เรื่องนี้สร้างความโศกเศร้าให้กับนักปราชญ์มาก
นักปราชญ์ลูบมือที่แสนเจ็บปวด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้ออย่างขุ่นเคือง
หากเขาเจอตัวเว่ยเชียนชิว เซียวเฉวียนต้องดูดีขึ้นแน่นอน
นักปราชญ์ในเวลานี้โกรธกระฟัดกระเฟียดจนลืมสิ้นว่าเขาเลิกรากับเว่ยเชียนชิวแล้ว
แม้แต่พิธีบังสุกุลนักปราชญ์ก็ยังทำลายไม่ได้ ศักยภาพของนักปราชญ์ เว่ยเชียนชิวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ก็ไม่แน่นะ
ถึงอย่างไรเว่ยเชียนชิวก็ยังฉลาดเฉียบแหลม แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแค่เว่ยเชียนชิวที่ใช้สถานะของผู้อื่นเป็นเครื่องมือ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เว่ยเชียนชิวจะถูกคนอื่นเอาเปรียบ
บัดนี้เป็นนักปราชญ์แล้ว สำหรับเว่ยเชียนชิว พูดได้ว่าไม่มีประโยชน์ เว่ยเชียนชิวไม่อยากร่วมมือกับเขาด้วยซ้ำ
......
......
ณ พระราชวัง
เรื่องที่เว่ยเชียนชิวซ่อนตัวอยู่ในพระราชวัง มีแค่สายลับของเว่ยเชียนชิวเท่านั้นที่รู้
สายลับคนนี้เดิมทีเป็นสายสืบที่เว่ยเชียนชิวให้แทรกตัวเข้ามาอยู่ในพระราชวัง
เดิมทีสายลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเว่ยเชียนชิวเข้าวังมาแล้ว เป็นเว่ยเชียนชิวเองที่ติดต่อสายลับอยู่เงียบ ๆ ให้สายลับรู้ว่าเขาอยู่ในพระราชวังแล้ว
เป็นเพราะเหตุนี้ ขณะที่เว่ยเชียนชิวซ่อนตัวอยู่ในพระราชวัง มีคนแก้ไขปัญหาด้านปากท้องให้เขาอยู่เสมอ
ดังนั้นสายลับคนนี้คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
ในตอนแรกสายลับคนนี้รู้ว่าเว่ยเชียนชิวเข้าพระราชวังมาแล้ว การตอบสนองแรกคือคิดว่าตัวเองฝันไป
คนทั้งจวนเจียนกั๋วต่างรู้ดีว่าเว่ยเชียนชิวเกลียดการเข้าวังเป็นที่สุด บัดนี้กลับโดนจับพลัดจับพลูได้เข้าวัง และยังต้องอยู่ในวังต่อไป
มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป สายลับจึงแอบหยิกแขนของตัวเอง ความเจ็บปวดของจริงทำให้สายลับอดร้องเสียงต่ำไม่ได้ “โอหยา!”
ไอหยา มันไม่ใช่ความฝัน!
ตอนนี้เอง สายลับได้เอ่ยอย่างไม่คาดฝันว่า “ใต้เท้าเจียนกั๋ว เหตุใดท่านถึงเข้าวังกะทันหัน? ฝ่าบาทรับสั่งให้ท่านเข้ามาใช่หรือไม่?”
เว่ยเชียนชิวเบิกตากว้างอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากเป็นสายลับมานาน แม้แต่จะกะพริบตายังทำไม่ได้
ฮ่องเต้เรียกเว่ยเชียนชิวเข้าวัง เหตุใดเว่ยเชียนชิวถึงต้องอยู่ตำหนักไทเฮา
ไร้สาระสิ้นดี!
คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เดิมทีไม่จำเป็นต้องถามก็ได้
ในที่สุดเว่ยเชียนชิวก็เข้าใจ ว่าเหตุใดเซียวเฉวียนถึงแข็งแกร่งและพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใต้จมูกของเว่ยเชียนชิว นั้นเพราะข้างกายของเว่ยเชียนชิวไม่มีไอ้โง้ไร้สมองเหล่านี้
เวลานี้ความโกรธได้ประทับอยู่บนหน้าของเว่ยเชียนชิว แต่เหมือนสายลับคนนี้จะไม่รู้ตัวอย่างไรอย่างนั้น ยังคงมองเว่ยเชียนชิวตาไม่กะพริบ เพื่อรอคำตอบของเว่ยเชียนชิว
คนที่โง่เขลาเบาปัญญาเช่นนี้ เหตุใดจวนเจียนกั๋วถึงคัดเลือกให้เขามาเป็นสายลับ?
ช่างเถอะ ใครใช้ให้เว่ยเชียนชิวมีจิตใจห้าวหาญล่ะ เขาไม่มีสิทธิ์เมินเฉยด้วยซ้ำ
เว่ยเชียนชิวมองสายลับด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะกัดฟันพลางกล่าวว่า “ข้าเข้ามาเอง ไม่ได้หรือ?”
“เช่นนั้นเจ้าจงไปกราบทูลฝ่าบาทว่าใต้เท้าเจียนกั๋วเข้าวังแล้ว ให้ฝ่าบาทเสด็จลงมาต้อนรับ” สายลับเยินยอด้วยรอยยิ้ม
กล่าวจบ สายลับก็หมุนตัวยกเท้าเตรียมเดินจากไป
“ช้าก่อน!” เว่ยเชียนชิวตะโกนอย่างโกรธเคือง
เสียงนี้พาให้สายลับอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อย เขาได้แต่พึมพำในใจไม่หยุด จบเห่แล้ว ๆ เยินยอไม่สำเร็จ ยังวอนโดนเตะอีก
สายลับวางมือแนบข้างลำตัวอย่างเป็นระเบียบ เหมือนเด็กที่ทำความผิด คอตก ให้เว่ยเชียนชิวตะคอกต่อไป
คนของจวนเจียนกั๋วต่างรู้ดี เวลาเว่ยเชียนชิวโกรธ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ไม่โดนตะคอกก็โดนโบยตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...