ซูเปอร์หมอเข็ม นิยาย บท 68

ตอนที่ 68 การรักษาของฉีเยียนเอ๋อร์

มองดูฉีเยียนเอ๋อร์ที่เปรียบดั่งนางฟ้านางสวรรค์คล้ายออกมาจากภาพวาดแล้วนั้นหลินหยางก็กวักมือเรียกฉีหวนมาพูดด้วยว่า “คุณลุงฉี ผมขอพูดอะไรด้วยหน่อยสิครับ”

“มีอะไรหรือหมอหลิน?” ฉีหวนรีบถาม

“ขณะรับการรักษาผมเกรงว่าจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะผมต้องฝั่งเข็มไปทั่วทั้งร่างกายของคุณฉี ดังนั้นขณะที่ผมรักษาอยู่นั้นเสื้อผ้าของคุณฉีทั้งหมดต้อง..........” ถึงเขาจะพูดไม่จบแต่อีกฝ่ายก็เข้าใจความหมายได้ทันที

ฉีหวนฟังดังนั้นก็ตะลึงไปแสดงสีหน้าแปลกๆ ไปครู่หนึ่ง แต่ก็ถอนหายใจแล้วกลับมาพูดว่า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เดี๋ยวลุงไปพูดกับเยียนเอ๋อร์ให้ละกัน”

ผ่านไปไม่นานฉีหวนก็นำเอาข้อความของหลินหยางไปบอกต่อฉีเยียนเอ๋อร์ เธอนั่งลังเลอยู่บนม้านั่งสักครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะหน้าแดงระเรื่อแล้วพูดกับหลินหยางว่า “ถ้าอย่างนั้นนายก็รักษาให้ฉันเถอะ”

“ได้ครับ เชิญ” หลินหยางพูดพลางนำทางไปที่ห้องบูรพา

หลังจากรอฉีเยียนเอ๋อร์เข้าไปแล้วหลินหยางก็พยักหน้าให้กับทุกคนพลางเดินตามฉีเยียนเอ๋อร์เข้าไป ทุกๆ คนที่จะเดินตามเข้าไปถูกฉีหวนหยุดไว้แล้วให้นั่งรออยู่ที่โถงใหญ่

“เซี่ยหลินหลิน เธอไปรู้จักหลินหยางได้อย่างไรกัน?” ฉีหวนที่นั่งอยู่เฉยๆ ก็เปิดบทสนทนาขึ้น

“ที่จริงต้องขอบคุณป้าจางด้วยซ้ำ ตอนนั้นขณะที่ฉันกำลังไปร้านสารพัดโอสถจะไปรับยาของผู้เฒ่าหาน เกิดเป็นไส้ติ่งโดยบังเอิญพอดี ตอนนั้นหลินหยางเข้ามาเห็นก็ช่วยระงับอาการให้ พูดได้ว่าตอนนั้นการแพทย์จีนยังไม่มีความสามารถที่จะรักษาเท่าไหร่ หลังจากนั้นป้าจางก็เลยได้ถามต่อเรื่องการรักษาผิวหนังของฉัน...”

ผู้คนที่อยู่ในห้องต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของหลินหยางขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะรู้จักหลินหยางไม่มาก แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหลินหยางช่างเป็นคนที่มหัศจรรย์เสียจริง

หลังจากที่ห้องบูรพาปิดลงมีเพียงหลินหยางกับฉีเยียนเอ๋อร์ที่อยู่ในห้องสองต่อสอง ทำให้บรรยากาศรู้สึกแตกต่างขึ้นมาเล็กน้อย

แก้มฉีเยียนเอ๋อร์แดงเป็นลูกตำลึงคล้ายแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางมาบางๆ ดูแล้วช่างสวยงามเหลือเกิน จากนั้นเธอก็ถามขึ้นเสียงแผ่วว่า” ต้องถอดชุดออกทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ?”

“เสื้อชั้นในต้องถอดด้วย แต่...กางเกงชั้นในนั้นไม่ต้องถอดก็ได้ครับ” หลินหยางยิ้ม

ฉีเยียนเอ๋อร์ได้ยินก็ถอนหายใจเบาๆ หากไม่เหลือเสื้อผ้าไว้สักชิ้นเลยล่ะก็คงทำหน้าไม่ถูกเป็นแน่ จากนั้นเธอจึงเริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออก

ชุดสีน้ำตาลอ่อนของฉีเยียนเอ๋อร์นั้น เธอค่อยๆ บรรจงรูดซิปจากด้านข้างพลันความเขินในใจก็เพิ่มมากขึ้นจนถึงหน้าแดงไปทั่วทั้งหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “นายช่วยฉันปลดหน่อยสิ”

“ได้ครับ” หลินหยางเดินไปช่วยปลดซิปของเธออย่างช่วยไม่ได้

พอมองดูฉีเยียนเอ๋อร์ในระยะนี้แล้วในใจหลินหยางก็เริ่มรู้สึกว่าเธอเริ่มจะสวยขึ้นมา บริสุทธิ์ผุดผ่องดั่งเทพธิดาในภาพวาด ผิวที่เนียนขาวดั่งกลีบกุหลาบเองก็ปรากฏสีอมชมพูระเรื่อ ยิ่งทำให้ใจของเขาสั่น

พลันกลิ่นหอมบนตัวของฉีเยียนเอ๋อร์ก็ไหลเข้าจมูกทำให้หลินหยางสะดุ้งเล็กน้อย เขาจึงพยายามสูดหายใจลึกๆ เพื่อสงบจิตสงบใจ หลินหยางใช้มือรูปซิปทั้งสองข้างออกพร้อมทั้งใช้แขนทั้งสองดึงชายประโปรงของเธอถอดออก

ร่างกายที่อ้อนแอ้นอรชรของฉีเยียนเอ๋อร์พลันปรากฏอยู่ต่อหน้าของหลินหยางทันใด

เรียวขาที่สวยงามทั้งสองข้าง ผิวที่ขาวเรียบเนียนดุจดั่งหิมะเป็นที่น่าดึงดูด กางเกงชั้นในลายลูกไม้สีดำตัวนั้นยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนกับมีพลังบางอย่างที่คอยเย้ายวนตลอดเวลา ไหนจะเนินอกคู่นั้นที่สั่นไหวไปมาภายใต้เสื้อชั้นในคล้ายจะปะทุออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ ในใจของหลินหยางพลันรุ่มร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ประสบกับร่างกายที่เย้ายวนเช่นนี้

พอรับรู้ได้ว่าสายตาอันร้อนแรงของหลินหยางจับจ้องอยู่ที่ตัวเองแก้มของเธอก็พลันแดงสุก ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจที่หลินหยางจ้องตนอยู่แบบนั้นแต่ก็รู้สึกเกรงใจที่จะพูดออกไป

“ต้องถอดเสื้อชั้นในตอนนี้เลยรึเปล่า?” ฉีเยียนเอ๋อร์ถามขึ้นด้วยเสียงเล็กๆ

“ครับ ใช่แล้ว” ใจของหลินหยางเริ่มเต้นระรัวขึ้นพลางจ้องไปที่เนินอกอันขาวเนียนของฉีเยียนเอ๋อร์

ฉีเยียนเอ๋อร์เอื้อมมือมาด้านหลังเพื่อปลดกระดุมออกพลันเนินอกคู่นั้นก็เปิดออก มันกระเพื่อมไปมาดั่งกระแสน้ำที่รุนแรงปั่นป่วน เนินอกที่ตั้งตระหง่านอยู่นั้นดั่งดวงจันทร์กลมเนียนที่ส่องประกายไปทั่ว เธอเหลือบมองหลินหยางที่กำลังหายใจกระหืดกระหอบอยู่ตรงหน้า

เขาพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบจิตสงบใจตัวเองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “นอนลงบนเตียงได้เลยครับ”

ฉีเยียนเอ๋อร์ปีนขึ้นไปนอนบนเตียง ดวงตาหยาดเยิ้มคู่นั้นจ้องมาที่หลินหยาง มือทั้งสองข้างโอบเนินอกเธอเอาไว้หวังจะปิดไม่ให้เห็น แต่ท่าทางกึ่งปิดกึ่งเห็นแบบนี้ยิ่งเหมือนทำให้คนเกิดอารมณ์มากขึ้นไปอีก

เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบมาแล้วบ้าง จึงทำให้การตรวจครั้งนี้ใช้เวลาไม่มาก

หลังจากที่เขายืนยันได้แล้วว่าการตรวจครั้งที่แล้วไม่มีปัญหาใดๆ หลินหยางก็เปิดกระเป๋ายาขึ้นมาพลางหยิบเข็มสีเงินที่อยู่ในกล่องออก เขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น “กลัวการฝังเข็มรึเปล่า?”

