ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1035

การดับเชื้อเพลิงของเพลิงชุ้ยเจี้ยนในครั้งนี้มีชิงหลงคอยช่วยเหลือ รวมถึงผู้มีประสบการณ์อย่างองค์หญิง นางขอให้ชิงหลงนำสายฝนลูกปัดน้ำแข็งและเชื้อเพลิงกักขังไว้ด้วยกันแต่แรก

สายฝนลูกปัดน้ำแข็งตกกระทบดังโพล้งเพล้ง น้ำฝนใกล้จะท่วมกระถางธูปแล้ว เปลวเพลิงด้านในกระถางธูปแทบดิ้นกระแด่ว ๆ กระถางธูปอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงฟู่ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ

กระถางธูปใกล้จะระเบิดแล้ว!

เสวียนอวี๋ที่มีไหวพริบด้านการฟังดีกว่านักปราชญ์ฟังออกในทันที เขารีบตะโกนเสียงดังขึ้น “ท่านอาจารย์! กระถางธูปจะระเบิดแล้ว ท่านรีบกลับมาเถอะ!”

เมื่อสิ้นเสียงของเสวียนอวี๋ นักปราชญ์ที่เดินนำหน้าเสวียนอวี๋อยู่ไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นก็เกิดเสียงปะทุดังก้องกลางอากาศ มีน้ำกระเซ็นขนาดใหญ่กระจายไปทุกที่

แม้แต่ม่านกำบังที่ชิงหลงสร้างขึ้นมาก็ระเบิดเป็นผุยผง เศษกระถางธูปที่แตกกระเด็นไปทั่วสารทิศ และมีบางส่วนที่กระเด็นไปโดนร่างกายของชิงหลงและคนอื่น ๆ

นักปราชญ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดไม่อาจหลีกหนีเอาชีวิตรอดได้ เขาหมดสติและร่างล้มลงไป...

“ท่านอาจารย์!” เสวียนอวี๋ร้องด้วยความตกใจ

...

...

ณ ซินเจียง

ระหว่างทางไปทะเลทรายตอนเหนือของซินเจียง

“รอข้าด้วยสิ” ระหว่างทาง มู่เวยต่างตะโกนไม่หยุด พวกเซียวเฉวียนรังแกมู่เวยด้วยเท้ายาว ๆ ของพวกเขา ไม่ว่ามู่เวยจะตะโกนอย่างไร พวกเซียวเฉวียนก็ไม่ยอมหยุดฝีเท้าลงเลย และไม่ว่ามู่เวยจะไล่ตามอย่างไร ก็ตามไม่ทันพวกเขาอยู่ดี

มู่เวยโมโหจนหยุดเดินเสียเลย นางเอามือเท้าเอวและตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ “ศิษย์พี่! หากว่าท่านยังไม่ยอมรอข้า ข้าจะกลับไปฟ้องท่านอาจารย์ บอกว่าท่านรังแกข้า!”

มู่จิ่นยังคงเดินตามรอยเท้าของเซียวเฉวียนและไม่ได้สนใจมู่เวย มู่จิ่นคิดในใจ : รีบกลับไปเลย รีบกลับไปฟ้องเลย เชิญเลย

มู่จิ่นไม่อยากให้มู่เวยตามพวกเขาไปยังทะเลทราย หนทางนี้ต้องลำบากมากเป็นแน่ ทะเลทรายร้อนอบอ้าว ไม่มีขอบเขต มู่เวยไม่มีทางทนได้

ทว่ามู่เวยชอบเล่นสนุก และมีนิสัยดื้อรั้นอย่างมาก นางรู้ว่ามู่จิ่นจะออกเดินทาง ไม่ว่ามู่จิ่นไปที่ใด มู่เวยตัดสินใจที่จะติดสอยห้อยตามไปด้วย คิดจะเกลี้ยกล่อมไม่ให้นางไป ไม่มีทางเด็ดขาด

มีเพียงวิธีเดียวคือให้มู่เวยรู้จักลำบากด้วยตัวเอง

การเดินทางไปทะเลทรายครั้งนี้ ทั้งลำบากและอันตราย แน่นอนว่ามู่จิ่นทำใจไม่ได้ที่จะให้มู่เวยตามไปลำบากและเสี่ยงอันตรายด้วย

ดังนั้น มู่จิ่นจึงแอบปรึกษากับเซียวเฉวียน เพื่อใช้แผนนี้ให้มู่เวยยอมถอยด้วยตัวเอง ขอเพียงมู่เวยเดินตามไม่ทันตลอดทาง นางก็จะเหนื่อยล้าและยอมแพ้ไปเอง

ความจริงแล้วเพียงใช้ความสามารถของเซียวเฉวียน นำตัวมู่จิ่นและโย่วควนทั้งสองคนหัวตัววับไป ก็จะหนีจากมู่เวยได้อย่างง่ายดาย

ทว่ามู่เวยคือคนที่มู่จิ่นรัก เซียวเฉวียนไม่อาจทำใจได้ที่จะทิ้งนางไปเช่นนี้ อย่างไรมู่เวยก็มีความจริงใจ สำนักหมิงเซียนถูกทำลายแล้ว นางก็ไร้ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัย เพราะเหตุนี้เซียวเฉวียนจึงคิดได้เพียงแผนการนี้เท่านั้น เดินให้ไวเสียหน่อย เพื่อให้มู่เวยยอมแพ้ด้วยตนเอง เช่นนี้มู่เวยก็ไม่ต้องร้องไห้แง ๆ แล้ว

นึกไม่ถึงว่า มู่เวยจะร้องไห้ออกมาจริง ๆ

มู่เวยเห็นว่าการข่มขู่มู่จิ่นไม่เป็นผล เขายังคงไม่รอนางเช่นเดิม พวกเขาหลายคนนั้นเดินห่างจากตัวเองไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงนั่งลงกับพื้นและแกล้งร้องไห้แง ๆ ออกมา พลางชักดิ้นชักงอชี้ไปยังมู่จิ่น “ศิษย์พี่ ท่านเปลี่ยนไป! เมื่อก่อนท่านรักมู่เวยเป็นที่สุด!”

เมื่อทั้งร้องทั้งโวยวาย มู่เวยเสแสร้งได้ระดับมืออาชีพเสียจริง เมื่อนางทุกข์ทรมานเช่นนี้ สุดท้ายมู่จิ่นก็อดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้าลงและหันมามองมู่เวย

เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่จิ่นอดไม่ได้ที่จะใจอ่อนลง มู่เวยห่างจากพวกเขาอยู่อย่างน้อยห้าร้อยเมตร รวมทั้งตอนนี้มู่เวยนั่งชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น ราวกับเด้กสาวที่ถูกทอดทิ้ง ทำให้มู่จิ่นทนเห็นไม่ได้ มู่จิ่นหันหน้าไปมองเซียวเฉวียน “ข้าว่าพวกเราพานางไปด้วยเถอะ”

เซียวเฉวียนยิ้มจาง ๆ พลางส่ายหัว “ย่อมได้ คงต้องเป็นเช่นนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย