าได้ทำงานล่วงเวลาเพื่อเอาผลตรวจของซูจื่อซีออกมาแล้ว ให้เขากลับไปที่ห้องผู้ป่วยอีกครั้ง ผลตรวจวางไว้ที่โต๊ะทำงานเขาแล้ว

พวกซู่เป่าก็ตามกันไปด้วย ก็เห็นลูก ๆ พยุงหวงต้าเฉวียนเดินออกมาทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล กำลังยืนขอบคุณพวกพยาบาลอยู่พอดี

พอเห็นซูอี้เซิน เสี่ยวหงก็รีบพูด “คุณหมอซูวันนี้พวกเราจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ช่วงที่ผ่านมาต้องขอบคุณคุณมาก ๆ เลยนะคะ”

ลูก ๆ คนอื่นของหวงต้าเฉวียนก็ทยอยขอบคุณกัน

ซูอี้เซินโบกมือ “เป็นหน้าที่ผมครับ ไม่เป็นไรเลย กลับไปต้องระมัดระวังเรื่องการกินนะครับ อย่าดื่มเหล้าสูบบุหรี่เด็ดขาดเลย ห้ามกินของเผ็ด ห้ามกินของแสลง อาหารการกินต้องดูโภชนาการน้ำตาลและไขมันต่ำเป็นหลัก”

เสี่ยวหงและคนอื่น ๆ ก็พากันพยักหน้า

ซู่เป่ามองป้าตรงหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“บนตัวของเธอเหมือนจะแปดเปื้อนไอชั่วร้ายอยู่นิดหน่อย น่าจะเป็นผีปากเปราะตนนั้น เป๋าน้อย เดี๋ยวเจ้าลองหาวิธีติดต่อพวกเขาจากลุงเล็กของเจ้าหน่อย” จี้ฉางกล่าว

ปากเปราะ พูดง่าย ๆ ก็คือปากพูดไม่หยุด ไม่สนใจใคร สนใจแค่ตัวเองว่าสนุก ไม่สนคำพูดตัวเองว่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกดีหรือไม่ดี ถึงทำให้คนอื่นเสียใจพวกเขาก็ไม่สน

วัน ๆ คอยปั้นข่าวลือพูดเรื่องชาวบ้านตั้งแต่เช้ายันค่ำ คนพวกนี้ก็จัดว่าเป็นพวกปากเปราะเช่นกัน และคนประเภทนี้พอตายไปมักจะตกนรกโดนดึงลิ้น

ซู่เป่าพยักหน้า “อื้ม!”

เสี่ยวหงร้องว้าว "หมอซู นี่ลูกสาวของคุณเหรอ! น่ารักมากเลย!”

มีนกแก้วแอบอยู่ในปกเสื้อตัวหนึ่งด้วย...เสี่ยวหงรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน