ซูเปอร์หมอเข็ม นิยาย บท 62

ตอนที่ 62 ถึงตัวจะเล็กแต่ใจใหญ่ซะอย่าง

หลินหยางนวดๆ ถูๆ จางเยว่อย่างแผ่วเบาทำให้จางเยว่รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ยิ่งมีความรู้สึกจากระหว่างโคนขาอ่อนเข้ามาอย่างถาโถมยิ่งทำให้เธอหน้าแดงก่ำขึ้นมา

“อยู่คนเดียวก็สบายดีนะ” จางเยว่ที่นอนอยู่บนเตียงสูดหายใจเข้าออกพลางพูด “ฉันเองก็คิดจะหาใครสักคนเหมือนกันแต่ยังไม่เจอที่เหมาะสมเสียที”

“แล้วคุณคิดจะหาผู้ชายแบบไหนกันล่ะ?” ขณะที่หลินหยางกำลังนวดโคนขาของจางเยว่อยู่ ความรู้สึกอันอ่อนนุ่มก็ไหลผ่านมือเข้ามาจนทำให้ระหว่างโคนขาของเขาเองก็รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน

“ก็อยากจะหาคนที่มีฝีมือที่ดีดี มีความเป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์ไม่นอกใจอะไรแบบนี้” จางเยว่คิดไปด้วยพลางพูดไปด้วย

หลินเยว่ได้ยินก็ยิ้มตอบ “อย่างหลังยังพอว่า แต่คุณจะหาคนที่มีฝีมือดีไปทำอะไรกัน? หรือคิดจะหาคนที่มีฝีมือดีมาต่อล้อต่อเถียงกับคุณอย่างนั้นหรือ?”

“ไร้สาระน่า ใครต้องการคนที่จะมาทะเลาะด้วยกันล่ะ หากมีผู้ชายเข้ามาสักคนแต่คนนั้นแม้แต่จับไก่ก็ยังไม่มีแรงแล้วแบบนี้จะไปรู้สึกอะไรกันล่ะ” จางเยว่พูดพลางจ้องหลินหยางไปด้วย

พอหลินหยางได้ฟังในหัวของเขาก็พลันมีความคิดแปลกๆ เกิดขึ้นทันที ผู้ชายที่ไม่มีแรงจะจับไก่อย่างนั้นหรอ หรือก็คือคนที่ไม่มีน้ำยา ใช้แล้วไม่รู้สึกอะไรหรืออาจจะเป็นเพราะในใจไม่รู้สึกอะไรกันแน่นะ? ระหว่างตกอยู่ในห้วงความคิดสายตาของหลินหยางก็มาหยุดอยู่ที่เนินป่าของจางเยว่แบบพอดิบพอดี

สีตรงนั้นถึงจะไม่ได้เข้มมากแต่ก็ไม่ได้เป็นสีชมพูทั้งหมด พลางคิดถึงช่วงเวลาที่เธอแต่งงานมาปีกว่าๆ เธอก็คงจะมีความสุขยามค่ำคืนมาไม่มากก็น้อย

เหมือนจางเยว่จะรู้สึกได้ว่าสายตาของหลินหยางตอนนี้กำลังจ้องร่างกายของเธออยู่ ในใจก็เริ่มรู้สึกอายกับโกรธผสมกันไป ตัวเองอายุอานามก็ปาเข้าไปสามสิบแล้ว ทำไมต้องมารู้สึกเขินอายกับเด็กอย่างหมอนี่ด้วยนะ?

“นายมองไปที่ไหนกัน? ถึงจะมองแต่นายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” พอจางเยว่พูดจบเธอก็รู้สึกกระดากอายขึ้นมาทันที แบบนี้มันเหมือนกับไปยั่วยุหลินหยางให้ทำเลย

พอหลินหยางเห็นจางเยว่ในท่าทางแบบนี้แล้ว เขาก็ยิ้มมุมปากในหัวก็พลางบังเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา ขณะที่เขากำลังนวดโคนขาของจางเยว่อยู่นั้นเขาก็เลยเอานิ้วโป้งค่อยๆ ถูสูงขึ้นไปจนมันไปสะกิดโดนจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ ความรู้สึกแปลกๆ ก็ประดังเข้ามาหาจางเยว่ทันที

ดั่งถูกไฟช็อต ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มไปทั่วพลางส่งเสียงครางอันยั่วยวนออกจากปากอันจิ้มลิ้มของจางเยว่

ถึงตอนนั้นจางเยว่ก็จ้องหลินหยางพร้อมตะโกนใส่ด้วยความโมโห “นายทำอะไร?”

“ก็ช่วยคุณนวดยังไงล่ะครับ” หลินหยางแสร้งยิ้ม

ถึงแม้ว่าจางเยว่ในตอนนี้จะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่ในใจกลับไม่รู้สึกโกรธเลยแม้แต่นิด สายตาเธอยังจ้องไปที่หลินหยางอย่างขุ่นเคือง “นายคิดจะแก้เผ็ดฉันหรือไงที่ฉันพูดว่ายังไงนายก็ไม่มีทางทำอะไรได้? ดูจากขากับแขนที่อ่อนแรงของนายแล้ว ถึงแม้ว่าจะฉวยโอกาสก็ตามก็คงไม่มีทางทนได้ถึงห้านาทีหรอก”

“แล้วคุณจะลองดูหน่อยไหมล่ะ?” พอหลินหยางได้ยินดังนั้นจึงพูดกระเซ้าเย้าแหย่กลับไป

“ไปให้พ้นซะ” จางเยว่มองหลินหยางด้วยสายตาว่างเปล่า

หลินหยางก็หัวเราะพลางใช้โคลนพิศุทธิ์นวดจางเยว่ต่อไป ขณะที่เขากำลังนวดอยู่ที่ท้องอันราบเรียบนุ่มลื่นของจางเยว่ผ่านไปครู่เดียวก็ไปถึงจุดที่อยู่ด้านใต้ของเนินอกของเธอพอดี

เมื่อเขาได้มองเนินอกคู่นั่นของเธอแล้ว หลินหยางก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แต่มือของเขายังไม่หยุดง่ายๆ พลางนวดขึ้นไปที่เนินอกที่นวลนุ่มคู่นั้นอย่างรวดเร็ว

จางเยว่เลือดสูบฉีดทันที่ที่รู้ว่าหลินหยางไปนวดตรงจุดนั้นของเธอ พร้อมทั้งขมวดคิ้วมองหลินหยาง “นายไม่ได้คิดจะตั้งใจฉวยโอกาสใช่ไหม?”

“ถ้าหากผมคิดจะฉวยโอกาสผมคงเลื่อนลงไปนวดที่จุดนี้ของคุณแล้วไม่รอให้เสียเวลาหรอก เดี๋ยวรอดูสภาพผิวของคุณพรุ่งนี้ก็จะรู้ว่าที่ผมทำอยู่น่ะคือการรักษาจริงๆ” หลินหยางถึงจะพูดอยู่แต่มืออันหนาใหญ่ของเขายังนวดก้อนเนื้อตั้งชันนั้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด ก้อนเนื้ออันอ่อนนุ่มสมบูรณ์สองก้อนนั้นเปลี่ยนรูปทรงไม่หยุดในมือของหลินหยาง

ขณะที่หลินหยางก็นวดไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงลมหายใจของจางเยว่ก็เริ่มถี่ขึ้น เธอมองหลินเยว่ด้วยสีหน้าแดงก่ำ สายตาของเธอเต็มไปด้วยประกายยั่วยวนใจที่คล้ายจะดลใจให้มีความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา

มองดูจางเยว่ที่หายใจระส่ำระสายร่างกายของหลินหยางก็เริ่มร้อนขึ้น การหายใจก็เริ่มหนักขึ้นเช่นกัน

ถึงแม้อายุจะน้อยแต่สติปัญญาเกินอายุจริงๆ! จางเยว่ก็ถือได้ว่าเป็นตำรวจที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเพราะมีทั้งเชาวน์ปัญญาที่หลักแหลม แต่ตอนนี้เธอมองหลินหยางด้วยความรู้สึกต้องการผสมปนเปไปมา จึงทำให้เธอที่หน้าแดงก่ำตอนนี้พยายามสาปแช่งตัวเองไม่หยุด

“ที่ตรงนี้ถูกแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ถ้าหากไม่รักษามันดีดีล่ะก็มันก็จะเสียรูปได้ คุณลองไตร่ตรองดูนะครับ” หลินหยางส่ายหัวพลางถอนหายใจ การจะเป็นแพทย์นั้นไม่ง่ายเลย เพราะมีมากที่รักษาคนอื่นด้วยความจริงใจแต่กลับถูกเอาเปรียบเสียอย่างนั้น

“อยากจะจับก็จับ ฉันโดนนายฉวยโอกาสขนาดนี้แล้ว พูดอะไรไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร” จางเยว่เผยความคิดของตนออกมาหมด เธอนอนเหยียดบนเตียงอย่างไม่เขินอายอีกต่อไปพร้อมทั้งปิดตารับความรู้สึกที่หลินหยางนวดอย่างเต็มที่ จางเยว่พลันหน้าแดงก่ำขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่เข้ามาจากหน้าอกของเธออย่างไม่หยุดหย่อน

ในที่สุดจางเยว่ก็อดทนต่อการปลุกเร้าแบบนี้ไม่ไหวพลันเปิดปากส่งเสียงอย่างมีความสุขไปทั่วทำให้ทั้งห้องรู้สึกเหมือนไร้ที่จำกัดอย่างไรอย่างนั้น

...

หลังจากที่รอหลินหยางเช็ดทำความสะอาดโคลนพิศุทธิ์จนหมดจดแล้ว จางเยว่ก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างกระหืดกระหอบ การนวดครั้งนี้หลินหยางสูญเสียพลังชี่ไปส่วนหนึ่งในการนวดไปทั่วร่างกาย จึงทำให้ตอนนี้เขารู้สึกอ่อนเพลียหน่อยๆ

เขาหันไปมองจางเยว่ก็เห็นเพียงใบหน้าเธอที่แดงก่ำคล้ายคนเมาเหล้า ขาสองข้างที่บิดไปบิดมา แล้วยังคล้ายจะมีลำธารเล็กๆ ไหลออกมาจากตรงนั้นอีกด้วย ดูแล้วมันช่างน่าเย้ายวนเสียจริง

พอจางเยว่รับรู้ได้ว่าหลินหยางมองอยู่ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา มือของเธอก็พลันปิดเนินป่าจุดนั้นของเธอด้วย แต่ยิ่งเอามือปิดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ความคิดเตลิดมากขึ้นไปอีก

“อยากดูมากขนาดนั้นเลยหรือ?” จางเยว่ถามขึ้นทันควัน

“ถ้าหากคุณอยากให้ผมดู ผมเองก็ไม่ติดขัดอะไร” หลินหยางตอบ

“นายเคยเห็นร่างกายของผู้หญิงมาก่อนรึเปล่า?” จางเยว่ถามขึ้นอีก

“ผม...” หลินหยางช็อตไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี

มองดูท่าทางที่สงสัยของหลินหยางแล้วจางเยว่ก็พลางคิดถึงก่อนหน้านี้ที่เขาบอกว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อน แถมยังไม่เคยเห็นร่างกายผู้หญิงจริงๆ มาก่อน ในใจก็เริ่มรู้สึกอยากจะเล่นอะไรบางอย่างขึ้นมา จึงใช้น้ำเสียงยั่วยวนพูดว่า “อยากจะลองจับดูสักหน่อยไหมล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์หมอเข็ม