ในปัจจุบันภูเขาหมิงเซียนไม่ใช่สถานที่ที่เต็มไปด้วยนกร้องและดอกไม้อีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นภูเขาไฟที่ลุกโชน
เปลวไฟลุกลามไปทุกที่ ซึ่งทำให้ทุกคนในสำนักหมิงเซียนตกตะลึง
“ยังไง... เป็นไปได้ยังไง?” มู่เวยจ้องมองฉากตรงหน้าอย่างว่างเปล่า นางกับมูจิ่นเพิ่งกลับจากการรักษาข้างนอก เมื่อพวกเขากลับมาพบว่าสถานที่ที่พวกเขาเติบโตมาได้กลายเป็นนรกบนดินไปแล้ว
“ทำไมไม่ช่วยดับไฟล่ะ ?ราชครู อาจารย์และผู้อาวุโสที่นี่ไม่ใช่หรือ?มีผู้คนมากมาย ทำไมไม่ช่วยดับไฟเล่า?”
มู่เวยแม้ว่าจะมีนิสัยไม่ดี แต่ก็เป็นคนหัวทึบ เมื่อเกิดไฟไหม้ ก็ต้องดับไฟสิ ทำไมถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้?
"ศิษย์น้อง เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปดูก่อน"
มู่จิ่นขมวดคิ้ว ตระหนักว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงจับมู่เวยไว้ที่ตีนเขา ปฏิเสธที่จะให้นางเข้าไปในภูเขา
“ศิษย์พี่ !ศิษย์พี่!”
มู่จิ่นจากไป และมู่เวยทำได้แค่กระทืบเท้าด่าอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น ในที่มืด ดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองไปที่มู่เวย ดูเหมือนกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง
......
......
บนภูเขาสำนักหมิงเซียน
“อ๊า!”
องค์หญิงกรีดร้อง กลิ้งลงมาจากเนินเขาหลายครั้ง หินร้อนๆ เผาผิวบอบบางของนางจนเป็นมันพองทันที
“อ๊า......”
องค์หญิงกัดฟัน ร้องเสียงต่ำออกมา องค์หญิงเป็นคนมั่นคง นางคิดว่าวันนี้ตัวเองเดินเร็วเกินไป จึงลื่นล้ม จึงตำหนิตัวเองว่าประมาท จากนั้นจึงปีนเขาขึ้นใหม่
เนินเขาของภูเขาหมิงเซียนช่างสูงชันจริง ๆ เซียวเฉวียนปกติสามารถวิ่งขึ้นเนินได้ แต่สำหรับองค์หญิงที่ไม่มีพลังอำนาจ ก็ยากเหมือนปีนขึ้นสวรรค์
“อดทน อดทน”
องค์หญิงให้กำลังใจตัวเอง เสื้อผ้าของนางถูกไฟไหม้จนขาดวิ่น เส้นทางข้างหน้าน่าหวาดกลัว แต่พอนึกถึงว่าเซียวเฉวียนต้องการนางและรอนางอยู่ องค์หญิงก็ไม่กลัวอีกต่อไป
“อ๊า!”
เมื่อเดินมาถึงจุดเดิม องค์หญิงก็สะดุดล้มอย่างแรง กลิ้งลงมาจากเนินเขาดังตุบ ๆ
“เฮือก”
องค์หญิงสูดหายใจเข้าอย่างลึก ๆ ด้วยความเจ็บปวด
“ฮ่า ๆ ......”
ในเวลานี้ มีคนเยาะเย้ย และจู่ๆ องค์หญิงก็หันศีรษะด้วยความตกใจ“นั่นใครน่ะ? ออกมา!”
“นี่เป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้กัน? ไม่เรียบร้อยและดูไม่เหมือนองค์หญิงเลยนะ”
ทันใดนั้นก็มีเงาคนหนึ่งพุ่งออกมา เงานั้นดูสกปรกเลอะเทอะ ดูเหมือนจะถูกไฟเผาจนจำหน้าไม่ได้
แต่องค์หญิงยังคงได้ยินจากเสียง“ฉินซูโหรว?”
“ไม่ อาจื่อ” องค์หญิงเรียกใหม่ “เจ้ามาที่นี่ทำไม?”
คำตอบนี้ทำให้อาจื่อไม่พอใจ จริงสิ นางมาที่นี่ทำไมกัน?
อาจื่อเป็นหนึ่งข้าบริพารที่สำคัญที่สุดของหมิงเจ๋อ หลังจากออกจากซินเจียง หมิงเจ๋อและอาจื่อยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิด มีเพียงแต่คนนอกที่ไม่รู้
องค์หญิงต้าถงพาหมิงเจ๋อออกไป และองค์หญิงผู้ใจดีก็ไว้ชีวิตอาจื่อหลังจากจากไปแต่หลังจากนั้น อาจื่อติดตามองค์หญิงไปตลอดทางจนถึงหลิงซานและต่อไปยังภูเขาหมิงเซียน
องค์หญิงสามารถสั่งให้ข้าบริพารของหมิงเจ๋อทำอะไรก็ได้ อาจื่อก็มีสิทธิ์นั้นเช่นกัน ดังนั้นการติดตามองค์หญิงสำหรับอาจื่อจึงไม่ใช่เรื่องยาก
โชคดีที่ตามมา มิเช่นนั้นจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่ผู้อ่อนโยนคนนี้กลับจับพี่ชายแท้ ๆ ขังไว้ และควักลูกตาของเขาออก แล้วส่งมาให้เซียวเฉวียน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...