ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1199

สรุปบท บทที่ 1199 แหฟ้าตาข่ายดิน: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1199 แหฟ้าตาข่ายดิน – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1199 แหฟ้าตาข่ายดิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ทั้งสองครั้งล้วนทำร้ายตัวเซียวเฉวียนไม่ได้สักนิด นักปราชญ์โมโหยิ่งนัก เขาตะคอกด้วยโทสะ "เซียวเฉวียน ไปตายซะเถอะ !"

พูดจบ นักปราชญ์ก็ระดมกำลังภายในทั้งตัว กระโจนใส่เซียวเฉวียนราวกับเสือโหดร้าย

ภายใต้อิทธิพลของกำลังภายในของนักปราชญ์ ลมแรงกระโชกขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ต้นไม้ทั้งต้นแกว่งไปมาไม่หยุด มีแนวโน้มจะถอนขึ้นมาจากดินทันที

น่าทึ่งมาก ดูไม่ออกว่านักปราชญ์เจ้าแก่คนนี้จะแผลงพลังออกมาได้แรงระเบิดขนาดนี้

แม้แต่เซียวเฉวียนยังถูกลมพัดจนหลังหงายไปข้างหลัง เกือบจะร่วงหล่นจากต้นไม้

โชคดีที่เซียวเฉวียนคว้ากิ่งไม้กิ่งหนึ่งได้ทัน จึงพอจะยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง

แต่ลมแรงนี้ยังกระโชกดังฟู่ๆ อย่างต่อเนื่อง เซียวเฉวียนแทบจะลืมตาขึ้นไม่ได้

ขณะหรี่ตา เซียวเฉวียนมองเห็นนักปราชญ์กำลังฉวยโอกาสฟันเข้ามา

ให้ตายเถอะ !

อันตรายสุดๆ

เซียวเฉวียนรีบพลิกตัวกระโดดลงพื้น ให้นักปราชญ์กระโจนพลาดไปอีกครั้ง

ด้วยความโมโหสุดขีด นักปราชญ์เหวี่ยงดาบเข้าที่กิ่งไม้หลาย ๆ ครั้ง ต้นไม้ที่มีกิ่งก้านเขียวชอุ่มก็เปลือยเปล่าทันทีเหลือเพียงลำต้นและกิ่งก้านที่แห้งแล้ว

ต้นไม้ใหญ่ที่น่าสงสารได้รับเคราะห์ที่คาดไม่ถึง กลายเป็นต้นไม้เปลือยกายซะแล้ว ช่างน่าอนาถจริงๆ

ไม่เพียงแต่ต้นไม้ที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากลมกระโชกแรง บ้านช่องก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร

กระเบื้องหล่นใส่พื้นเต็มไปหมด ประตูหน้าต่างล้มระเนระนาด ดูเหมือนเป็นสถานที่รกร้างซากปรักหักพัง

ยอดฝีมือประลองกัน เผางบมากจริงๆ

เวลาผ่านไปแค่ไม่เท่าไร ก็ทำลายบ้านไปหลังหนึ่ง ถ้าแลกกระบวนท่าไปเป็นสิบหรือร้อยท่า นักปราชญ์คงจะพลิกบ้านช่องไปเกือบครึ่งของพื้นที่เมืองหลวงก็เป็นได้

ตรงนี้ไม่ใช่สถานที่สำหรับการต่อสู้จริงๆ

หากจะสู้ต่อ ต้องเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่โล่งๆ ค่อยว่ากัน

โดยไม่รอช้า เซียวเฉวียนออกแรงลอยตัวขึ้น เหินมุ่งไปที่ระยะไกล

จะหนีหรือ ?

ไม่มีทาง !

เห็นท่าทาง นักปราชญ์คิดว่าเซียวเฉวียนกำลังจะหลบหนี จึงรีบไล่ตามเขาไป

หลังจากไล่ตามเขามาตลอดทาง ทั้งสองก็มาถึงนอกประตูเมืองของเมืองหลวง

ระยะสิบลี่รอบๆ ตรงนี้เป็นพื้นที่โล่งตลอด เหมาะสมที่สุดสำหรับตบตีกัน ให้เจ้าตีจนมือฟ้ามัวดิน ก็ไม่ไปกระทบใครเข้าทั้งสิ้น

เซียวเฉวียนยืนโดยเอามือไพล่หลัง มองดูนักปราชญ์ด้วยสายตาที่เย็นชา

นักปราชญ์ก็มองดูเซียวเฉวียนด้วยสีหน้าดุร้ายเคียดแค้น

หลังจากแลกมือกันมาแล้ว ถือว่านักปราชญ์ได้เห็นกำลังของเซียวเฉวียน เด็กคนนี้สามารถหลบหลีกการโจมตีของนักปราชญ์ได้อย่างคล่องแคล่ว ต้องบอกว่ามีฝีมือไม่เบา

ถ้าเป็นคนอื่น ไม่ถูกนักปราชญ์ฝ่ามือทีเดียวฟาดตายคามือ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

แต่ทำไม เซียวเฉวียนจึงเอาแต่หลบแต่ไม่สวนกลับ ?

เป็นไปได้ไหมว่า กำลังโต้กลับของเซียวเฉวียนนั้นไม่ดีพอ ?

ถ้าเป็นอย่างนี้จริง นักปราชญ์ก็พอมองเห็นความหวังแล้วในที่สุด

ขอเพียงเขาหาวิธีที่จะรั้งตัวเซียวเฉวียนได้ เซียวเฉวียนก็จะเป็นหมูในอวยให้นักปราชญ์

ฮึ ๆ !

ดวงตาของนักปราชญ์ปรากฏรอยเริงใจขึ้นมานิดๆ

ทันใดนั้น นักปราชญ์ก็ล้วงสมบัติชิ้นหนึ่งของสำนักหมิงเซียนออกมาโดยไม่ให้ใครรู้เห็น แหฟ้าตาข่ายดิน

อวนแหฟ้าตาข่ายดินนี้ ทำจากลวดทองอ่อนเนื้อละเอียดอย่างดี

ทองคำในสมัยโบราณหมายถึงโลหะ ไม่แน่เสมอต้องเป็นทองคำ

แต่ว่า สำนักหมิงเซียนร่ำรวย วัสดุที่ใช้สานอวนนั้นเป็นทองคำ

อวนทำด้วยฝีมือประณีต บางเหมือนกับปีกจั๊กจั่น ทำให้พกพาสะดวก

หลายสิบปีมานี้ แม้นักปราชญ์จะพกพาอาวุธวิเศษนี้ติดตัวตลอดมา แต่ไม่เคยได้ใช้ เพราะไม่มีโอกาสที่จะใช้มัน

นักปราชญ์เคยคิดว่า ชั่วชีวิตของเขาจะไม่ต้องถึงกับใช้อวนแหฟ้าตาข่ายดิน แต่ไม่คาดคิดว่า จะต้องมาใช้มันตอนแก่

แหฟ้าตาข่ายดินร่อนออกมาจากมือของนักปราชญ์ คลี่ออกมาในอากาศด้วยกำลังภายในของนักปราชญ์ และพุ่งเข้าหาเซียวเฉวียน

ลูกไม้เล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเซียวเฉวียนแม้แต่นิด อันที่จริงเซียวเฉวียนสามารถคว้าอวนได้ด้วยมือเปล่า

แต่เซียวเฉวียนก็คิดใหม่อีกที นักปราชญ์ชอบเล่นนอกลู่นอกทาง เผื่ออาจจะเล่นสกปรก และเซียวเฉวียนไม่ทันป้องกันตัว

พูดเช่นนี้ แทบจะทำให้นักปราชญ์โกรธจนคลั่ง นักปราชญ์จ้องตาเขม็งที่เซียวเฉวียนด้วยท่าทางโกรธแล้วพูดว่า "ไม่ต้องมาขอบคุณ รีบคืนอวนให้กับข้าเดี๋ยวนี้ !"

นี่เป็นทรัพย์สมบัติของสำนักหมิงเซียน !

มันจะตกไปอยู่ในมือของเซียวเฉวียนได้ไง !

“โธ่ ท่านนักปราชญ์พูดผิดพูดใหม่ได้นะ ของสิ่งนี้ในเมื่อมอบให้กับเซียวแล้ว จะเอามันกลับคืนไปได้ไง ต่อหน้าสาธารณะชน ถึงเซียวจะยอมคืนให้ ท่านมีหน้ามารับคืนหรือ ?” เซียวเฉวียนกล่าวพลางยกมุมปากยิ้ม แต่ก็ไม่เหมือนยิ้ม

ต่อหน้าสาธารณะชน ?

เห็นได้ชัดว่ามีเพียงเซียวเฉวียนและนักปราชญ์อยู่ที่นี่ และยามที่เฝ้าประตูเมืองในระยะไกล จะมีสาธารณะชนที่ไหน ?

นักปราชญ์กำลังจะกล่าวหาเซียวเฉวียนว่าพูดพล่อย คำพูดมาถึงริมฝีปาก นักปราชญ์เอะใจหันศีรษะไปอีกทางเหมือนมีผีมาทัก......

พอตาได้ประสบ อะไรกันเนี่ย

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร บนกำแพงเมืองด้านหลังนักปราชญ์ มีฝูงชนมายืนอยู่ดำพรืดไปหมด

ใต้กำแพงเมืองก็มีฝูงชนจำนวนมากเช่นกัน

ให้ตายเถอะ ยังไม่ทันลงไม้ลงมือกันเลย ทำไมมีคนดูมามุงดูมากขนาดนี้ ?

มันเหลือเชื่อแท้ๆ

เห็นสีหน้าของนักปราชญ์มืดมนจนเกือบจะมีน้ำหยด เซียวเฉวียนก็แทงเข้าอีกมีดอย่างไม่ลังเล "แหฟ้าตาข่ายดินของท่าน และเสวียนอวี๋ของท่านล้วนตกเป็นของข้าแล้ว"

"เซียวขอขอบคุณท่านนักปราชญ์ที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างมาให้" เซียวเฉวียนเป็นแบบอย่างของคนที่ได้ของเขามาแล้วแต่ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เจ้า !” นักปราชญ์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจ้องไปที่เซียวเฉวียน และพูดอย่างดุร้ายเคร่งขรึม “เซียวเฉวียน! ปล่อยเสวียนอวี๋เดี๋ยวนี้ แล้วส่งตาข่ายของข้าคืนมา !”

ที่นี่คือต้าเว่ย นักปราชญ์ก็ไม่ใช่คนต้าเว่ย ต่อไปนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในต้าเว่ย ขอให้เขากลับไปยังภูมิภาคตะวันตก ก็ต่างไม่รู้จักกัน นักปราชญ์จะกลัวเสียหน้าทำไม !

นอกจากนี้ แหฟ้าตาข่ายดินยังเป็นสมบัติที่ผู้นำสำนักหมิงเซียนสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น มีความสำคัญมาก เสียหน้าหน่อย แลกกับได้แหฟ้าตาข่ายดินคืนมามันก็คุ้ม

“ขอโทษที่เซียวรับฟังไม่ได้ !” เซียวเฉวียนมองนักปราชญ์ด้วยสีหน้าบึ้งตึงเย็นชา แสดงท่าทางของผู้พิชิต

ในสายตาของนักปราชญ์ มันดูยโสโอหังอย่างยิ่ง

ในเมื่อเซียวเฉวียนไม่ยอมคืนสมบัติให้ นักปราชญ์จึงต้องคิดหาทางเอาเอง

เขามองดูภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิบนอากาศ ครุ่นคิดว่าจะทำอะไรกับภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลินี้ได้หรือไม่

ขอให้เขาได้ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิมาไว้ในมือ นักปราชญ์ก็ไม่กลัวว่าจะไม่สามารถเอาแหฟ้าตาข่ายดินกลับคืนมาได้ !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย