ตึกในอำเภอจะไม่สร้างสูงเกินไป ตึกนี้ชั้นที่สิบเจ็ดคือชั้นสูงสุดแล้ว และมีห้องชุดเพียงแค่ห้องเดียวด้วย เป็นเพนท์เฮ้าส์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านที่พัก มีเนื้อที่ทั้งหมดสามร้อยตารางเมตร
สามร้อยตารางเมตรตกแต่งอย่างหรูหรา แค่บ้านเปล่าก็สองล้านสี่แสนแล้ว แพงมาก ปล่อยทิ้งไว้เจ็ดแปดปีก็ยังขายไม่ออก
หญิงชราไม่เชื่อว่าครอบครัวนี้จะซื้อห้องนี้จริง ๆ เมื่อก่อนตอนที่ลูกชายของเธอจะซื้อบ้านก็เคยไปดูเหมือนกัน ห้องนี้ยังไม่ได้ตกแต่ง แค่ดูผนังกับพื้นก็หรูหรามากแล้ว...
ตอนนั้นลูกชายวางแผนว่าจะซื้อแบบสี่ห้องนอนด้วยเงินสด ในมือมีอยู่แค่เจ็ดแสน ยังทำเป็นรวยดูห้องนั้นสักหน่อย บอกว่าห้องนี้ดีมาก ผ่อนจ่ายก็ได้
สุดท้ายพอคำนวณดู ถึงจะผ่อนจ่าย เขาก็ยังซื้อไม่ไหวอยู่ดี...ค่าผ่อนบ้านต่อเดือนเยอะมาก
ด้วยเหตุนี้หญิงชราก็อยากจะดูซิว่าคนบ้านนี้จะอวดรวยยังไง
หญิงชราถึงปากประตูชั้นที่สิบเจ็ดแล้ว เห็นประตูเปิดอยู่ เธอก็เลยชะโงกศีรษะเข้าไปดู
เห็นเพียงข้างในทองอร่าม ทำความสะอาดสะอาดสะอ้าน เปิดไฟทุกดวง ชั่วขณะ สวยงามตระการตาอย่างหาที่เปรียบมิได้!
หญิงชราไม่เคยเห็นห้องที่สวยอย่างนี้มาก่อน เมื่อก่อนตอนที่เธอกับลูกชายมาดู ห้องนี้มีแต่ฝุ่น
หรือว่าพวกเขาจะซื้อจริง ๆ
นายหน้าขายบ้านสองสามคนเดินออกมาพลางพูด “คุณซูครับ งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ มีปัญหาอะไรคุณติดต่อพวกเราได้เลยนะครับ!”
“อ้อ จริงสิ นี่คือนามบัตรของเถ้าแก่ร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดในอำเภอเรา เอาไว้ถ้าคุณต้องการก็โทรหาเขาได้เลยนะครับ...”
หญิงชรารู้สึกกระอักกระอ่วนในใจ ซื้อจริง ๆ เหรอเนี่ย!
ก็ไม่รู้ว่ากู้มาเท่าไร คงไม่ใช่พวกที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับหน้าตามั้ง ถ้ารวยจริงใครจะมาซื้อเพนท์เฮ้าส์ที่นี่ แล้วยังสามร้อยตารางเมตรอีก
ซูอีเฉินรับนามบัตรแล้วพูดขอบคุณ ส่งนายหน้าขายบ้านออกไป จากนั้นก็เห็นหญิงชราอุ้มเด็กคนหนึ่งอยู่ที่ปากประตู
เธอยังไม่ทันปกปิดอารมณ์ อิจฉาตาร้อน เม้มริมฝีปากเล็ดลอดความดูถูกนิด ๆ
เขาหลุบตามองแล้วถาม “มีอะไรครับ”
หญิงชรารีบปกปิดความหงุดหงิดในใจของตัวเอง ยิ้มตาหยีพูด “ไม่มีอะไร ๆ ฉันอยู่ข้างล่าง ก่อนหน้านี้ชั้นบนไม่มีคน เมื่อกี้ได้ยินเสียงตูมตามก็เลยขึ้นมาดูว่ามีอะไรกัน”
ซูอีเฉินอื่ม แต่ขณะกำลังจะปิดประตู
กลับเห็นหญิงชราพูดขึ้นอีก “ฉันพูดหน่อยนะ เบา ๆ หน่อยสิ เมื่อก่อนชั้นบนเราไม่มีคนก็เลยเงียบ ดูสิ พอพวกเธอมาก็อึกทึกครึกโครม ทำจนหลานชายฉันร้องไห้ตื่นเลย”
เธอตบเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเอง ทำท่าตำหนิ
ปกติคนที่เพิ่งย้ายบ้านใหม่ ถ้าเจอกับเรื่องแบบนี้จะหลับหูหลับตา ไม่อยากเพิ่งย้ายมาก็มีปัญหากับเพื่อนบ้าน หนำซ้ำที่อยู่ตรงหน้ายังเป็นหญิงชราที่กำลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง จึงไม่อยากเอาความ
ดังนั้นส่วนมากจะพูดว่า ‘ขอโทษด้วยครับ พวกเราจะระวัง’
แต่ซูอีเฉินแค่ชะงัก จากนั้นก็พูดเสียงเย็น “พวกเราใช้ชีวิตกันปกติ เด็ก ๆ ไม่ได้วิ่งเสียงดัง ดังนั้นที่หลานคุณร้องไห้ควรหาสาเหตุจากตัวเองสักหน่อยนะครับ”
ว่าแล้วก็ปิดประตู
ซูอีเฉินไม่เกรงใจแม้แต่นิดเดียว เขาเห็นโลกมามาก แค่หญิงชราอ้าปากเขาก็รู้แล้วว่าเธอจงใจมาหาเรื่อง
อีกอย่าง เมื่อกี้พวกเขาอยู่ในบ้านก็เดินกันปกติ จะเสียงดังไปถึงพวกเขาชั้นล่างได้ยังไง ยังรบกวนเด็กจนตื่นอีก
นายหญิงซูถาม “ใครเหรอ”
ซูอีเฉินพูดชืด ๆ “ไม่มีอะไรครับ คนเก็บขยะ”
พอปิดประตู หญิงชราก็เก็บอาการไม่อยู่ทันที โมโหเจียนตาย
พอเห็นเพนท์เฮ้าส์ที่พวกเขาซื้อแล้ว ก็รู้สึกเหมือนขูดเนื้อในหัวใจของเธอ ทั้งอิจฉาทั้งแค้นใจ
“คนอะไร ไม่มีมารยาทเอาซะเลย!”
ใส่ชุดสูทรองเท้าหนัง ถ้าไม่ใช่พวกวิ่งงานก็ต้องเป็นพวกขายบ้าน คิดว่าตัวเองเก่งจริงเหรอ
หญิงชราถุยทีหนึ่ง ถ่มน้ำลายไปทางประตู ปากด่าว่าพลางเดินจากไป
รอก่อนเถอะ เอาไว้อีกสองสามวันพวกเขาตกแต่งบ้าน ดูสิว่าเธอจะฟ้องนิติบุคคลยังไง!
เธอไม่มีความสุข ครอบครัวพวกเขาก็อย่าหวังว่าจะสงบสุขเลย
--------------------------------------
ให้ผู้ใหญ่ในบ้านสองคน (ปกติจะเป็นพ่อแม่ของเจ้าของบ้าน) คนหนึ่งถือมีด อีกคนถึงไม้กวาด เดินไปทุกห้องพลางพูดว่า บ้านหลังนี้ตอนนี้มีเจ้าของแล้ว ออกไป ไสหัวออกไปให้หมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...