ที่ตำหนักฉางอัน.
ขันทีหม่ากงกงจุดเทียนขึ้น จักรพรรดิทรงตรวจดูสาส์นราชการเสร็จแล้ว แต่พระองค์ยังไม่คิดจะพักผ่อน
จักรพรรดิดีใจ ดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ขันทีหม่ากงกงพูดเบาๆ ว่า "ฝ่าบาท อัครเสนาบดีกำลังรออยู่ข้างนอกพร้อมกับคนจากจวนว่าการชั้นใน โดยบอกว่าจะมาสารภาพผิดที่ได้ทำร้ายเซียนกระบี่และฉินเฟิงโดยมิได้ตั้งใจขอรับ"
มิได้ตั้งใจ? จักรพรรดิยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หลังจากเซียนกระบี่ได้รับการช่วยชีวิตไว้ ก็ตรงเข้าไปในพระราชวัง
ถือเป็นพระกรุณาอย่างยิ่ง
พระประสงค์ของจักรพรรดินั้นชัดเจนในตัวเอง เซียนกระบี่ตกเป็นคนของพระองค์แล้ว
"สั่งให้พวกเขาถอยไปเถอะ เรื่องนี้ให้เอาโทษแต่จวนว่าการชั้นในก็พอ" จักรพรรดิพูดเบาๆ
“ไม่ปราบหวางเก๋อหรือ?”
จักรพรรดิเลิกคิ้ว ขันทีหม่ากงกงตบปากตัวเองทันที "ข้าน้อยปากเสีย พูดเลยเถิดไปแล้ว"
องค์จักรพรรดิกระซิบ "อัครเสนาบดีเจ้าเล่ห์ ลงโทษเขาด้วยเรื่องเล็กน้อย มันไม่สะทบสะท้าน แค่ตักเตือนเขาพอ ตอนนี้การฟื้นฟูระบบอารักขาปัญญาชน ถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"
ด้วยการฟื้นฟูระบบอารักขาปัญญาชน จักรพรรดิไม่เพียงแต่สามารถควบคุมเจ้าหน้าที่กันใหม่ แต่ยังปกป้องปัญญาชนได้ด้วย
แบบนี้ เส้นทางนองเลือดของการสอบขุนนางสำหรับผู้รู้หนังสือก็ไม่ลำบากแสนเข็ญอีกต่อไป
"ใช่ ใช่ ใช่...... ข้าน้อยเรียนน้อยเบาปัญญา ไม่สามารถคิดรอบคอบดั่งเช่นฝ่าบาทได้ขอรับ"
"ร่างพระราชกฤษฎีกาให้เชิญตัวฉินเฟิงและเซียวเฉวียนเข้าวังในวันพรุ่งนี้ ฎีกานี้ ข้าพเจ้าขอเขียนเอง"
จักรพรรดิมีความสำราญใจอย่างยิ่ง ในที่สุดจะได้พบเซียวเฉวียนแล้ว
ขันทีหม่ากงกงเริ่มฝนหมึก ยิ้มแล้วยิ้มอีก รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้ากลายเป็นลายดอกไม้ "นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าน้อยเห็นฝ่าบาทมีความสุขขนาดนี้ ว่ากันว่าเซียวฮุ่ยหยวนคนนี้เฉลียวฉลาดมากจริงๆ เรื่องของอ้านย้วน แม้เขาจะไม่เคยสื่อสารกับพระองค์แม้แต่คำเดียว แต่เขามีสายสัมพันธ์ทางใจถึงพระองค์ ประเด็นนี้ แม้แต่ข้าน้อยที่อยู่กับพระองค์มาหลายปีดีดัก ก็ยังเทียบไม่ได้เลย”
องค์จักรพรรดิหัวเราะเสียงดัง ไม่พูดอะไรต่อ ยกมือขึ้นแล้วร่างฎีกาทันที
ที่ผ่านมาผู้สมัครสอบที่สามารถเข้าเฝ้าจักรพรรดิได้ จะต้องผ่านการสอบระดับพระราชวังเท่านั้น
ยังไม่ได้สอบระดับพระราชวัง เซียวเฉวียนก็สามารถเข้าเฝ้าพระองค์ได้ เกียรติยศนี้นับเป็นครั้งแรกในต้าเว่ยตั้งแต่เปิดประเทศมา
เมื่อพระราชกฤษฎีกาลงมาที่จวนฉิน จวนฉินซึ่งโศกเศร้ามาทั้งวันก็เดือดพล่าน
ฝ่าบาทเชิญตัวคุณชายใหญ่!
ตามกฤษฎีกาเขียนไว้ว่า คุณชายใหญ่มีความกล้าหาญหาตัวจับยาก ลงโทษข้าราชการผู้ทรยศ ปกป้องท่านอ๋อง ได้รับความดีความชอบอันดับหนึ่ง! ให้คุณชายใหญ่เข้าวังเพื่อรับบำเหน็จในวันพรุ่งนี้!
เห็นได้ชัดว่ายังมีเซียวเฉวียนในกฤษฎีกา แต่คนในตระกูลฉินเลือกที่จะเพิกเฉย
ในพระราชกฤษฎีกาเขียนไว้ว่าฉินเฟิงจะได้รับบำเหน็จเป็นรางวัลชั้นหนึ่งและทองคำสามพันตำลึง และให้ฉินเฟิงเข้าวังในวันพรุ่งนี้เพื่อรับรางวัล แต่สำหรับบำเหน็จของเซียวเฉวียนนั้นไม่ได้กล่าวถึงแม้แต่อักษรตัวเดียว
ดูผิวผืน ฉินเฟิงถึงจะเป็นพระเอกในกฤษฎีกานี้ เซียวเฉียนเป็นเพียงตัวประกอบ
ท่านยายฉินมีความดีใจมาก ฉินเฟิงได้ความดีความชอบอันดับหนึ่งครั้งนี้ จะเป็นแต้มต่อสำหรับการสมรสกับองค์หญิงเพิ่มขึ้นอีก!
เซียวเฉวียนไม่ติดใจว่ากฤษฎีกาจะเขียนว่าอย่างไร เขาเพียงยอมรับพระราชกฤษฎีกามาเฉยๆ จักรพรรดิกล่าวแล้วว่าเขาต้องการรางวัลอะไร ไว้คุยกันต่อหน้าพระพักตร์ได้ อันนี้ดีกว่าฉิงเฟิงไปไหนๆ
เซียวเฉวียนเปลี่ยนมุมมองของเขาที่มีต่อจักรพรรดิ เขาเคยคิดว่าจักรพรรดิถูกควบคุมโดยเว่ยเจียนกั๋วตั้งแต่ยังเด็ก อารมณ์ของพระองค์คงจะนุ่มนวลสักหน่อย
แต่เมื่อดูจากเรื่องของอ้านย้วน จักรพรรดิเป็นราชา เป็นคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ ทหารม้าที่พระองค์ส่งไปนั้นกลายเป็นกบฏจากจวนว่าการชั้นในหมด
เมื่อต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาอย่างกะทันหัน อัครเสนาบดีน่ากลัวจะตั้งตัวไม่ทัน หน้าตาดูมึนตึ๊บไปหมด
เซียนกระบี่ที่ยิ่งดูน่าสงสาร ถูกจักรพรรดิตัดข้อมือ จะเป็นคนพิการในชั่วชีวิตนี้ ไม่สามารถถือดาบได้อีกต่อไป นี่คือสิ่งที่เขาสมควรได้รับและไม่สมควรได้รับความเห็นอกเห็นใจ เรื่องน่าเศร้าคือเขาคิดว่าจักรพรรดิคือผู้ช่วยชีวิตของเขา เป็นคนน่าสมเพชที่ถูกคนอื่นวางแผนทำร้ายแล้วยังไม่รู้ตัว
จักรพรรดิสั่งสอนผู้คนอย่างเงียบๆ แถมเลี่ยงพระองค์เองพ้นจากเหตุการณ์อย่างขาวสะอาด
อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิยังมีด้านของความเมตตากรุณาและความชอบธรรม ถึงแผนดูโหดร้าย แต่เซียนกระบี่ ฉินเฟิงและเซียวเฉวียนยังมีชีวิตอยู่
เข้าวังพรุ่งนี้ เซียวเฉวียนตั้งหน้าตั้งตารอ พระราชวังต้าเว่ยต้องเต็มไปด้วยอัญมณีและวัตถุโบราณ ถึงเวลานั้นขอจักรพรรดิสักชิ้นสองชิ้นไว้ประดับในร้านอาหาร จะดูยิ่งใหญ่ขนาดไหน
คนในตระกูลฉินมีความสุขมาก ฉินเฟิงซึ่งเคยดูซึมๆ มาก่อนก็ดูเบิกบานขึ้นในที่สุด เขารับมอบพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิด้วยตัวสั่นเทา โค้งคำนับขอบพระคุณแล้วกลับเข้าบ้านไป
"ลุงเขยค่ะ ลุงเขยค่ะ"
ทันทีที่เซียวเฉวียนได้รับกฤษฎีกา เขาก็ถูกอาเซียงเรียกไปอย่างลึกลับ "คุณหนูเตรียมอาหารและเหล้าอร่อยๆ กำลังรอลุงเขยอยู่ที่ริมทะเลสาบค่ะ"
ผู้ใดมาประจบประแจงโดยไร้เหตุ ไม่หวังร่างก็หวังทรัพย์
ฉินซูโหรวกำลังคิดแผนอะไรอยู่?
หรือว่าเธอจะมาเอาใจเขา ให้เขาเลิกทวงคืนดาบฉุนจวีน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...