เว่ยเฉียนอี้เป็นคนที่เก่งด้านวรรณกรรม เข้าถึงองค์ฮ่องเต้อย่างง่ายดาย ทุกคนคิดว่าตนเองมีสัมพันธ์ที่ดีกับฮ่องเต้ แต่มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่รู้ว่าใครหน้าซื่อใจคด ไว้ใจได้ไว้ใจไม่ได้
ความมั่งคั่งที่มหาศาลและเส้นสายถูกรวบไว้อยู่ที่ซานชือ
ซานชือและผู้รักษาการแทนพระองค์ ได้กลายเป็นช่องทางการหาผลประโยชน์ที่คนภายนอกไม่รู้
ในสายตาของคนนอก รวมถึงหยางเล่อหัวหน้าของขุนนางผู้ใหญ่เก้าตำแหน่ง ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พวกเขากำลังตามหา ก็คือตัวพวกเขานั้นเอง
ผู้คนในเมืองหลวงเรียกการสำรวจนี้ว่าถนนสีเลือด เซียวเฉวียนเป็นที่สะดุดตาเพราะเขาไม่มีอำนาจ แม้ว่าเขาจะมีจู่เป่าฟางให้พึ่งพา แต่ในสายตาของคนทั้งสามแบบนั้น ไม่ได้มีความหมายอะไร
“ฝนกระหน่ำบนภูเขา ลมพัดผ่านชายคาบ้าน ย้อนกลับไปในปีนั้น ปู่ของเจ้าเสียชีวิตด้วยน้ำมือของซานชือ น่าเสียดายยิ่งนัก... เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ข้าไม่แน่ใจว่าเซียวเฉวียนจะผ่านการสอบหน้าพระที่นั่งไปได้หรือไม่"
ฮ่องเต้ทรงถอนหายใจยาว คนที่หัวรั้นและสง่างาม แม้ว่าฮ่องเต้จะเคยพบเจอเพียงแค่ครั้งเดียว แต่พระองค์ไม่เคยลืมได้เลย ภาพความทรงจำราวกับว่ามันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
เคยคิดว่าจะไม่ได้เจอคนแบบนี้อีกในชีวิตนี้ แต่เมื่อเซียวเฉวียนปรากฏตัว ราวกับว่าความเชื่อทุกสิ่งอย่างถูกทำลายจนสิ้น
อี้กุยพยักหน้าอย่างยืนยันว่า "คนอื่นอาจจะไม่ แต่เขาจะทำได้อย่างแน่นอน ท่านเห็นไหมว่าเขาพยายามแสร้งทำเป็นบาดเจ็บ ลดความเป็นปรปักษ์กับศัตรู โดยอาศัยความเฉลียวฉลาดในเลขคณิตเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด เขาฉลาดทีเดียว และเจ้าพวกซานชือจะได้ไม่เข้าหาเขา"
มือขวาของเซียวเฉวียนได้รับบาดเจ็บ และเขาได้ปิดบังเรื่องนี้กับผู้คนมานับไม่ถ้วน แต่มีเพียงฮ่องเต้และอี้กุยเท่านั้นที่มองเห็นอย่างชัดเจน แน่นอนว่าเซียวเฉวียนจะชนะหยางเล่อและคนอื่น ๆ ที่ประมาทม้ามืดอย่าวเซียวเฉวียน
ทั้งเขาและฮ่องเต้อดไม่ได้ที่จะคิดว่าการเคลื่อนไหวของเขาเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจ!
คนเช่นนี้จะแพ้ได้อย่างไร?
“เอาล่ะ! ในเมื่อเจ้าไว้ใจเขามาก” ฮ่องเต้ตบต้นขาของเขาและยกแก้วขึ้น “งั้นเหล้าแก้วนี้ก็จะดื่มให้กับท่านปู่ของเจ้า และดื่มเพื่อเจ้ากับข้า วันเวลาที่รอคอยในที่สุดก็มาถึงแล้ว!”
ในที่สุด หลังจากที่ต้าเว่ยรอคอยคนเก่งที่ชอบใช้เลือดวาดแทนหมึกก็เผยตัวออกมาสักที!
แม้ว่าอี้กุยจะเชื่อในตัวเซียวเฉวียนมาก แต่ก็ยังคงเป็นห่วงเขาเช่นเดียวกันกับองค์ฮ่องเต้
พรสวรรค์ของเซียวเฉวียนนั้นโดดเด่น และเป็นเรื่องปกติที่เขาจะเป็นเป้าสายตาของคนพวกนั้น
เหตุผลที่เจ้าพวกซานชือใช้เงินถึงหกหมื่นตำลึงเพื่อซื้อบทกวีของเซียวเฉวียน เพราะเขาคิดว่าถ้าเซียวเฉวียนชนะ เงินนั้นก็จะกลับเข้ากระเป๋าของเขาเอง แล้วคิดว่าเซียวเฉวียนจะกล้าโต้แย้งอะไรได้?
แน่นอนว่าตอนนี้เซียวเฉวียนไม่รู้เรื่องคนพวกนี้ อี้กุยกังวลว่าเขาจะประเมินศัตรูของเขาต่ำไป
ในงานเลี้ยงฉลองของตระกูลฉิน อี้กุยไม่ได้เมามาก เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้
เขาเพิ่งทำให้คุณหนูฉินขายหน้า หากมีอะไรเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ตระกูลฉินอาจจะยังคงช่วยเหลือได้ แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลฉินใกล้ที่จะพังทลายลงและตอนนี้เขาไม่มีใครให้พึ่งพาได้ เขาจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างไร?
ณ จวนตระกูลเซียว
"ไป๋ฉี่! ไปกันเถอะ!"
“นายท่าน ท่านกำลังจะไปไหนขอรับ?”
ไป๋ฉี่เดินตามหลังเขาอย่างใกล้ชิดด้วยความงุนงง นับตั้งแต่นายท่านทะเลาะกับตระกูลฉิน เขาก็ดูมีความสุขมากทุกวัน ฉินซูโหรวถูกทำให้อับอายแต่นายท่านกลับไม่มีความรู้สึกใดๆแม้แต่น้อย
ณ ตอนนั้น ถ้าท่านแม่เฒ่าฉินจะฆ่าเขา ไป๋ฉี่เองที่คอยเฝ้ามองจากด้านข้าง พร้อมปกป้องเจ้านายทุกเมื่อ
และเมื่อเจ้านายออกจากจวนฉินในคืนนั้น เขาบอกว่ามันคือการล้อเล่น และเขาก็ไม่ได้พูดถึงตระกูลฉินอีกเลย
สิ่งเดียวที่เซียวเฉวียนกำลังคิดอยู่ตอนนี้คือนามบัตร
ตอนนี้เงินพร้อมแล้ว เมื่อใดที่เขาเป็นอันดับหนึ่งและได้นามบัตรมา เขาก็จะสร้างร้านอาหารทันที
การก่อสร้างและการดำเนินงานของร้านอาหารต้องใช้คนของตัวเอง เขาต้องจ้างทาสคุนหลุนที่เกิดมาเพื่อเป็นนักสู้มาเป็นพนักงาน เพราะมีพลังมหาศาลและสามารถดูแลได้ง่าย
“นายท่าน ท่านกำลังนึกถึงเรื่องอะไร?” ไป๋ฉี่ยืนนิ่งด้วยความประหลาดใจ
จริงอยู่ที่ในเมืองหลวงใครต่างก็ใช้ทาสคุนหลุนทำเรื่องต่างๆแทน ร้านอาหารตอนนี้เต็มไปด้วยทาสคุนหลุน
ไป๋ฉี่ไม่เข้าใจว่าธุรกิจต้องมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ตราบใดที่ทำการตลาดได้ดี การเปลี่ยนสีดำให้กลายเป็นสีขาวก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เซียวเฉวียนดึงเขา "ไม่มีอะไร เราไปในที่ที่เจ้าจากมากันเถอะ"
เซียวเฉวียนต้องการที่จะไปในสถานที่นี้มานานแล้ว ในฐานะทาสคุนหลุนที่เป็นผู้ปกป้อง เขาเห็นแค่ซวี่ต๋าและไป๋ฉี่ท่านั้น เขาสงสัยมากว่าสถานที่ใดกัน ที่สามารถยกระดับคนเหล่านี้ได้!
เซียวเฉวียนจะต้องรู้สึกทึ่งกับสถานที่ที่ทุกคนดูถูกและไม่ชอบเป็นแน่
เจ้านายและผู้ติดตามพูดคุยกันในตรอกและเดินไปยังชุมนุมของทาสคุนหลุนนอกเมืองหลวง
ขณะที่เซียวเฉวียนกำลังพูดอยู่ มีชายคนหนึ่งถือดาบอยู่ไม่ไกล ยืนพิงอยู่ที่มุมกำแพง ราวกับรออะไรบางอย่างท่ามกลางลมหนาวอย่างเงียบๆ
ใบไม้ปลิวไปมาอยู่กับพื้น เขาก้มหัวลงเหมือนรูปปั้นที่รอให้ผู้คนมาสักการะอย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...