"เซียวเฉวียนเป็นลูกเขยของตระกูลฉิน มันแอบทำเงียบๆ ไม่ได้!" ขุนนางโจวรู้สึกน้อยอกน้อยใจ
”เจ้า!” อัครเสนาบดีกำหมัดแน่น
ที่จวนฉิน ห้องใต้หลังคา
ฉินซูโหรวชิมน้ำชากับหญิงที่แต่งงานแล้วหลายคน คนเหล่านี้เป็นเพื่อนที่ดีของเธอในอดีต ตั้งแต่ฉินซูโหรว แต่งงานกับเซียวเฉวียน พวกเขาก็ขุ่นเคืองใจมาตลอดและมักจะมาอยู่เป็นเพื่อนกับเธอเป็นครั้งคราว
สามีของพวกเขาทั้งหมดมาจากตระกูลชนชั้นสูง เชี่ยวชาญตีขีมเล่นหมากรุก เขียนพู่กันวาดภาพ สามีบางคนมีพื้นฐานครอบครัวที่ดีและบรรพบุรุษสั่งสมบารมีมาสามชั่วอายุคนแล้ว บางคนมีอนาคตสดใสเป็นพิเศษ อายุน้อยๆ ก็ได้รับตำแหน่งในราชสำนักแล้ว
มีเพียงบุคคลที่ฉินซูโหรวแต่งงานด้วยเท่านั้นที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง
วันนี้ฉินเฟิงยังต้องพาผู้คนออกไปอย่างเอิกเกริก ว่าจะไปช่วยชีวิตเซียวเฉวียน หญิงกลุ่มนี้ส่ายหัว เพื่อเห็นแก่หน้าของฉินซูโหรว จึงเก็บความดูถูกดูหมิ่นไม่กล่าวนินทาซ่อนไว้ในใจด้วย
หลังชิมดื่มน้ำชาผ่านไปครึ่งทาง ฉินซูโหรวหมดความร่าเริง น้ำตาก็หลั่งไหลออกมา
บางคนเกลี้ยกล่อมทันที "ซูโหรว เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ปลงเสียเถอะ"
คนอื่นๆ พยักหน้ากันถ้วนหน้า ล้วนดูชอบใจนิดๆ ก็นั้นแหละ ใครจะทนให้ลูกสาวตระกูลแม่ทัพนายพลแท้ๆ แต่งกับครอบครัวยากจนเช่นนี้ ใครจะไปทนได้?
เมื่อก่อนฉินซูโหรวมีสถานะสูงที่สุดในหมู่พวกเขา แต่หลังจากแต่สามีคนนี้เข้ามาแล้ว สถานะและชื่อเสียงของเธอในแวดวงสาวสูงศักดิ์ก็ค่อยๆ ลดน้อยถอยลง
”พี่ใหญ่ฉันไปช่วยเขา ทำให้ฉันกังวลมาก เซียวเฉวียนคนต่ำต้อยคนนี้ ไม่คู่ควรให้พี่ฉันไปช่วยชีวิตเขาเลย!”
เป็นตัวอย่างของการพูดดีทั้งๆ ที่ไปเบียดเบียนเอาเปรียบเขามาก่อน เห็นได้ชัดว่าตระกูลฉินเต็มใจไปช่วยโดยแลกกับดาบฉุนจวีน แต่ในปากของฉินซูโหรว เธอไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับฉุนจวีนเลยสักคำ ทำให้คนอื่นคิดว่าตระกูลฉินใจกว้างและมีมนุษยธรรมต่อลูกเขยเป็นอย่างมาก
"ตระกูลฉินเป็นตระกูลใหญ่ ลูกเขยมีภัย ก็ต้องไปช่วยอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล คุณชายใหญ่ตระกูลฉินลือชื่อในด้านศิลปะการต่อสู้ ทุกคนชมว่าเขาเป็นลูกเสือตระกูลแม่ทัพนายพล เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน "
"แน่นอน" ฉินซูโหรวพยักหน้าอย่างได้ใจ พี่ใหญ่ของเธอยังหนุ่มและมีความสามารถ หญิงสาวหลายคนในเมืองหลวงต่างชื่นชมเขา ซึ่งทำให้ตระกูลฉินมีความภาคภูมิใจมาก
“แต่ว่า เซียวเฉวียนไปทำอะไรเข้า ต้องมาเดือดร้อนถึงคุณชายใหญ่ตระกูลฉิน?”
หญิงๆ ต่างงงงวย ฉินซูโหรวแสดงท่าทางเบื่อหน่ายมาก "เขาไปก่อเรื่องที่อ้านย้วน"
หลังจากที่ผู้หญิงอุทานเบาๆ พวกเขาก็หายใจเข้าลึกๆ ไม่น่าเชื่อ ไพร่คุนหลุนนั้นต่ำต้อยและถูกดูหมิ่น เซียวเฉวียนหามาคนหนึ่งให้เป็นผู้อารักขาแล้วยังไม่พอ เขายังเที่ยวไปยังอ้านย้วนที่มีบรรยากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลวทรามอีก
ที่นั่นเป็นแหล่งที่อยู่ของพวกไพร่ ได้ยินมาว่าปลูกหญ้าไม่ขึ้น พวกไพร่ไม่มีอะไรให้กิน
เซียวเฉวียนอยู่รวมกับไป่ฉี เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว ลูกเขยในตระกูลฉินแท้ๆ ไปอยู่มั่วกับไพร่คุนหลุนทั้งวัน ลดสถานะตัวเองลงแท้ๆ !
และนี่ เขายังวิ่งไปยังอ้านย้วนสถานที่อย่างนี้! ไม่ให้ความเคารพตัวเองเลย!
เพื่อนหญิงทั้งหลายประหลาดใจมาก ฉินซูโหรวสีหน้าทั้งเขียวทั้งขาว ขายหน้า! ช่างขายหน้าอะไรอย่างนี้!
“ซูโหรว เธอปล่อยให้เขาทำตัวตามใจแบบนี้อีกไม่ได้ เขาแต่งงานเข้าบ้านตระกูลฉิน เธอจะต้องไปกลัวอะไรเขา”
ฉินซูโหรวถอนใจเบาๆ เธอไม่ใช่ไม่ได้สั่งสอนเขา ครั้งที่แล้วเธอจะอาศัยแม่เซียวตีหัวเซียวเฉวียนสักหน่อย แต่เซียวเฉวียนไม่เพียงแต่ฆ่าคนรับใช้ ยังตัดอวัยวะทิ้งให้ดูต่อหน้า ทำให้เธอหวาดกลัวมานานวัน เขาอาละวาดในงานเลี้ยงฉลอง ให้เธอเปิดเผยเท้า......
เรื่องน่าอายเหล่านี้ ฉินซูโหรวจะไม่บอกเพื่อนหญิงแน่นอน เมื่อหญิงสูงศักดิ์เหล่านี้เห็นเธอหน้านิ่วคิ้วขมวด ต่างก็พูดกันคนละปากคนละคำ
"อย่าไปกลัวเขา! เขาสู้ตระกูลฉินเธอไม่ได้ ดูเธอสิถูกเขาข่มจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว"
”นั่นสิ ทุกคนในบ้านก็ให้ท้ายเธอ ยังจะไปกลัวอะไรกับคนมาจากตระกูลยากจนต่ำต้อย?”
“สั่งสอนเขาให้ดี ให้เขาเชื่อฟังเธอ ไหนๆ ก็แต่งงานแล้ว อย่าคิดเรื่องหย่า มันไม่ดีต่อชื่อเสียงของเธอ”
หญิงสามคนในละครเรื่องเดียว คุยโขมงโฉงเฉงกัน ฉินซูโหรวยิ่งรู้สึกน้อยอกน้อยใจยิ่งนัก "สั่งสอนเขาไม่ได้ เขายังขู่ว่าจะหย่ากับฉันด้วย"
การสนทนาส่วนตัวเหล่านี้ ฉินซูโหรวก็กล้าแต่พูดคุยกับเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้น
ไม่คิดว่า หญิงผู้ดีทั้งหลายตกใจ จากนั้นปิดปากหัวเราะราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกอันยิ่งใหญ่
"เขาแค่หลอกเธอ เขาอุตส่าห์เอื้อมสูงจนได้ตระกูลฉิน คงไม่ละมือหรอก? เขาจะสร้างอาชีพก้าวหน้าในราชสำนัก เขาจะหนีไม่พ้นจวนฉินแน่นอน ทำไมเธอต้องกลัวเขา?"
"ใช่ เขาแค่หลอกให้เธอกลัว! ครั้งนี้ พี่ชายเธอช่วยชีวิตเขาไว้ที่อ้านย้วน เขาจะสูญเสียความฮึกเหิมอย่างแน่นอนเขาจะเชื่อว่ามีแต่ตระกูลฉินที่เป็นที่พึ่งของเขา ในเวลานั้น เธอก็สั่งสอนให้เขารับรู้หน้าที่ของเขยในบ้านภรรยา!"
"ตอนนี้เขาเป็นเพียงฮุ่ยหยวน ก็ทำตัวโดดเด่น ยั่วยุล่วงเกินผู้คนมากมาย หากปราศจากการหนุนหลังของตระกูลฉิน เขาก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ เธอจะไปกลัวทำไม"
"ค่ะ ๆ "
ฉินซูโหรวพยักหน้า ความมั่นใจของเธอทวีขึ้นเป็นเท่า ใช่ เธอเป็นไข่มุกในมือของตระกูลฉิน เธอยังต้องกลัวเขยที่แต่งเข้าบ้านอีกหรือ?
เมื่อเซียวเฉวียนก่อเรื่อง มีเพียงตระกูลฉินเท่านั้นที่ช่วยได้ เซียวเฉวียนจะต้องเสียใจ เสียใจที่ปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้!
"ฉันได้ยินมาว่า จูเหิงกำลังจะถูกปล่อยตัวออกจากคุก บอกให้เซียวเฉียนเก็บเนื้อเก็บตัวหน่อยเห่อะ ตระกูลจูมีอิทธิพลมาก เรื่องจูเหิงชนกับฝ่าบาทยังถูกลบทิ้งไปได้ เขยบ้านเธออย่าไปยุ่งกับเขาอีกต่อไปเลย”
"หรือ จริงหรือ......" หัวใจของฉินซูโหรวหวั่นไหว เธอแอบคว้าผ้าเช็ดหน้า ดีใจไม่น้อย จูเหิงกำลังจะถูกปล่อยตัวจากคุก ทุกวันนี้เธออารมณ์ตุ้มๆ ต่อมๆ ก็เพราะเขานี่แหละ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...