ซู่เป่าไปเยี่ยมด้วยตัวเอง สังเกตสภาพการณ์จริงหลังจากเฉินซินเจี้ยนออกจากโรงพยาบาล
ใช้พู่กันชี้ชะตามองอดีตที่ผ่านมาและกระบวนการการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของเขา
สมัยหนุ่มเขาไม่ได้พยายามเพื่อความก้าวหน้าสักเท่าไร อาศัยพ่อแม่ออกค่าสินสอดตบแต่งภรรยา พอภรรยาเขาคลอดลูก ครบหนึ่งขวบก็ทิ้งลูกให้พ่อแม่ดูแลอย่างนี้ทุกคน
สองสามีภรรยาทำงานอยู่ข้างนอก ปีหนึ่งกลับไปครั้งสองครั้ง กระทั่งพ่อแม่แก่ตัว ล้มป่วยและจากไป พวกเขาจึงรับลูกทั้งสี่คนกลับมาอยู่ด้วย
ความกดดันหนักอึ้งกะทันหัน ภรรยาเหนื่อยจนล้มป่วย เขาวิ่งเต้นหาหมอไปทั่ว...แต่สุดท้ายภรรยาของเขาก็ยังเสียชีวิต
เฉินซินเจี้ยนแบกรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของลูกทั้งสี่คน แล้วยังต้องดูแลครอบครัว วัยหนุ่มเป็นพวกที่อยู่ข้างนอกไม่กล้าพูด แต่พอกลับถึงบ้านบ่นไปหมดทุกอย่าง
ตำหนิลูกชายคนโต เลี้ยงแกจนโตป่านนี้ ปิดเทอมก็ไม่ช่วยพ่อทำงานหาเงินสักหน่อย
ตำหนิลูกสาวคนโต เรียนหนังสือมาตั้งเยอะแยะ สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่คิด เปลืองค่าเทอมหลายปี ละอายใจกับฉันที่ลำบากลำบนส่งแกเรียนหนังสือไหม
บ่นกับลูกชายคนรอง ฉันลำบากจะแย่ ใครช่วยฉันแบ่งเบาภาระได้บ้าง พวกแกสี่คนอ้าปากก็จะกิน งานอะไรก็ช่วยไม่ได้
ระบายอารมณ์กับลูกชายคนเล็ก พ่อลำบากขนาดนั้น แกอยู่บ้านมีความสุขทุกวัน ไม่ละอายกับฉันเหรอ...
ลูก ๆ โตมากับการสำนึกบุญคุณ รู้สึกผิดและตำหนิตัวเอง กลายเป็นความคิดที่แปลกประหลาดอย่างช้า ๆ
พวกเขาไม่ควรได้รับความสุข มีเรื่องน่ายินดีอะไรก็ไม่กล้าดีใจมากเกินไป ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกมีบาป...
เลี้ยงดูพ่อเป็นเรื่องที่สมควร แต่เวลาที่ต้องดูแลพ่อจริง ๆ กลับหลีกเลี่ยงอย่างไม่รู้ตัว...
พูดได้ว่าความอเนจอนาถในบั้นปลายชีวิตของชายชราคือสิ่งที่เขาก่อขึ้นเอง
“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง คนที่น่าสงสารย่อมมีจุดที่น่าแค้น”
เห็นความอเนจอนาถของชายชราในเวลานี้ ใครเห็นก็ต้องรู้สึกเห็นใจ ต้องรู้สึกปวดใจทั้งนั้น
แต่เขาบริสุทธิ์จริงเหรอ
ซู่เป่าเก็บพู่กันชี้ชะตา
หลังจากมองเรื่องนี้แจ่มชัดแล้ว ก็นึกถึงปัญหาของตัวเองที่คิดเมื่อก่อนหน้านี้ การมองโลกคือสิ่งที่ต้องเปรียบเทียบ
สำหรับคนอื่น เฉินซินเจี้ยนน่าสงสารมาก แต่ในสายตาของเธอกลับเป็นไปตามเหตุผลของกรรม
สำหรับตระกูลเฉิน เธอและพวกลุงใหญ่น่าชังมาก โลกนี้ไม่ยุติธรรม แต่ในสายตาของเธอคือพวกเขาทำความผิดสมควรแล้ว...
ชั่วขณะ ซู่เป่ารู้สึกเบิกบานใจ จู่ ๆ ก็มองทุกอย่างกระจ่างแจ้ง
ท่านอาจารย์เคยบอกว่าโลกมนุษย์มีสารพัดรูปแบบ
ดังนั้นโลกมนุษย์ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
แล้วคิดที่พ่อพูดอีก ไม่มีเรื่องที่ถูกต้องทั้งหมด แค่ทำเรื่องที่ตัวเองควรทำก็พอ!
ทันใดนั้น ตัวของซู่เป่าก็มีแสงกะพริบขึ้นมา พู่กันชี้ชะตาลอยอยู่ตรงหน้าเธอ!
พู่กันชี้ชะตาที่เธอกำได้ไม่ค่อยแน่นในตอนแรก เวลานี้ประสานกับเธอโดยสมบูรณ์แล้ว!
ในตอนที่พู่กันชี้ชะตายังไม่ได้ประสานกับเธอโดยสมบูรณ์ แค่มีคนที่เก่งกาจอย่างตูซื่อหวังสักคนมาฆ่าเธอก็ชิงพู่กันชี้ชะตาไปได้แล้ว
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน
ซู่เป่ารู้สึกว่าตัวเองกับพู่กันชี้ชะตาผสานกันเป็นหนึ่งแล้ว เธอจะถือมันได้แน่น
ยกตัวอย่าง ก่อนหน้านี้เก็บดอกชุบวิญญาณ เธอยืนอยู่นอกหุบเขาลึกลับ ควบคุมพู่กันชี้ชะตาไปเก็บ พู่กันชี้ชะตาอาจถูกลมพายุที่พัดกระหน่ำของหุบเขาลึกลับพัดไปแล้วตกอยู่ในนั้นก็ได้ เธออาจจะเอากลับมาไม่ได้อีก
แต่ถ้าตอนนี้เธอจะใช้พู่กันชี้ชะตาไปเก็บดอกชุบวิญญาณ พู่กันชี้ชะตาจะไม่ถูกลมพายุพัดไป
เมื่อก่อนเจอตูซื่อหวัง ถ้าตูซื่อหวังฆ่าเธอก็สามารถเก็บพู่กันชี้ชะตาของเธอไปได้เลย พอเอากลับไปแล้วก็หลอมรวมมันไม่หยุด จนกระทั่งพู่กันชี้ชะตาเป็นของเขา
แต่ตอนนี้...ต่อให้ตูซื่อหวังฆ่าเธอแล้วเอาพู่กันชี้ชะตาไป หลอมให้ตายเขาก็หลอมพู่กันชี้ชะตาไม่ได้
นี่คือความแตกต่าง!
“หนูเข้าใจแล้ว! หนูเข้าใจแล้วจริง ๆ!” ซู่เป่าโบกไม้โบกมือด้วยความดีใจ พอโบกมือ พู่กันชี้ชะตาก็อยู่ในมือของเธอแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...