มาถึงตอนนี้ไม่ว่าชิงหลงจะจัดการได้หรือไม่ ที่จริงแล้วเว่ยเชียนชิวไม่ใส่ใจอีกแล้ว
ตอนนี้สิ่งที่เขาใส่ใจมากที่สุด ก็คือหลายปีที่ผ่านมานี้เขาได้เก็บสมบัติที่มีค่าซ่อนไว้ที่ซินเจียง
เนื่องจากจวนเจียนกั๋วของเว่ยเชียนชิวต้องเลี้ยงดูฝึกฝนคนหลากหลายประเภท ตอนที่ต้องการหาคน จึงต้องเสนอข้อดีให้ไปมาก ดังนั้นต้นทุนค่าใช้จ่ายมีมาก
ตามที่ทุกคนเห็น กองกำลังชาวยุทธ์แท้ของเว่ยเชียนชิวขึ้นอยู่กับต้าเว่ย แต่ที่จริงแล้วกองกำลังนี้เป็นของเว่ยเชียนชิวคนเดียว ฟังคำสั่งจากเว่ยเชียนชิวคนเดียวเท่านั้น
เว่ยเชียนชิวใจกว้างต่อคนที่มีประโยชน์ต่อเขามาตลอด ดังนั้นจวนเจียนกั๋วใช้จ่ายเงินไปอย่างมากมายมาตลอด ถ้าไม่มีสมบัติล้ำค่าที่มาจากซินเจียง เว่ยเชียนชิวก็ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากมายอย่างนี้ได้
และก่อนหน้านี้รัฐไป๋ลู่และรัฐมู่อวิ๋นทั้งหมดเป็นพื้นที่ของเว่ยเชียนชิว หลังจากนั้นเป็นเพราะเซียวเฉวียน ทั้งสองรัฐนี้ก็ตกเป็นของฮ่องเต้
พูดตามจริงแล้ว เซียวเฉวียนฆ่าคนของเว่ยเชียนชิวไป ที่จริงเว่ยเชียนชิวไม่ได้โกรธอะไรมาก
แต่สิ่งที่เว่ยเชียนชิวโกรธจริงๆ ก็คือเซียวเฉวียนหยิ่งยโสมากเกินไป และยังตัดขาดเส้นทางการเงินของเว่ยเชียนชิวอีกด้วย
รัฐไป๋ลู่และรัฐมู่อวิ๋นของตราประทับเหวินอิ้น ทั้งหมดเป็นเพราะเซียวเฉวียนถึงได้ตกไปอยู่ในมือของฮ่องเต้ ตัดขาดเส้นทางการเงิน ก็เหมือนกับฆ่าพ่อแม่ของคนๆนั้น เมื่อเว่ยเชียนชิวคิดถึงเซียวเฉวียนขึ้นมาก็ต้องกัดฟันเกลียดโมโหอย่างมาก แต่ตลอดเวลาไม่ได้แสดงออกมา
เขาเป็นผู้นำเว่ยเจียนกั๋ว ถ้าให้คนอื่นรู้ว่า เพื่อเงินแล้วทำให้เขาเกลียดเซียวเฉวียน เขาอับอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าจะมีเด็กเพียงคนเดียวรู้ ว่าเขาเว่ยเจียนกั๋วร่ำรวยมาก มีเงินทองมากมาย และยังใจกว้างกว่าฮ่องเต้
ผู้ชายต้องการรักษาเกียรติไว้เสมอ
ผู้ชายที่มีตำแหน่งสำคัญสูงส่ง ยิ่งเห็นว่าการรักษาเกียรติไว้สำคัญยิ่งกว่าชีวิต
ดังนั้น เว่ยเชียวชิวทำเพื่อยืดขยายสร้างตัวตนให้ตนเองว่ามีเงินมากมาย แม้จะโดนทำร้ายก็อดทนกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้
ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนยังไม่รู้ว่าเว่ยเชียนชิวชอบความร่ำรวย
เซียวเฉวียนมาจากสังคมโบราณ ไม่รู้ว่าราชวงศ์หนึ่งราชวงศ์จะสามารถทำเงินได้เท่าไร
ดังนั้น เซียวเฉวียนก็ไม่รู้ว่าเว่ยเชียนชิวเกลียดเขามากแค่ไหน โดยส่วยใหญ่แล้วจะมีสาเหตุเพราะเรื่องเงินทั้งหมด
ทำได้เพียงโทษว่าเมื่อก่อนเว่ยเชียนชิวเหิมเกริมมากเกินไปแล้ว เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ จนได้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว และเว่ยเชียนชิวก็เส้แสร้งแกล้งทำได้เป็นอย่างดี จะมีใครคาดคิดได้ว่า เว่ยเชียนชิวใส่ใจเรื่องเงินทองมาก?
