ซูเปอร์หมอเข็ม นิยาย บท 66

ตอนที่ 66 ปัญหาของลูกในครรภ์

ผู้คนมองดูท่าทางของหลินหยางด้วยความตึงเครียด แม้แต่จะหายใจแรงๆ ก็ยังไม่กล้า

ถึงแม้เขาจะพบปัญหาแล้วอย่างหนึ่งแต่เขาก็ยังไม่หยุดมือลงพลางใช้พลังชี่สำรวจในร่างกายของฉีเยียนเอ๋อร์อย่างต่อเนื่อง คิ้วของเขาก็เริ่มขมวดเข้าหากันมากขึ้นทุกทีจนเหมือนว่ามันจะรวมเข้าหากัน

การตรวจของหลินหยางในครั้งนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานครู่เดียวก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

จากนั้นหลินหยางก็ค่อยๆ ปล่อยมือออกพลางสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ หลังพิงโซฟาพร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ทุกคนถึงแม้ว่าจะอยู่ในอาการตึงเครียดแค่ไหนก็ตามแต่ก็ไม่ได้ไปรบกวนอะไรหลินหยางมากนัก ที่เป็นห่วงก็คือฉีเยียนเอ๋อร์ ส่วนหลินหยางเองก็ดูเหมือนหมดแรงตั้งแต่แรกเริ่ม ทุกๆ คนต่างมองไปที่หลินหยางพร้อมทั้งคาดเดาว่าอีกสักครู่หลินหยางคงจะพูดขึ้นว่าไม่มีทางรักษาได้หรือไม่ก็หาข้อแก้ตัวอะไรมาสักอย่างแน่นอน

แต่คนที่รู้สึกประหลาดใจมากที่สุดก็คือจางเยว่หลังจากที่เธอถูกหลินหยางช่วยมาตั้งแต่คราวนั้นเธอก็กลายเป็นสักขีพยานในพรสวรรค์ของหลินหยางหลายๆ อย่าง ไม่นึกว่าคนหนุ่มอายุเพียงยี่สิบปีนั้น ทั้งคัดอักษรก็ดี การครัวก็ดี การแพทย์ก็ดีหรือแม้กระทั่งขายยาเป็นล้านได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ถ้าหากว่าไม่ได้มาเห็นด้วยตาตนเองล่ะก็ ใครจะไปรู้ว่านกหนุ่มที่ไม่บินออกไปจากรังผู้นี้จะใช้ชีวิตได้อย่างลึกลับและมีมนต์เสน่ห์ขนาดนี้

เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลินหยางผ่อนลมหายใจแล้วเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ

ทุกคนมองดูท่าทีที่สงบของหลินหยางแล้วก็พลางคิดไปว่าเขาคงคิดหาวิธีรักษาไม่ได้จึงพากันถอนหายใจ

“น้อยชาย ถ้าเจ้าหาวิธีรักษาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ โรคนี้เดิมทีก็เป็นอุปสรรคต่อหลายๆ คนมามากเช่นกัน” ฉีหวนพูดปลอบใจหลินหยาง

หลินหยางได้ฟังก็รู้สึกสิ้นหวังอยู่หน่อยๆ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นหมอกำมะลออย่างนั้นหรือ? เขาส่ายหัวยิ้มพลางมองไปที่ฉีหวนแล้วพูดขึ้น “คุณลุงฉี ตอนที่คุณฉีตั้งครรภ์นั้นเธอดื่มเหล้าด้วยใช่หรือไม่?”

พอฉีหวนได้ฟังจากที่กำลังอยู่ในสภาวะหดหู่พลันตื่นตัวขึ้นมาทันที พลางจ้องหลินหยางอย่างประหลาดใจแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้ว ทำไมเจ้ารู้?”

“ดูจากอาการในร่างกายของคุณฉีแล้วอวัยวะภายในสำคัญเสียหายบางส่วน แน่นอนว่าเธอเป็นคนสุขภาพดีโดยกำเนิด แต่ผมเพียงแค่อนุมานขึ้นมาว่าที่อวัยวะเสียหายอาจจะเป็นผลมาจากปริมาณเหล้าที่ดื่มเข้าไป โดยปกติแล้วหากดื่มหนึ่งครั้ง ลูกที่ให้กำเนิดมาจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอนแต่ก็ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่จากที่ดูจากร่องรอยในร่างกายของคุณฉีแล้วยื้อไว้ได้มากที่สุดก็คือสามเดือน เป็นเพราะขณะที่ตั้งครรภ์เธอดื่มมากขนาดนี้จึงทำให้อาการของเธอร้ายแรงเป็นอย่างมาก

หลินหยางพยายามคิดสรรหาคำมาพูดมากมายพลางพูดขึ้นต่อ “แน่นอนว่าไปสำมะเลเทเมาครั้งสองครั้งอาจจะไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อครั้งที่คุณฉียังเด็กพอพวกท่านเห็นร่างกายของเธออ่อนแอจึงสรรหายาวิเศษต่างๆ มากมายเพื่อมาช่วยบำรุงหล่อเลี้ยงร่างกายของเธอเอาไว้จึงทำให้ร่างกายเธอเป็นเช่นนี้”

“แต่พวกท่านก็ยังไม่ตระหนักถึงกระเพาะของคุณฉี มันไม่สามารถดูดซับยาบำรุงมากมายขนาดนั้นได้รวมทั้งยาวิเศษที่พวกท่านใช้กับเธออีกจึงทำให้มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่ผมตรวจร่างกายของคุณฉีแล้วไม่เพียงแค่อวัยวะสำคัญเท่านั้นที่โดนทำลายแม้แต่เลือดของที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอก็ยังไม่สะอาดเลย ถ้าหากไม่รีบรักษาเธอล่ะก็สามเดือนให้หลังโลกวิญญาณคงมารับเป็นแน่”

หลินหยางพูดน้ำไหลไฟดับ ทั้งหานเทียนอวิ๋นและครอบครัวตระกูลฉีหรือแม้กระทั่งเซี่ยหลินหลินที่รออยู่นั้นต่างก็อ้าปากค้างอย่างประหลาดใจ หลินหยางเพียงแค่ใช้มือวัดชีพจรประมาณครึ่งชั่วโมงก็รู้สภาพความเป็นไปของร่างกายและครรภ์ของเธอหมดเลยอย่างนั้นหรือ?

“ที่ผมพูดมาถูกหรือไม่ครับ คุณลุงฉี?” หลินหยางมองฉีหวนแล้วถามขึ้น

หลายปีมานี้ไม่ว่าจะต้องหาหมอเทพเทวดาปีนเขาหรือล่องน้ำเพื่อหลานสาวแล้วทำได้หมด พบหมอที่มีชื่อเสียงมามากมายแต่คนเหล่านั้นใช้เวลาพินิจพิเคราะห์อยู่นานกว่าจะอธิบายอาการของฉีเยียนเอ๋อร์ออกมาได้ทั้งหมด มีเพียงเขาเท่านั้นที่เพียงแค่อาศัยมือข้างเดียวก็สามารถพูดถึงอาการต่างๆ ของหลานสาวเขาออกมาได้อย่างถูกต้องทั้งหมด ช่างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ที่สุดยอดอะไรเช่นนี้

“ท่านหาน ท่านเอาเรื่องราวพวกนี้บอกหมอหลินก่อนแล้วอย่างนั้นหรือ?” ฉีหวนทางหานเทียนอวิ๋น

“ข้าไม่ได้บอกอะไรแน่นอน” หานเทียนอวิ๋นรับรอง

“หมอวิเศษเอ๋ย ที่พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง ไม่ทราบว่าเธอพอจะมีวิธีใดที่สามารถช่วยหลานสาวของลุงได้บ้างหรือไม่? ต่อให้ลุงต้องคุกเข่าอ้อนวอนลุงก็ยอม” ฉีหวนพูดพลางหลั่งน้ำตาแล้วคุกเข่าลง

“คุณลุงฉี แบบนี้ผมยอมรับมันไม่ได้หรอกครับ” หลินหยางรีบประคองฉีหวนขึ้นพลางพูดเสียงต่ำ “คุณลุงไม่ได้จะทำให้ผมอายุสั้นหรอกใช่ไหมครับ? การช่วยเหลือผู้คนเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ถ้าหากว่าหมอเป็นผู้รักษาแล้วยังรับของบรรณาการอีกแบบนี้หมอก็ไม่ต่างอะไรกับพระเจ้าแผ่นดินเลยสิครับ”

“ท่านฉีไม่เคยบูชาพระเจ้าแผ่นดินอยู่แล้ว เขาบูชาเฉพาะนักบุญเท่านั้นแหละน่า” ผู้เฒ่าหานเล่นมุขแก้เครียดเสียหน่อยก่อนถามขึ้นมาติดๆ กันว่า “เสี่ยวหยาง เจ้ามีวิธีรักษาอยู่บ้างหรือไม่?”

ทุกคนที่ได้ยินก็ส่งสายตาอยากรู้ไปหาหลินหยางพลางรอหลินหยางตอบ

มองดูทุกคนที่รอคอยความหวัง หลินหยางจึงพูดเสียงเข้มขึ้น “แม้ว่าอาการของคุณฉีจะร้ายแรง แต่ก็ยังมีวิธีรักษาอยู่ แต่ผมในตอนนี้ไร้พละกำลังถึงจะรู้อาการแต่ผมก็บอกไม่ได้ว่าจะสามารถรักษาได้รึเปล่า แต่ยังไงผมก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถครับ”

“โอ้...ขอแค่มีความหวังก็ดีแล้ว” ถึงแม้ว่าหลินหยางจะไม่ได้ให้คำตอบที่น่าพึงพอใจเท่าไหร่แต่ฉีเยียนเอ๋อร์ก็ยังพูดอย่างปีติยินดี

มองดูสายตาของฉีเยียนเอ๋อร์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วในใจของหลินหยางก็เต้นตุบขึ้นมา หญิงคนนี้กำลังเผชิญหน้ากับความตายอยู่แท้ๆ แต่กลับแสดงท่าทางปีติแบบนี้ออกมาได้ช่างหายากจริงๆ จากนั้นหลินหยางก็หัวเราะเบาๆ พลางพูด “การรักษาครั้งนี้แม้ว่าจะไม่มีวิธีฟื้นฟูและมีข้อจำกัด แต่อย่างน้อยก็สามารถยืดชีวิตออกไปได้ถึงสามปีล่ะครับ”

ดั่งโยนหินไปบนน้ำที่นิ่งสนิท ฉีหวนเงยหน้าพรวดขึ้นมาในสายตาฉายแววปีติยินดีอย่างมาก พลางไปดึงแขนของหลินหยางแล้วพูดขึ้น “หมอหลิน ที่เธอพูดหมายถึงสามารถยืดอายุไปได้ถึงสามปีเชียวหรือ?”

“ใช่ แน่นอนครับ แต่นี่คือเฉพาะในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนะครับ ถึงแม้ว่าการฟื้นฟูแทบจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ อย่างไรผมก็จะพยายามครับ” หลินหยางยิ้มพลางพยักหน้ารับ

“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนหมอหลินแล้วล่ะ ต้องขอบคุณเธอมากๆ แม้ว่าไม่สามารถฟื้นฟูได้ก็ตาม อย่างไรลุงก็ต้องขอบคุณเธออยู่ดี” ฉีหวนทุบอกตัวเองเป็นการรับประกัน

“ผมจะพยายามครับ...อ้อ..ใช่แล้ว คุณเซี่ย คุณมีธุระอะไรจจะคุยกับผมหรือ?” หลินหยางยิ้มพลางถามเซี่ยหลินหลิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์หมอเข็ม