“ฉันไม่กลัวหรอก ฉันเคยไปฝังเข็มกับคนอื่นมาแล้ว แค่นี้สบายมาก” ฉีเยียนเอ๋อร์หัวเราะ พลางเผยให้เห็นดวงตาที่สวยใจกระจ่างเปรียบดั่งดวงเดือนของเธอ

“ไม่กลัวก็ดีแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นผมเริ่มเลยนะ” พูดจบพลังบริสุทธิ์ในร่างกายของหลินหยางก็เริ่มโคจรเร็วขึ้น พลันพลังเหล่านั้นก็ห่อหุ้มเข็มเงินเหล่านั้น เขาฝังไปห้าเข็มอย่างต่อเนื่องไม่หยุดซึ่งห้าเข็มเหล่านั้นฝังไปที่อวัยวะสำคัญทั้งห้าของฉีเยียนเอ๋อร์

ร่างกายของฉีเยียนเอ๋อร์ยังถือว่ายังอ่อนเยาว์นัก คาดไม่ถึงว่าจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ สงสัยครั้งนี้หลินหยางต้องใช้ทักษะการฝังเข็มบำรุงให้กับเธอเสียหน่อยแล้ว

หลังจากรอให้อวัยวะสำคัญทั้งห้าได้ฟื้นตัวสักพักเขาก็เริ่มชำระล้างโลหิตของเธอบำรุงให้กลับมาฟื้นฟูสมบูรณ์เหมือนเดิม แต่หากจะฟื้นฟูล่ะก็คงต้องใช้เวลาดูแลรักษาสักช่วงหนึ่งเห็นจะได้

แต่กระนั้นการรักษาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวัน หลังจากเสร็จวันนี้ก็ยังคงต้องรักษาต่อไปอีกหลายครั้ง

ตั้งแต่ที่เขาปรับปรุงพลังชี่ของเขามา ทักษะการฝังเข็มของเขาก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ เขาฝังเข็มพร้อมหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้งจนเข็มเงินทั้งแปดสิบเอ็ดเข็มพลันฝังเข้าไปในจุดเล็กจุดน้อยของฉีเยียนเอ๋อร์จนหมด

หลังจากที่เข็มเงินมากมายนี้ฝังเข้าไปในร่างกายของฉีเยียนเอ๋อร์หลินหยางก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมาพลางมองไปที่ฉีเยียนเอ๋อร์แล้วพูดขึ้น “นอนอยู่บนเตียงห้ามขยับไปไหนนะครับ”

พอหลินหยางเดินออกมาทุกคนในห้องโถงต่างขยับตัว ฉีหวนก้าวออกมาถามคนแรก “หลินหยาง เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ผลการรักษาตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้มากครับ แต่ตอนนี้คงต้องรบกวนทุกท่านสักหน่อย พอดีมีวัตถุดิบยาที่อยากให้พวกท่านช่วยผมซื้อมาหน่อยน่ะครับ” หลินหยางพูดจบเขาก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาเขียนวัตถุดิบยาลงไป

มองดูจำนวนวัตถุดิบที่ไล่ยาวมาขนาดนั้นหานเทียนอวิ๋นก็ถามขึ้นว่า “หลินหยาง สิ่งของพวกนี้เจ้ารีบใช้หรือไม่?”

“โดยปกติแล้วหากได้ภายในสามชั่วโมงก็จะดีที่สุดครับ ช้าที่สุดก็ไม่เกินสิบสองชั่วโมงครับ” หลินหยางตอบ

“ถ้าสามชั่วโมงก็ดี จากในเมืองเจียงหลิงมาหมู่บ้านวี่หลงก็สามารถขับรถยนต์ไปได้เร็วหน่อย ถ้าอย่างนั้นข้าจะโทรศัพท์ให้คนช่วยซื้อวัตถุดิบพวกนี้มาให้เจ้าแล้วกันนะ” หานเทียนอวิ๋นยิ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์หมอเข็ม