ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 630

เมื่อเห็นผู้บังคับบัญชายกนิ้วโป้งขึ้นมา ทุกคนที่อดทนนิ่งเงียบมาตลอดทางนั้น ก็ทนไม่ไหวแล้ว

เมื่อกี้ พวกเขาพึ่งได้เห็นผีที่อยู่ในสิ่งของกับตา

ตอนนี้…..

“ผู้บังคับบัญชา ที่นี่มีอะไร?” ลูกน้องคิ้วเข้มคนนึงเอ่ยถาม

มู่กุยฝานเอ่ยถาม “ไม่มีอะไร เเค่คิดว่าพวกนายทำได้ดีมาก อย่างน้อยตอนนี้ก็รู้เเล้วว่า เก้าอี้นี้ไม่ธรรมดา”

ลูกน้องคนนั้นตื่นเต้นขึ้นมา “ใช่ไหมล่ะๆ พวกเราพัฒนาขึ้นเยอะเลย!”

มู่กุยฝาน “อืม…….”

ซู่เป่า “อืม……”

อืม จะบอกว่าไม่พัฒนาได้ยังไงล่ะ~

เมื่อก่อนไม่เชื่อเรื่องผี หลังจากเจอผีไปครั้งนึง ก็ทำการฝึกฝนเพื่อที่จะได้เห็น ด้วยทั้งความเชื่อเเละความสงสัย เเต่ฝึกอยู่นานก็ยังมองไม่เห็นผีอยู่ดี

ครั้งนี้ขึ้นเขามา เดินไปรอบๆ หมู่บ้านอยู่สองสามวัน ถึงได้รู้ว่าเก้าอี้นี้ไม่เหมือนตรงอื่น เเต่ว่านั่งไปนั่งมาอยู่นาน ก็ยังไม่เห็นผี

สุดท้ายไปเจอผีหนังมนุษย์กับผีแขนกระดูกวิ่งไล่ ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที

ดังนั้น เมื่อได้ยินมู่กุยฝานพูดว่า ‘ทำได้ดี’ ‘ที่หาเก้าอี้นี้เจอ’ พวกเขาจึงเหมือนเด็กประถมที่ได้รับคำชมจากอาจารย์

สมิกชิกในหน่วย ต้าหมิงเอ่ย “ผู้บังคับบัญชา เก้าอี้ตัวนี้เป็นเก้าอี้ของผี ใช่ไหม?”

สมิกชิกในหน่วย เล่อเทียน “ผู้บังคับบัญชา คุณสัมผัสถึงการมีอยู่ของผีที่นี่ได้ไหม”

ซือเย่หันไปมองมู่กุยฝาน…..

ซูเหอเวิ่นที่อยู่อีกด้านนั้น คิดในใจ อยากรู้ไหมล่ะ ว่าพวกนายนั่งบนอะไร……

อยู่ๆ มู่กุยฝานก็หันมามองซูเหอเวิ่น

นักพรตมู่ยิ้มจนตาหยี ก่อนที่จะเอ่ยออกมา “เสี่ยวเหอเวิ่น กล้องนายล่ะ?”

ซูเหอเวิ่นหยิบกล้องส่งให้มู่กุยฝานอย่างงุนงง “อยู่นี่ ทำไมเหรอครับ?”

เขาคิดว่าอาเขยเป็นห่วงว่า เขาจะถ่ายทอดสดจนเรื่องนี้เเพร่ออกไป เขาเอ่ย “ไม่ต้องห่วงครับ การถ่ายทอดสดผมปิดไปตั้งเเต่กลางทางเเล้ว”

มู่กุยฝานยื่นกล้องไปให้ซือเย่ “มา พวกนายไปนั่งบนเก้าอี้นั้นอีกครั้ง หลังจากที่นั่งลงเเล้ว ให้ใช้กล้องนี้ถ่ายดูให้ทั่ว”

“ผู้กำกับซือ ไปก่อนเลยครับ”

เทพสงครามมู่ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย เขาเหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์

ซือเย่ก้มหน้าลงมองซู่เป่า “เก้าอี้นั้นนั่งได้ใช่ไหม? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

ซู่เป่าส่ายหน้าไปมา “ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ….เเค่ว่าถ้านั่งเเล้วเห็นผี อาจจะตกใจเท่านั้นเอง”

ซือเย่รับกล้องมาถือไว้

จะตกใจอะไรได้

ที่พวกเขามาในครั้งนี้ ก็เพื่อฝึกฝนอยู่เเล้ว

ซืออี้หรันมองพ่อของตัวเองเดินเข้าไปอย่างนั้น เหมือนจะพูดอะไรเเต่ก็ไม่พูด

หลังจากที่ความคิดของเขาตีกันในหัวไปมาแล้ว เขาเลือกที่จะยืนมองอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไร

ซือเย่นั่งลงบนเก้าอี้

จากนั้นก็เปิดกล้องขึ้นมา

เมื่อมองเข้าไปผ่านกล้องนั้น ภาพที่กล้องเเสดงออกมาก็ปกติเหมือนกล้องทั่วไป เป็นภาพสีเเละความคมชัดสูง

ตอนนี้เองมือของเขาก็สั่นไหว เขาเห็นตรงบันไดหินด้านหน้าทางเข้า มีหญิงชราคนนึงนั่งอยู่!

หญิงชราคนนั้นใส่ชุดสีเทาเรียบง่าย เธอกำลังมองมาที่เขาด้วยใบหน้าเฉยชา

ซือเย่ถอนหายใจออกมาเบาๆ นี่ยังดี

เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังกล้องในมือของตนเอง เเอบตกใจไม่น้อย

กล้องนี้ทำมาจากอะไรกัน บนโลกใบนี้มีคนที่สามารถสร้างเทคโนโลยี ที่ทำให้มองเห็นผีได้ด้วยเหรอ??

มู่กุยฝานยกยิ้ม “ต่อไป มองไปข้างหน้า หลัง ซ้าย ขวา บน ล่าง”

ซือเย่พยายามสัมผัสถึงอุณหภูมิรอบๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง พยายามที่จะสัมผัสถึงสิ่งที่มู่กุยฝานเคยบอกเอาไว้

เขาถ่ายไปทั่ว ทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง

ซ้ายขวาหน้าหลัง ไม่มีอะไรเลย บนพื้นเองก็ไม่มีผีคลานอยู่แบบน่าสยดสยอง อย่างที่จินตนาการเอาไว้

ดังนั้น เขาก็เลยเลื่อนกล้องไปมองข้างบนอย่างสบายๆ……

วินาทีนั้น ตาดำของซือเย่ก็หดลง!

สิ่งที่ปรากฎขึ้นมานั้น คือร้องเท้าปักลายดอกไม้ ห้อยอยู่ตรงหน้าของเขา

บนคานข้างบนนั้นมีผู้หญิงแควนคออยู่ เธอก้มหน้าลงมา ดวงตาเบิกโพล่ง จ้องมองลงมาที่เขา

เมื่อมีลมพัดมา ร่างของผีหญิงนั้นก็โดนพัดไปตามลม เท้าทั้งสองข้างของเธอแกว่งมาโดนหน้าของเขาดัง ปั่ก ปั่ก……

ในที่สุดซือเย่ก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่มู่กุยฝานเคยบอก คามรู้สึกที่อุณหภูมิเปลี่ยนไป!

หน้าของเขาเย็นเฉียบ หัวเกิดเสียงวิ้งๆ ขึ้น

วินาทีนี้ ซือเย่คงไม่ลืมไปชั่วชีวิต

ซือเย่ลุกพรวดขึ้นมา ก่อนที่จะก้าวยาวๆ มายืนอยู่ด้านหน้าซู่เป่า!

เขาเข้าไปยืนใกล้ซู่เป่าพอตัว โดยที่ไม่รู้ตัวเลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน