ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1200

สรุปบท บทที่ 1200 ชนะโดยไม่ใช้กำลัง: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 1200 ชนะโดยไม่ใช้กำลัง จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1200 ชนะโดยไม่ใช้กำลัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อคิดได้ นักปราชญ์ก็ใช้ท่าแมลงปอดีดน้ำ เหินขึ้นบนอากาศมุ่งไปทางภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ

ความเร็วมันใช้ได้อยู่ แต่ยังเร็วสู้ปากของเซียวเฉวียนไม่ได้ เซียวเฉวียนตะโกน "ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ ถอน !"

พูดเพิ่งจบ ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิก็เก็บตัวเรียบร้อย ดังเฟี้ยวบินกลับเข้ามาในแขนเสื้อของเซียวเฉวียน หลบพ้นจากการจับยึดของนักปราชญ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ให้ตายสิวา !

ในที่สุดนักปราชญ์ก็อารมณ์เสียและคำรามอย่างโกรธแค้น "เซียวเฉวียน !"

มีอย่างที่ไหน !

แม้แต่ภาพม้วนเดียว ก็สามารถรังแกนักปราชญ์แบบนี้ได้ !

แถมนักปราชญ์ยังทำอะไรมันไม่ได้ !

เรื่องเจ็บใจครั้งใหญ่อย่างนี้ นักปราชญ์ไม่เคยประสบมาก่อน แต่ต้องมาเจอตอนแก่ ช่างน่าเวทนาจริงๆ

โทสะทำให้ผู้คนสูญเสียสติได้ง่าย ไม่เชื่อก็ดูสิ แม้แต่นักปราชญ์ ตัวแทนแห่งมรรคสวรรค์ ยังคำรามในที่สาธารณะโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตัวเอง

ในฐานะชายหนุ่มผู้ดี เซียวเฉวียนรู้สึกว่าจำเป็นต้องตักเตือนนักปราชญ์เสียหน่อยว่าเขาต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้ตลอดเวลา เพราะเขาเป็นตัวแทนของมรรคสวรรค์ไม่ใช่อย่างอื่น

“ท่านนักปราชญ์จงนิ่งไว้ ตัวแทนแห่งมรรคสวรรค์” ขณะที่พูด เซียวเฉวียนก็ชี้นิ้วขึ้นไปที่ท้องฟ้า

ตัวแทนแห่งมรรคสวรรค์จะต้องสุขุมในทุกสิ่ง ถึงท้องฟ้าจะถล่ม ฟ้าก็จะปกป้องเขา จะไม่ตกมากระแทกตัวเขา ไม่มีอะไรจะทำให้นักปราชญ์ต้องโกรธเคืองจริงๆ

คำตักเตือนด้วยความหวังดีนี้ตบเข้าไปที่หน้าแก่ๆ เของนักปราชญ์ดังพัวะๆ อย่างแรง ฟาดจนหัวใจของนักปราชญ์เจ็บกระตุกรัวๆ

ให้ตายเถอะ เซียวเฉวียน ไอ้คนนอกรีต วิชาในการยั่วคนโมโหนี้ยอดเยี่ยมมาก !

นักปราชญ์ไม่เพียงแต่ไม่สงบอารมณ์ ยังโกรธแค้นยิ่งมากขึ้นไปอีก

เขาสาบานว่า วันนี้ถ้าไม่ฆ่าไอ้สารเลวเซียวเฉวียน เขาจะไปขอใช้แซ่ตามเซียวเฉวียนแทน !

ถ้าให้เซียวเฉวียนรู้ว่านักปราชญ์มีความคิดเช่นนี้ เซียวเฉวียนคงจะยั่วจนนักปราชญ์กระอักเลือดแน่

เซียวเฉวียนไม่ยักอยากจะให้นักปราชญ์มาใช้แซ่เดียวกับเขา มาทำให้ตระกูลเซียวเสื่อมเสีย

ตระกูลเซียวเป็นตระกูลจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน ประพฤติตนอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ไตรทัศนคติถูกต้อง ไม่มีช่องว่างสำหรับขี้หนูอย่างนักปราชญ์

น่าเสียดายที่นักปราชญ์ไม่รู้ไปฝึกวิชาชั่วร้ายประเภทใด ตอนนี้เซียวเฉวียนไม่สามารถฟังเสียงในใจของนักปราชญ์ได้

แต่ว่า ดูจากการแสดงออกของนักปราชญ์สามารถรู้ได้ว่า นักปราชญ์มีเจตนาที่จะสังหารเซียวเฉวียนรุนแรงมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดแผนอะไรอยู่

หรือว่าเขาจะใช้สมบัติล้ำค่าอะไรอีกหรือ ?

หากเป็นกรณีนี้ เซียวเฉวียนชอบๆ มียิ่งเยอะยิ่งดี

เซียวเฉวียนมองดูนักปราชญ์ด้วยแววตาสดใส "มาเลย มีอะไรเอาออกมาเล่นให้หมด"

ได้ยินเซียวเฉวียนพูดออกมาเช่นนี้ ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของนักปราชญ์ เซียวเฉวียนไม่กังวลว่ามันจะแพ้หรือ ?

มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ถึงขนาดนี้หรือ ?

นักปราชญ์ชักจะลังเล จะสู้หรือไม่สู้ต่อไป

”โอ้ย สองคนนี้ยังจะตีหรือไม่ตี ?”

ตอนนี้ ชาวบ้านที่มามุงดูรอจนเริ่มหงุดหงิด

“นั่นสิ พระอาทิตย์ก็ร้อนแรงจนคนจะตายอยู่แล้ว” อีกคนพูดอย่างไม่พอใจ “ไอ้เฒ่านี้ก็ยึกยักๆ จริงๆ “

ชาวบ้านเหล่านี้พอได้ยินว่าเซียวเฉวียนกำลังต่อสู้กับใครที่นอกประตูเมือง พวกเขาก็รวมตัวกันเข้ามาเพื่อร่วมสนุก

พูดตามตรง ในความจำของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้เห็นเซียวเฉวียนทะเลาะวิวาทกับคนมาเป็นเวลานานแล้ว พวกเขาระลึกถึงเมื่อก่อน เซียวเฉวียนก่อความวุ่นวายแทบวันเว้นวัน และกลายเป็นหัวข้อข่าวในเมืองหลวง

พักหลังนี้ ยากที่จะได้ยินว่าเซียวเฉวียนทุบตีกับใคร ดังนั้นพวกเขาจึงอุตส่าห์มาส่งเสียงให้กำลังใจ

แต่ว่า วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน ทุกวันนี้ ผู้คนในเมืองหลวงต่างชื่นชมเซียวเฉวียน ดังนั้นเมื่อพูดถึงการต่อสู้ ทุกคนจึงล้วนยืนอยู่ข้างเซียวเฉวียนอย่างเป็นเอกฉันท์

ดังนั้นในสายตาของทุกคน นักปราชญ์คนแก่ผมหงอกอย่างนี้ยังออกมาเที่ยวหาเรื่อง มารังควานเซียวเฉวียน นักปราชญ์ผิดเต็มประตู สมน้ำหน้าที่ให้เซียวเฉวียนรังแก

เมื่อกี้ ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิของเซียวเฉวียนรวบเอาอวนสีทองอร่ามของนักปราชญ์เข้าไป

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัยก่อน ทุกคนคงจะต่อว่าเซียวเฉวียนเป็นแน่แท้ กล่าวหาว่าเซียวเฉวียนใช้กำลังกลั่นแกล้งผู้อื่น รังแกคนแก่คนอ่อนแอ

ถือโอกาศที่เซียวเฉวียนเดินโดยไม่ได้ระวังตัว นักปราชญ์เหวี่ยงดาบในมือ แทงเข้าเซียวเฉวียนอย่างไวราวกับสายลม

ครั้งนี้ เซียวเฉวียนไม่หลบอีกต่อไป เขาชักดาบจิงหุนออกมา ต้อนรับดาบยาวของนักปราชญ์เสียงดังเคร้ง

ท่ามกลางแสงและเงาของดาบแลกกัน เซียวเฉวียนและนักปราชญ์ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด

ร่างทั้งสองนั้นฉับไวราวกับสายฟ้า ทิศทางสลับเปลี่ยนกันไปไม่หยุดนิ่ง ดูจนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตาลายกันไปตามๆ กัน

"เคร้ง !"

ดาบปะทะกันดังขึ้นอีกครั้ง เสียดสีจนมีแสงประกายแทงตาปรากฏ

ในเวลานี้ เป็นการประลองว่าอาวุธของใครจะแข็งกว่ากัน

"เคร้ง !"

เสียงนี้ตกไป ดาบยาวของนักปราชญ์ก็ถูกดาบจิงหุนหั่นออกเป็นสองท่อน ท่อนหนึ่งก็ร่วงลงปักเข้าไปในดินอย่างสวยงาม

นักปราชญ์มองดูดาบที่หักไปในมือ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ

ดาบของเขาแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรทำลายได้ แต่ทำไมพอมาถึงที่เซียวเฉวียนก็มาอ่อนแอขนาดนี้?

มันเหลือเชื่อมาก

ดาบในมือของเซียวเฉวียนส่องแสงเยือกเย็น เซียวเฉวียนพลิกใบมีดและแสงตะวันที่กระทบก้นของมีดก็ส่องเข้าตาของนักปราชญ์จนเขาหรี่ตาลงด้วยสัญชาตญาณ

ในจังหวะนี้เอง เซียวเฉวียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วางดาบบนคอของนักปราชญ์ และพูดอย่างภาคภูมิใจ "ขอโทษที"

นักปราชญ์ไม่ทันจะตอบสนอง ก็ตกอยู่ในมือของเซียวเฉวียน ซึ่งเกินความคาดหมายของนักปราชญ์อย่างที่สุด

ความเยือกเย็นของดาบจิงหุนทำให้นักปราชญ์เจ็บแสบ และเขาก็เกลือกกลิ้งลูกตาคิดจะดิ้นหนี

”เซียวเฉวียน เจ้าใช้วิธีเลวทรามนี้เพื่อเอาชนะศัตรูโดยไม่ออกแรงสู้หรือ” นักปราชญ์แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง

สำหรับแผนการตอนนี้ นักปราชญ์ทำได้แต่หันเหความสนใจของเซียวเฉวียน จะถือโอกาสที่เซียวเฉวียนเผล แล้วสังหารเขาชนิดที่ไม่อาจตั้งตัวทัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย