ทุกคนรออยู่ครู่หนึ่ง ลมเหนือหันกลับ และลมใต้จะมาก็มาในทันที
ลมใต้ที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นเช่นนี้ มู่จิ่นและเซียวเฉวียนชอบนัก ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มอย่างเข้าใจ เพราะพวกเขาทั้งคู่นึกถึงคำพูดจีนที่มีชื่อเสียงหนึ่งประโยค: มีเพียงลมใต้เท่านั้นที่รู้ความคิดของข้า ข้าหวังเพียงว่าจะนำความฝันและความรักของข้าไปสู่คนรักของข้า
ระหว่างทางเซียวเฉวียนและมู่จิ่นสนิทสนมกันมาก ซึ่งทำให้มู่เวยเริ่มไม่พอใจ ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงปลายทางแล้ว มู่เวยคิดว่าเซียวเฉวียนทั้งสองก็คงจะควบคุมตัวเอง ดูแลความรู้สึกเธอซึ่งเป็นหญิงสตรี แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อลมกระโชกแรงพัดมา เซียวเฉวียนและมู่จิ่นก็มองหน้ากันและยิ้มให้กันโดยไม่พูดอะไรสักคำ...
เอ๋!
มู่เวยอดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งตัวเมื่อเธอคิดว่าคนสองคนนี้อาจเป็นไม้ป่าเดียวกัน มันน่ารังเกียจนัก!
อันที่จริง มู่เวยไม่รู้ว่าไม้ป่าเดียวกันคืออะไร
เพียงแต่ตอนที่เธอเป็นหมอ เธอได้ยินมาคร่าวๆ ว่า เมื่อชายสองคนอยู่ด้วยกันแล้วมีพฤติกรรมผิดปกติ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเป็นไม้ป่าเดียวกัน
สถานะปัจจุบันของเซียวเฉวียนและมู่จิ่นเป็นการนำเสนอที่แท้จริง ชายที่โตแล้วสองคนยิ้มให้กันโดยไม่มีคำพูดใดๆ มู่เวยดูแล้วรู้สึกว่ามันผิดปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคนเหล่านั้นพูดถึงไม้ป่าเดียวกัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกและรังเกียจ มู่เวยที่ฉลาดก็รู้ว่าไม้ป่าเดียวกันไม่ใช่สิ่งที่ดี
อย่างไรก็ตาม มู่เวยรู้สึกขยะแขยงเซียวเฉวียนเท่านั้น ในใจของมู่เวย มู่จิ่นไม่ใช่คนแบบนั้น ต้องเป็นเซียวเฉวียนคนเจ้าเล่ห์ผู้นี้ ไม่รู้ว่าใช้วิธีการอะไรทำให้ศิษย์พี่ของเขาสับสน...
เมื่อพูดเช่นนี้ ในความที่มู่เวยรู้สึกรังเกียจเซียวเฉวียนด้วยนั้น ความหึงหวงในใจของมู่เวยก็อดไม่ได้ที่จะปะทุขึ้น แต่ก่อนมู่จิ่นคอยถามไถ่มู่เวยอย่างเอาใจใส่
ตอนนี้ มู่จิ่นมีเพียงเซียวเฉวียน และเขาแทบไม่ได้พูดคุยกับมู่เวยเลยระหว่างทาง
หากสองคนนี้พัฒนาต่อไปเช่นนี้ มู่เวยจะยังมีที่ในใจของมู่จิ่นในฐานะศิษย์น้องอีกไหม?
ไม่ได้การ ไม่อาจปล่อยให้เซียวเฉวียนแย่งศิษย์พี่ไปได้
ในเวลานี้ มู่เว่ยไม่ได้ใส่ใจเลยว่า โยว่ควน ชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ที่นี่ กลับกลายเป็นไม่มีเสน่ห์เท่ามู่จิ่น ศิษย์พี่ของเธอแล้ว
เพื่อแสดงจุดยืน มู่เวยจึงเดินไปหามู่จิ่น กระพริบตาโตแล้วถามว่า "ศิษย์พี่ ทำไมท่านถึงพาเรามาที่ที่รกร้างแห่งนี้"
“เจ้าดูสิ" มู่จิ่นพูดพร้อมกับชี้ไปทางสายลมด้วยความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา คลังอาวุธกลางแจ้งได้ปรากฏต่อหน้าทุกคน
มู่จิ่นรู้ว่า กลางแจ้งนั้นมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น และคลังอาวุธก็ได้รับการปกป้องด้วยบาเรีย การปรากฏตัวของคลังอาวุธ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างตกใจ
มู่เวยมองไปทางนั้นแล้วก็ตกใจ นี่มันอะไร?
ในบรรดาอาวุธที่อยู่ตรงหน้าเธอ มู่เวยรู้จักเพียงปืน ซึ่งเธอรู้จักจากปืนพกที่อยู่ในมือของเธอ ส่วนที่เหลือนั้นเธอไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนเลย
มู่เวยไม่อาจแม้แต่จะกระพริบตา
ในเวลานี้ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซียวเฉวียนกำลังยิ้ม ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีความสุขในใจแค่ไหน
ว้าว!
ใหญ่!
ปืน! ปืน ปืน ปืน!
และรถถัง!
รถถังตระหง่านที่สามารถบดขยี้ผู้คนจนตายได้โดยตรง!
ความประทับใจแรกที่คลังอาวุธมอบให้กับเซียวเฉวียนคือมันใหญ่มาก!
ขนาดของคลังอาวุธนั้นเกินความคาดหมายของเขามาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...