นี่... เกรงว่าจะจัดการยากเสียหน่อย
พ่อบ้านพูดอย่างเคร่งขรึม: "เรียนใต้เท้าเจียนกั๋ยว ข้างนอกเต็มไปด้วยราษฎร มากมายเต็มไปหมด"
คำที่พ่อบ้านต้องการพูดต่อ ไม่ต้องอธิบายให้ชัดเจน เว่ยเชียนชิวคงข้าใจแล้วมั้ง?
หนึ่งหรือสอง หรือสิบหรือแปดคน พ่อบ้านสามารถทำตามความปรารถนาของเว่ยเชียนชิว นำพวกเขาทั้งหมดมาที่จวนจาง เพื่อดำเนินการอย่างลับๆ
แต่มีคนอยู่ข้างนอกมากมาย และถือไข่ ใบผัก แท่งไม้ จอบ และอื่นๆ
ดูท่านี้ถ้าใครกล้าต่อกรกับพวกเขา คงสู้ฟันฝ่าฟันแน่นอน
นอกจากนี้ จวนจางก็ไม่ใหญ่พอที่จะรองรับคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่นอกประตูได้ และไม่สามารถต่อสู้กับคนกลุ่มใหญ่ที่โหดเหี้ยมได้
ดังสุภาษิตโบราณ มิควรขุ่นเคืองต่อสาธารณะชน
แม้ว่าตระกูลจางจะใหญ่โตเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะขัดแย้งกับคนกลุ่มใหญ่อย่างเปิดเผย
สุนัขจนตรอกจะกระโดดข้ามกำแพง
จวนจางทำให้คนเหล่านี้วิตกขึ้นมาจริง หากพวกเขาไม่ยอมรับ พวกเขาจะงัดจวนจางทั้งหมด!
เพราะฉะนั้น พ่อบ้านจึงไม่กล้าหรือไม่สามารถพูดความจริงที่แท้จริงได้ กล่าวคือ ราษฎรต่างดุด่าเว่ยเชียนชิว ซึ่งนั่นไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจางเลย เพื่อความปลอดภัยของตระกูลจาง เว่ยเชียนชิวควรจะอดทนต่อไป
ไม่เช่นนั้น หากราษฎรเข้ายึดจวนจางเว่ยเชียนชิวก็จะไม่มีที่อยู่สุดท้ายนี้ด้วยซ้ำ
คำสาปแช่งข้างนอกยังคงเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เว่ยเชียนชิวอารมณ์เสียมาก
ดังที่พ่อบ้านบอก มีพวกมันมากเกินไป เว่ยเชียนชิวไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด
ดังนั้น ไม่ว่าเว่ยเชียนชิวจะหงุดหงิดแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถจัดการกับคนที่ไม่เชื่อฟังเหล่านั้น
เห็นด้วยกับประโยคนั้นจริงๆ เสือร่วงสู่พื้นที่ราบ จะถูกสุนัขรังแก
ปีที่แล้วเว่ยเชียนชิวยังคงเป็นบุคคลที่ผู้คนหวาดกลัว ต้องเดินอ้อมจากระยะไกล
ในเวลาเพียงปีกว่า เว่ยเชียนชิวมาถึงจุดที่ราษฎรดุด่าต่อว่าเขา
ช่างเป็นเรื่องน่าประหลาดใจนัก!
เว่ยเชียนชิวขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา: "เช่นนั้นก็ขับไล่พวกเขาไปเสียให้พ้น"
คนที่ดื้อรั้นเหล่านั้นไม่สามารถถูกฆ่าได้ แต่สามารถขับไล่พวกเขาออกไปได้ใช่ไหม?
เมื่อฟังเสียงของพวกเขา เว่ยเชียนชิวรู้สึกหงุดหงิดมากจน แทบจะอยากจะฆ่าใครสักคน
เนื่องจากเว่ยเชียนชิวพูดเช่นนั้น พ่อบ้านก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพูดอย่างขี้ขลาดว่า: "ใต้เท้าเจียนกั๋ว ข้าน้อยจะพยายามให้ดีที่สุดขอรับ"
ส่วนที่ว่าจะสามารถไล่ออกไปได้หรือเปล่านั้น พ่อบ้านไม่กล้ารับประกัน
หลังจากพูดแบบนี้เว่ยเชียนชิวก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว: "เจ้าหมายความว่าอย่างไร? อะไรคือ จะพยายามทำให้ดีที่สุด หือ?"
พ่องเอ้ย!
เจ้านายของเจ้า จางจิ่น ยังไม่กล้าขายผ้าเอาหน้ารอดกับข้าเว่ยเชียนชิวแบบนี้ด้วยซ้ำ!
หมายความของพ่อบ้าน หากพ่อบ้านไม่สามารถขับไล่คนที่เหล่านั้นออกจากจวนจางได้ เว่ยเชียนชิวก็เพียงต้องยอมรับว่าเขาโชคร้าย ทนทุกข์กับการถูกดุด่าเงียบๆ?
เป็นไปได้ยังไง!
เว่ยเชียนชิวไม่เคยขี้ขลาดขนาดนี้มาก่อน!
ยิ่งกว่านั้น เว่ยเชียนชิวเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ชีวิตอย่างไร้ประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต!
จะให้เขาซึ่งเป็นเจียนกั๋วที่มีเกียรติของประเทศประนีประนอมกับราษฎรที่ไม่เชื่อฟังเหล่านั้น เว่ยเชียนชิวจะไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้ได้!
เว่ยเชียนชิวพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความโกรธในใจ เขากัดฟันแล้วพูดว่า: "ไม่ว่ายังไรก็ตาม ต้องขับไล่พวกเขาออกไป เจ้าได้ยินหรือไม่?"
รับรู้ได้ว่าพายุกำลังมา พ่อบ้านไม่กล้าปฏิเสธจึงกัดฟันพูดว่า "ขอรับ ข้าน้อยทำตามคำสั่ง"
หลังจากนั้นพ่อบ้านก็จากไป
หลังจากออกมาแล้ว พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างพูดไม่ออก พนมมือประสานกัน และอธิษฐานขอพระเจ้าอวยพรให้เขาทำภารกิจขับไล่ราษฎรให้สำเร็จ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...