ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1200

เมื่อคิดได้ นักปราชญ์ก็ใช้ท่าแมลงปอดีดน้ำ เหินขึ้นบนอากาศมุ่งไปทางภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ

ความเร็วมันใช้ได้อยู่ แต่ยังเร็วสู้ปากของเซียวเฉวียนไม่ได้ เซียวเฉวียนตะโกน "ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ ถอน !"

พูดเพิ่งจบ ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิก็เก็บตัวเรียบร้อย ดังเฟี้ยวบินกลับเข้ามาในแขนเสื้อของเซียวเฉวียน หลบพ้นจากการจับยึดของนักปราชญ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ให้ตายสิวา !

ในที่สุดนักปราชญ์ก็อารมณ์เสียและคำรามอย่างโกรธแค้น "เซียวเฉวียน !"

มีอย่างที่ไหน !

แม้แต่ภาพม้วนเดียว ก็สามารถรังแกนักปราชญ์แบบนี้ได้ !

แถมนักปราชญ์ยังทำอะไรมันไม่ได้ !

เรื่องเจ็บใจครั้งใหญ่อย่างนี้ นักปราชญ์ไม่เคยประสบมาก่อน แต่ต้องมาเจอตอนแก่ ช่างน่าเวทนาจริงๆ

โทสะทำให้ผู้คนสูญเสียสติได้ง่าย ไม่เชื่อก็ดูสิ แม้แต่นักปราชญ์ ตัวแทนแห่งมรรคสวรรค์ ยังคำรามในที่สาธารณะโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตัวเอง

ในฐานะชายหนุ่มผู้ดี เซียวเฉวียนรู้สึกว่าจำเป็นต้องตักเตือนนักปราชญ์เสียหน่อยว่าเขาต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้ตลอดเวลา เพราะเขาเป็นตัวแทนของมรรคสวรรค์ไม่ใช่อย่างอื่น

“ท่านนักปราชญ์จงนิ่งไว้ ตัวแทนแห่งมรรคสวรรค์” ขณะที่พูด เซียวเฉวียนก็ชี้นิ้วขึ้นไปที่ท้องฟ้า

ตัวแทนแห่งมรรคสวรรค์จะต้องสุขุมในทุกสิ่ง ถึงท้องฟ้าจะถล่ม ฟ้าก็จะปกป้องเขา จะไม่ตกมากระแทกตัวเขา ไม่มีอะไรจะทำให้นักปราชญ์ต้องโกรธเคืองจริงๆ

คำตักเตือนด้วยความหวังดีนี้ตบเข้าไปที่หน้าแก่ๆ เของนักปราชญ์ดังพัวะๆ อย่างแรง ฟาดจนหัวใจของนักปราชญ์เจ็บกระตุกรัวๆ

ให้ตายเถอะ เซียวเฉวียน ไอ้คนนอกรีต วิชาในการยั่วคนโมโหนี้ยอดเยี่ยมมาก !

นักปราชญ์ไม่เพียงแต่ไม่สงบอารมณ์ ยังโกรธแค้นยิ่งมากขึ้นไปอีก

เขาสาบานว่า วันนี้ถ้าไม่ฆ่าไอ้สารเลวเซียวเฉวียน เขาจะไปขอใช้แซ่ตามเซียวเฉวียนแทน !

ถ้าให้เซียวเฉวียนรู้ว่านักปราชญ์มีความคิดเช่นนี้ เซียวเฉวียนคงจะยั่วจนนักปราชญ์กระอักเลือดแน่

เซียวเฉวียนไม่ยักอยากจะให้นักปราชญ์มาใช้แซ่เดียวกับเขา มาทำให้ตระกูลเซียวเสื่อมเสีย

ตระกูลเซียวเป็นตระกูลจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน ประพฤติตนอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ไตรทัศนคติถูกต้อง ไม่มีช่องว่างสำหรับขี้หนูอย่างนักปราชญ์

น่าเสียดายที่นักปราชญ์ไม่รู้ไปฝึกวิชาชั่วร้ายประเภทใด ตอนนี้เซียวเฉวียนไม่สามารถฟังเสียงในใจของนักปราชญ์ได้

แต่ว่า ดูจากการแสดงออกของนักปราชญ์สามารถรู้ได้ว่า นักปราชญ์มีเจตนาที่จะสังหารเซียวเฉวียนรุนแรงมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดแผนอะไรอยู่

หรือว่าเขาจะใช้สมบัติล้ำค่าอะไรอีกหรือ ?

หากเป็นกรณีนี้ เซียวเฉวียนชอบๆ มียิ่งเยอะยิ่งดี

เซียวเฉวียนมองดูนักปราชญ์ด้วยแววตาสดใส "มาเลย มีอะไรเอาออกมาเล่นให้หมด"

ได้ยินเซียวเฉวียนพูดออกมาเช่นนี้ ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของนักปราชญ์ เซียวเฉวียนไม่กังวลว่ามันจะแพ้หรือ ?

มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ถึงขนาดนี้หรือ ?

นักปราชญ์ชักจะลังเล จะสู้หรือไม่สู้ต่อไป

”โอ้ย สองคนนี้ยังจะตีหรือไม่ตี ?”

ตอนนี้ ชาวบ้านที่มามุงดูรอจนเริ่มหงุดหงิด

“นั่นสิ พระอาทิตย์ก็ร้อนแรงจนคนจะตายอยู่แล้ว” อีกคนพูดอย่างไม่พอใจ “ไอ้เฒ่านี้ก็ยึกยักๆ จริงๆ “

ชาวบ้านเหล่านี้พอได้ยินว่าเซียวเฉวียนกำลังต่อสู้กับใครที่นอกประตูเมือง พวกเขาก็รวมตัวกันเข้ามาเพื่อร่วมสนุก

พูดตามตรง ในความจำของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้เห็นเซียวเฉวียนทะเลาะวิวาทกับคนมาเป็นเวลานานแล้ว พวกเขาระลึกถึงเมื่อก่อน เซียวเฉวียนก่อความวุ่นวายแทบวันเว้นวัน และกลายเป็นหัวข้อข่าวในเมืองหลวง

พักหลังนี้ ยากที่จะได้ยินว่าเซียวเฉวียนทุบตีกับใคร ดังนั้นพวกเขาจึงอุตส่าห์มาส่งเสียงให้กำลังใจ

แต่ว่า วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน ทุกวันนี้ ผู้คนในเมืองหลวงต่างชื่นชมเซียวเฉวียน ดังนั้นเมื่อพูดถึงการต่อสู้ ทุกคนจึงล้วนยืนอยู่ข้างเซียวเฉวียนอย่างเป็นเอกฉันท์

ดังนั้นในสายตาของทุกคน นักปราชญ์คนแก่ผมหงอกอย่างนี้ยังออกมาเที่ยวหาเรื่อง มารังควานเซียวเฉวียน นักปราชญ์ผิดเต็มประตู สมน้ำหน้าที่ให้เซียวเฉวียนรังแก

เมื่อกี้ ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิของเซียวเฉวียนรวบเอาอวนสีทองอร่ามของนักปราชญ์เข้าไป

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัยก่อน ทุกคนคงจะต่อว่าเซียวเฉวียนเป็นแน่แท้ กล่าวหาว่าเซียวเฉวียนใช้กำลังกลั่นแกล้งผู้อื่น รังแกคนแก่คนอ่อนแอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย