ครูประจำชั้นถือสมุดเช็คชื่อแล้วพูดว่า “แนะนำตัวเธอหน่อยสิ! ชื่อนี้มีความหมายอะไรหรือเปล่า”
นักเรียนคนอื่น ๆ ทั้งหมดนั่งลงแล้ว เหลือเพียงซู่เป่าที่ยังคงยืนอยู่และตอบไป “แม่ของฉันเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้...”
คำว่าซู่ไม่ใช่คำดีที่จะใช้ตั้งชื่อ และเธอไม่ต้องการที่จะทิ้งคำว่า ‘ซู่’ ที่แม่ตั้งให้ ดังนั้นลุงใหญ่และคนอื่น ๆ จึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตั้งชื่อที่ไพเราะแก่เธอ
“ข้าวฟ่างเป็นธัญพืชชนิดหนึ่งทางตอนเหนือ หลังจากปอกเปลือกแล้วจึงเรียกกันทั่วไปว่าเมล็ดข้าว... เมล็ดข้าวทางตอนเหนือทนทานต่อความหนาวเย็น ส่วนทางตอนใต้ทนทานต่อความชื้นและความร้อน มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง..เมื่อหว่านเมล้ดข้าวลงไปแล้วมันก็จะแตกหน่อออกมาอย่างรวดเร็ว”
“แม่ของฉันบอกว่า เธอหวังว่าฉันจะปรับตัวได้และแข็งแกร่งเหมือนกับเมล็ดข้าว แตกหน่อและเติบโตอย่างรวดเร็ว...”
นักเรียนที่ส่งเสียงเอะอะโวยวายในตอนแรกอดไม่ได้ที่จะร้องว้าวออกมาหลังจากได้ยินว่าชื่อของซู่เป่ามีความหมายแบบนี้
อำเภอหงตั้งอยู่ทางตอนใต้ โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะกินข้าวสารแทนข้าวฟ่าง ดังนั้นจึงให้ความรู้สึกแปลกใหม่
มีเพียงครูประจำชั้นเท่านั้นที่พยักหน้าเล็กน้อย มุมปากโค้งลงแสดงท่าทีดูถูกอย่างไม่ทันสังเกตเห็น จากนั้นจึงพยักหน้าไปตามหน้าที่ “ดีมาก นั่งลงได้!”
ผู้ปกครองในตอนนี้ต่างผ่านประสบการณ์กับชื่อที่ไม่ไพเราะอย่างเช่น ‘ลี่’ ‘จวน’ และ ‘เสีย’ ในยุคนั้น ดังนั้นเมื่อตั้งชื่อลูกของตัวเองก็จะตั้งชื่อที่ไพเราะเช่น ‘จื่อหาน’ ‘รั่วซี’ ‘มู่เหยียน’ เป็นต้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองในเมืองที่ยิ่งชัดเจนขึ้น
หลายครั้งที่สามารถบอกวงษ์ตระกูลของเด็กได้จากชื่อ แน่นอนว่ามันยังไม่สมบูรณ์นัก แต่เมื่อใช้กับผู้ปกครองในปัจจุบันแล้วส่วนใหญ่จะแม่นยำ
แต่สำหรับชื่อซูจื่อซู่...ที่ใช้พืชเกษตรอย่างข้าวฟ่างมาตั้งเป็นชื่อ จะว่ายังไงดีล่ะ...
ครูประจำชั้นรู้สึกว่าตัวเองคงเดาฐานะครอบครัวของเธอได้
ตอนที่โรงเรียนเปิดเทอมเธอได้ทำการสำรวจครอบครัวนักเรียนและสอบถามสั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่บ้าน
ถ้าเธอจำไม่ผิด ยายของซูจื่อซู่บอกว่าพวกเขาเพิ่งมาซื้อบ้านที่ตัวอำเภอ
ครูประจำชั้นวางสมุดรายชื่ออย่างไม่ใส่ใจแล้วหยิบหนังสือขึ้นมา “เอาล่ะ เริ่มเรียนกันได้แล้ว”
...
ซู่เป่ารู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย เมื่อมองดูครูประจำชั้นคนนี้ก็เกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
เธอนั่งลงและเริ่มเรียนอย่างรวดเร็ว ครูประจำชั้นสอนภาษาจีน ซึ่งซู่เป่าได้เริ่มเรียนอักษรจีนจากซูเหอเหวินมาแล้ว ดังนั้นเมื่อฟังครูสอน เธอจึงเข้าใจได้อย่างรวดเร็วในครั้งเดียว
ซู่เป่าแอบคิดในใจ: ดูเหมือนว่าพี่เหอเหวินจะสอนได้น่าสนใจกว่าหน่อย พี่เหอเหวินอ้างอิงเรื่องราวจากตำรามาเล่าให้เธอฟังด้วย
แต่พอมาคิด ๆ ดูอีกที มันก็เป็นเรื่องปกติ สุดท้ายแล้วพวกพี่ชายและพวกลุง ๆ ก็บอกว่าไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะเหมือนเธอและสามารถฟังตำนานเข้าใจได้
“ซูจื่อซู่!” จู่ ๆ ครูประจำชั้นก็เรียกเธอเสียงดัง
ซู่เป่าได้สติอย่างรวดเร็วและลุกขึ้นยืน “ค่ะครู!”
ครูประจำชั้นขมวดคิ้วไม่พอใจ
นักเรียนคนนี้ไม่ได้มาเรียนหนึ่งเทอม ได้ยินมาว่าเธอหยุดเรียนด้วยตัวเองที่บ้าน
ทำไมตอนนี้ถึงไม่ตั้งใจฟัง เข้าเรียนแล้วยังไม่สนใจอีก?
เทอมที่แล้วไม่ง่ายเลยที่จะพาทั้งห้องขึ้นมาได้ และเธอก็ไม่อยากให้นักเรียนใหม่มารั้งไว้!
“ซูจื่อซู่ ลุกขึ้นยืนและอ่านคำพวกนี้บนกระดานดำ!”
ซู่เป่ามองไปที่กระดานดำและอ่านอย่างจริงจัง “ภูเขาสูง สวนผลไม้ ทุ่งนา เขียวขจี...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...