เฉิงโจวยืนอยู่กับที่และมองแขกที่อยู่ในห้องรับแขก
ความดื้อรั้นในใจของเขากำลังเหิมเกริม ‘อย่าไปสนใจพวกเขา แขกบ้าแขกบออะไร เกี่ยวอะไรกับเขา ปิดประตูแล้วเข้าห้องไปเลยหรือว่าหยิบของแล้วเดินออกไป’
แต่เมื่อมองเห็นมู่กุยฝานที่เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ทำให้คนรู้สึกกดดัน...
เฉิงโจวก็พูดจากจิตใต้สำนึกว่า “สวัสดีครับคุณลุง สวัสดีครับพี่ สวัสดีครับน้อง...”
มู่กุยฝานแสยะยิ้ม “ก็ดูเชื่อฟังไม่ใช่เหรอ”
พ่อแม่ของเขอเข่อก็รู้สึกประหลาดใจเพราะไม่เคยเห็นเฉิงโจวดูเชื่อฟังขนาดนี้
“ไปรินชาให้แขกสิ” แม่ของเขอเข่อพูด “คอยดูน้องด้วย ฉันกับพ่อแกจะไปทำอาหาร...”
หลังจากสองสามีภรรยาขอโทษขอโพยเสร็จแล้วก็รีบเข้าครัวไปทำอาหาร
แผนเดิมที่วางไว้คือเมื่อแขกมาถึงก็จะเสิร์ฟอาหารพอดี แบบนี้แขกจะได้ไม่รอนาน
แต่ตอนนี้ล่าช้าแล้ว
เฉิงโจวหยิบกาต้มน้ำบนโต๊ะชาแล้ววางไว้หน้าเครื่องต้มน้ำอัตโนมัติและกดเปิดเครื่องโดยไม่พูดไม่จา
จากนั้นเดินไปหยิบชาที่ตู้แล้วคีบใบชาโยนใส่ในกาน้ำชา
เมื่อเขาเห็นมู่กุยฝานชำเลืองมอง
การกระทำของเฉิงโจวก็เปลี่ยนเป็นระมัดระวังจากจิตใต้สำนึก เขาปิดกล่องใบชาจนสนิทและวางมันกลับที่เดิม...
เขอเข่อยืนเกาะโต๊ะชาอยู่อีกด้านและมองซู่เป่าปลอกเปลือกองุ่น
ซูอวิ๋นเจาลุกขึ้นพลางพูดว่า “ฉันจะไปดูว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
ซูอวิ๋นเจารู้สึกตัวชาเพราะผีที่อยู่ข้างหลังเฉิงโจวเอาแต่จ้องเขาตลอดเวลาที่นั่งอยู่โซฟา
จากนั้นมีเสียงของพ่อแม่เขอเข่อดังออกมาจากห้องครัว ‘ปัดโธ่ ไม่ต้องช่วยหรอก ไม่ต้องช่วยหรอก’
ตามมาด้วยเสียงของซูอวิ๋นเจา ‘หลานสาวของผมค่อนข้างกินยาก ผมจะทำกับข้าวให้เธอสักสองอย่าง’
อาการป่วยของเขอเข่อยังรักษาไม่หายดี นอกจากซู่เป่าแล้ว ตัวตนของซูอวิ๋นเจาและมู่กุยฝานยังไม่ถูกเปิดเผย
ในห้องรับแขก ซู่เป่าและมู่กุยฝานจ้องเฉิงโจวในท่าเดียวกัน
ในที่สุดเฉิงโจวก็ถามอย่างอดไม่ได้ว่า “พวกคุณเอาแต่มองผมทำไม”
มู่กุยฝานชำเลืองมองเขอเข่อแวบหนึ่ง “นายก็รักน้องมากใช่ไหม”
เฉิงโจวตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมา “ให้ตายเถอะ น้องสาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกลียดมากที่สุดบนโลกใบนี้ ผมรักเธอมากเหรอ เชอะ”
เขากรอกตามองบนแล้วลูบขนที่ลุกซู่บนแขนด้วยสีหน้าเย็นชา
ซู่เป่าพูดว่า “พี่เฉิงโจว พี่ไม่ต้องปิดบังหรอก หนูดูออก”
เธอมองออกว่าเฉิงโจวไม่ได้ร้ายอะไร เมื่อก่อนเขาต้องเป็นพี่ชายที่ดีมากแน่ๆ
เฉิงโจวหมดคำพูดและไม่อยากอธิบาย เขาเทน้ำร้อนลงในกาน้ำชาและคนอย่างลวกๆ แล้วเทน้ำชาน้ำแรกทิ้ง
จากนั้นเทน้ำร้อนรอบที่สองลงไปแล้วเทน้ำชาที่ได้จากครั้งนี้ให้แขก
มู่กุยฝานมองดูการกระทำของเขาและรู้สึกว่าเด็กคนนี้ก็พิถีพิถัน
แต่เพิ่งจะคิดเช่นนั้นก็เห็นเขาพูดหยาบคายกับเขอเข่อว่า “หลบไป ถ้าโดนน้ำร้อนลวกแล้วอย่ามาว่าฉันเป็นคนทำอีกล่ะ”
เขอเข่อเบะปากและล้มลงในอ้อมแขนของซู่เป่า
เมื่อเฉิงโจวชงชาเสร็จ เขาก็ไปนั่งอีกด้านของโซฟาแล้วยัดหูฟังใส่หูพร้อมกับเปิดเกม เสียงของเกมดังมากจนแม้แต่มู่กุยฝานที่นั่งอยู่อีกด้านก็ยังได้ยิน
เขาขังตัวเองไว้ในโลกของเขาเองและไม่ยอมเชื่อมสัมพันธ์กับโลกภายนอกเลย
มู่กุยฝานถามเบาๆ ว่า “ซู่เป่า ด้านหลังเขามีผีใช่ไหม เป็นผีอะไรเหรอ”
จี้ฉางที่นั่งขัดสมาธิอยู่อีกด้านกำลังจะตอบจากความเคยชิน แต่คาดไม่ถึงว่าซู่เป่าจะแย่งตอบก่อน “เป็นผีดื้อรั้นค่ะ”
จี้ฉาง “...”
เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ ควรจะเป็นเขาเป็นคนพูดสิ
เมื่อก่อนซู่เป่าเพียงแค่ดูออกว่าเป็นผีร้ายหรือวิญญาณพยาบาท แต่เธอดูไม่ออกว่าเป็นผีอะไร
ตอนนี้กลับสามารถพูดมันออกมาได้เลย
ดังนั้นหนังสือสารานุกรมอย่างเขาคงไม่มีประโยชน์แล้วสินะ
ในขณะที่กำลังคิดเช่นนั้นซู่เป่าก็หันหน้ามาถามว่า “ท่านอาจารย์คะ ผีดื้อรั้นก็เป็นเพียงผีร้ายธรรมดา เห็นชัดๆ ว่าผีเกาะที่ตัวพี่เฉิงโจว แต่ทำไมถึงสามารถส่งผลกระทบต่อน้องเขอเข่อได้ล่ะคะ”
จี้ฉางรู้สึกชื่นใจจากการถูกต้องการและพูดว่า “ยังจำที่แม่ของเขอเข่อบอกว่าเขอเข่อเริ่มป่วยตั้งแต่ตอนไหนได้ไหม”
ซู่เป่าพยักหน้า “จำได้ค่ะ คุณป้าบอกว่าน้องเขอเข่อเริ่มป่วยตั้งแต่แรกเกิดค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...