ตอนนี้เกิดไฟไหม้ เผาจวนเจียนกั๋วจนหมดสิ้น
และไฟไหม้นี้ เห็นได้ชัดว่าไฟมีความรุนแรงกว่าปกติ ของโบราณของเว่ยเชียนชิว สมบัติของมีค่า เงินทองหลอมละลายไปหมดแล้ว
ที่จริงแล้วทองและเงินเมื่อละลายไปแล้ว รอให้เย็นลงก็ยังสามารถหาเจอได้ แต่สุดท้ายกองทัพตระกูลเซียวได้สร้างเมฆดำทำให้ฝนตกหนักลงมาอีก เฮ่อ ตกหนักอย่างมากจนทุกอย่างหายไปจนหมดสิ้น
ดีละ ทองและเงินก็หายไปหมดแล้ว
เมฆดำนั้น ก็เปลี่ยนเป็นไปมีประกายสีทองวิบวับ
เว่ยเชียนชิวโกรธอย่างมาก ดังนั้น ความหวังของเขาทั้งหมดจึงอยู่ที่ของมีค่าเหล่านั้นที่อยู่ที่ซินเจียง
“ของมีค่าพวกนั้น ข้าได้ซ่อนไว้ที่ซินเจียงหลายปีแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะนำมาใช้แล้ว” เว่ยเชียนชิวกำหมัดแน่น:“ในเมื่อติดต่อพวกเขาไม่ได้ เจ้าก็ไปหาด้วยตัวเอง จะต้องนำของมีค่าเหล่านั้นกลับมาด้วยให้ได้!”
“ขอรับ!เจียนกั๋ว!” เฮยหลังรับคำสั่งและออกไป
หลายปีมานี้ เว่ยเชียนชิวเก็บสะสมของมีค่าไว้ได้มากอยู่ที่ซินเจียง
ก่อนหน้านี้เขามีเงินมาก ดังนั้นไม่ได้แตะต้องของล้ำค่าในส่วนนี้เลย เจ้าเล่ห์ฉลาดวางแผนการสำรองไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงฮ่องเต้ที่จะจัดการเขาได้ในครั้งเดียว ดังนั้นจึงสั่งให้ต้าจ้วงอยู่ที่ซินเจียงสร้างสถานที่หนึ่งไว้ ภายในนั้นทั้งหมดเป็นสมบัติล้ำค่าที่หลายปีมานี้เขาได้เก็บสะสมจากเมืองต่างๆ
ด้วยของล้ำค่าพวกนี้ เว่ยเชียนชิวก็สามารถกลับมาร่ำรวยอย่างไม่มีใครเทียบได้อีกครั้ง
นี้เป็นรูปแบบต้าเว่ยของเห่อคุน
ไป๋ฉี่บังคับพาคนของต้าจ้วงไป เว่ยเชียนชิวรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
แต่เขาก็ยังรอค่อยความหวังอยู่ เขาหวังว่า เซียวเฉวียนจะลดความกล้าหาญลงบ้าง อย่ามาต่อต้านกับเขาอีก
แค่นี้ เซียวเฉวียนไม่ได้ตั้งใจที่จะไปแตะต้องจุดอ่อนอย่างที่สองของเว่ยเชียนชิวก็คือ——เงิน
“หือ?ยุคโบราณก็มีป่ามด?” เซียวเฉวียนมองดูต้นแฮโลซีลอนเหล่านั้น พูดออกมาทำให้มู่จิ่นหัวเราะไม่หยุด:“นี้ไม่ใช่อาลีเพย์ปลูก เป็นป่าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!ดูเหมือนจะใช่!”
เซียวเฉวียนพยักหน้า สบตากับมู่จิ่นเล็กน้อย หัวเราะขึ้นมา มุกตลกสมัยปัจจุบัน ในสายตาของคนโบราณทั้งสองคนอย่างโย่วควนและมู่เว่ยดูแปลกประหลาด ป่ามด?อาลีเพย์?
แค่ต้นหญ้าเน่าๆมีอะไรน่าขำ?
ถึงแม้ว่ายังไม่กลับไปที่บ้านเกิดก็สามารถเห็นต้นหญ้านี้อยู่ทุกที่ ทำให้คิดถึงบ้านเกิด
ความรู้สึกนี้ มีเพียงเซียวเฉวียนที่เข้าใจมู่จิ่น
ดังนั้นเมื่อเห็นสิ่งอะไรที่มีความเกี่ยวของกับยุคปัจจุบันแม้เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้กระทบจิตใจส่วนลึกของเซียวเฉวียนและมู่จิ่นจนไม่สามารถพูดออกมาได้ เช่นต้นแฮโลซีลอนนี้
ที่หัวเราะ ก็ไม่มีอะไร ก็เป็นเพียงแค่บรรเทาอาการคิดถึงบ้านเกิด
“ก็เพียงแค่คิดว่าบ้านเกิดเป็นบ้านเก่า เมื่อมีต้นแฮโลซีลอน รู้สึกว่าน่าสนใจ” มิน่าละมู่จิ่นถึงหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ “ไปเถอะ คลังอาวุธอยู่ข้างหน้านี้แล้ว ทำให้พวกเจ้าได้เปิดหูเปิดตาดู”
น้ำเสียงของมู่จิ่นมีความภาคภูมิใจ นี้เป็นสิ่งที่เขาค้นพบเอง
วันเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เคยพาใครมาที่นี่มาก่อน แม้แต่มู่เว่ยก็มาเป็นครั้งแรก
เหอะ มู่เว่ยมีความอิจฉาขึ้นมาอีกแล้ว เห็นศิษย์พี่ที่ดูสนิทสนมกับเซียวเฉวียนมากกว่านางเสียอีก
คลื่นความร้อนแผ่เข้ามา ในที่ไม่ไกลนัก พื้นที่ว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด
“คลังอาวุธละ?”
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ที่นี่ไม่เห็นมีอะไร
“รอลมจากทิศใต้พัดมา ถึงจะมองเห็น” มู่จิ่นขมวดคิ้ว:“น่าแปลกมากใช่ไหม?”
เซียวเฉวียนพยักหน้า:“อื้ม งั้นพวกเรารอลมจากทิศใต้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...