ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 673

ซูจิ่นม่อเปิดประตู เมื่อเห็นคนที่อยู่ด้านนอกประตูก็ชะงักไปชั่วครู่ “ประธานหลี่ พวกคุณมาได้ยังไง”

ใบหน้าประธานหลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นก็สูดดม “เอ๊ะ นี่กลิ่นอะไรกันหอมขนาดนี้!”

ซูจิ่นม่อตอบ “เพิ่งจะทำกับข้าว...”

ประธานหลี่และคนอื่น ๆ ถือโอกาสเดินเข้าประตูมา ตู้รองเท้าอัตโนมัติก็ยื่นรองเท้าแตะผ้าฝ้ายสำหรับใช้แล้วทิ้งมาให้ เสียงของเถียนเถียนก็ดังขึ้น “นายท่านมีแขก ต้องการให้เถียนเถียนต้อนรับไหมคะ”

ซูจิ่นม่อกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจู่ ๆ ทำไมจึงนึกถึงคำพูดที่มู่กุยฝานพูดไว้เมื่อคืน

“ไม่ต้อง เถียนเถียนพาซู่เป่ากลับไปที่ห้อง”

ไม่คิดว่าซู่เป่าจะส่ายหน้า “หนูไม่ไป ซู่เป่าไม่กลับห้อง”

เถียนเถียนมองไปที่ซู่เป่า แล้วจู่ ๆ ก็ปฏิเสธขึ้นมาบ้าง “นายท่าน ฉันก็ไม่ไป เถียนเถียนไม่กลับห้อง”

แถมยังดูฉุนเฉียวเล็กน้อย

ประธานหลี่เห็นฉากตรงหน้า แล้วหันไปมองอาหารที่เต็มโต๊ะ ดวงตาฉายความประหลาดใจอยู่ลึก ๆ

บนตัวซูจิ่นม่อไม่มีกลิ่นควันจากอาหาร ตรงหน้าก็มีเพียงเด็กน้อยแค่คนเดียว เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กน้อยจะทำอาหารได้เต็มโต๊ะขนาดนี้

ดังนั้นอาหารมื้อใหญ่ขนาดนี้จะต้องเป็นฝีมือของเถียนเถียนแน่ ๆ !

จู่ ๆ ในใจประธานหลี่ก็รู้สึกตื่นเต้นจนทนแทบไม่ไหว!

“เยี่ยมไปเลยเสี่ยวซู ไม่คิดเลยว่าคุณจะพัฒนามนุษย์เสมือนจริงมาจนถึงขั้นนี้แล้ว! สมแล้วที่เป็นผู้นำของห้องปฏิบัติการของพวกเรา...ให้ฉันลองดูหน่อยสิ!”

พูดจบซู่เป่ากับซูจิ่นม่อยังไม่ทันตั้งตัว เขาก็นั่งลงหยิบชามกับตะเกียบขึ้นมาแล้วก็คีบขาหมูกิน

รสชาตินี้มัน...ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดี มันมีความอบอุ่นที่ไม่สามารถอธิบายได้

อร่อย!

นี่มันสามารถแสดงความรู้สึกและอารมณ์ได้ มีบุคลิกของตัวเอง คำพูดคำจาก็เหมือนกับคนทั่วไป... แถมยังสามารถทำอาหารออกมาได้เหมือนมนุษย์อีกด้วย

ถ้ามนุษย์เสมือนจริงแบบนี้เข้าสู่ตลาดแล้วล่ะก็ จะต้องได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามแน่นอน

และยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขององค์กรเทคโนโลยีของพวกเขาอีกด้วย!

เขาจะกลายเป็นฮีโร่ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้เหมือนกับโทนี่สตาร์ค...

“อร่อย! อร่อยมาก ๆ !” ประธานหลี่สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “มา รองประธานซุนมาลองชิมดูสิ!”

ซูเหอเวิ่น หานหานและซูจื่อซีเพิ่งจะตื่นนอน ยังอยู่ในชุดนอนและสภาพเมาขี้ตาอยู่เลย

ส่วนซูเหอเหวินเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย ทันใดนั้น เมื่อเห็นว่าในบ้านมีคนแปลกหน้ามาสองคนก็รู้สึกประหลาดใจ

ซูจิ่นม่อขมวดคิ้ว

มาบ้านคนอื่นไม่บอกไม่กล่าว มาถึงก็นั่งกิน ไร้มารยาทมาก

เขากลัวผู้ใหญ่จะเสียหน้า กินไปแค่สองคำจะไล่กลับก็ดูไม่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นสองคนนี้เป็นถึงประธานและรองประธานขององค์กรเทคโนโลยีที่มาร่วมลงทุนกับห้องปฏิบัติการของพวกเขาด้วย

ทว่าเด็กกลับไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น

ซู่เป่าพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณลุงสองคนนี้ พวกเราเพิ่งจะทำอาหารเสร็จยังไม่ได้กินสักคำ พวกลุงไม่ถามพวกเราแถมยังนั่งกินหน้าตาเฉย พวกลุงมีมารยาทบ้างไหม”

ซูเหอเวิ่นเห็นซู่เป่าต่อว่า ก็รีบเสริมทัพทันที “ใช่ นี่ผมงงไปหมดแล้ว ถ้าไม่รู้คงคิดว่านี่เป็นบ้านของพวกคุณนะเนี่ย!”

หานหานถอนหายใจ “หนูแทบช็อค โตขนาดนี้ทำตัวหน้าไม่อาย! ตอนพวกลุงเด็ก ๆ พวกผู้ใหญ่ที่บ้านของพวกลุงเขาไม่เคยสอนเรื่องมารยาทงั้นเหรอ”

ซูเหอเหวินชะงักชั่วครู่ ยืนกอดอกพูดอย่างเย็นชา “สุภาพชนย่อมมีความเมตตาอยู่ในใจ มารยาทก็ดำรงอยู่ที่ใจ คนที่มีเมตตาก็จะรักและห่วงใยคนอื่น คนที่มีมารยาทก็จะรู้จักเคารพผู้อื่น ส่วนพวกชนชั้นต่ำ...ไร้มารยาท!”

‘ชนชั้นต่ำ’ ในสมัยก่อนเป็นคำด่า และสามารถหมายถึง ‘ไอ้เด็กน้อย’ ได้ด้วย บางราชวงศ์ใช้คำนี้เพื่อสื่อความหมายถึงทาส

เป็นคำด่าที่ดูดีมีระดับ ซู่เป่าแสดงท่าทีไม่เข้าใจ

ประธานหลี่กับรองประธานซุนสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี ตั้งแต่เป็นนักลงทุนมานี่เป็นครั้งแรกเลยที่โดนด่าแบบนี้

แถมยังโดนเด็กด่าอีกต่างหาก!

เขาเหลือบมองซู่เป่าก่อนจะพูดว่า “เสี่ยวซู นี่เป็นเด็ก ๆ ในบ้านคุณเหรอ บ้านคุณมีเด็กตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน