อ่านสรุป บทที่ 1198 ยอดฝีมือประลองกัน จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 1198 ยอดฝีมือประลองกัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ข้าเป็นใคร ?
เซียวเฉวียนยิ้มเยาะและพูดว่า ข้าจะเป็นใครได้อีก ข้าก็คือคนที่เจ้าต้องการจะกำจัดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เซียวเฉวียนไง !"
ตาข่ายสวรรค์ห่างแต่ไม่รั่ว สวรรค์มีความยุติธรรม ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ
นักปราชญ์คิดเอาเองว่าเขาทำทุกอย่างได้อย่างรอบคอบ แต่ถึงเขาจะละเอียดแค่ไหน ก็ยังมองข้ามสิ่งบางอย่าง คนคำนวณมิอาจสู้ฟ้าลิขิต
มองดูหน้าของนักปราชญ์ที่เต็มไปด้วยสีสันอันซับซ้อน เซียวเฉวียนก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก นี่เพิ่งจะแค่เริ่มต้น นักปราชญ์ก็ตกตะลึงขนาดนี้ หากเซียวเฉวียนบอกนักปราชญ์ต่อหน้าว่า ความพินาศที่เขาหมิงเซียนก็เกี่ยวพันกับเซียวเฉวียนเป็นอันมาก จะดูว่าสีหน้าของนักปราชญ์จะไม่กลายเป็นอ่างย้อมสีหรือ?
เชอะ !
เซียวเฉวียนตะคอกอย่างเย็นชา "เขาหมิงเซียนเปลี่ยนไปจนจำสภาพเดิมไม่ได้แล้ว คิดว่านักปราชญ์คงรู้นานแล้วใช่ไหม ?"
พูดจบ เซียวเฉวียนก็มองดูนักปราชญ์ด้วยแววตาราบเรียบ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นักปราชญ์ถึงจะโง่ ก็ควรจะรู้ว่าเซียวเฉวียนต้องไปที่เขาหมิงเซียนมาแล้ว......
บางที ไฟเผาบนเขาหมิงเซียน ก็เกิดจากฝีมือของเซียวเฉวียนจริงๆ
เมื่อคิดถึงจุดนี้ นักปราชญ์ก็นึกถึงวันที่เขาหมิงเซียนถูกไฟไหม้ บังเอิญว่าจวนเจียนกั๋วก็ถูกไฟไหม้เช่นกัน
ในโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ได้หรือ ?
พอคิดเช่นนี้ เขาหมิงเซียนต้องถูกทำลายเพราะเซียวเฉวียนอย่างแน่นอน
“ฉะนั้น เจ้าอยากจะบอกว่า เจ้าเป็นคนเผาเขาหมิงเซียนงั้นหรือ ?” นักปราชญ์มองเซียวเฉวียนด้วยแววตาที่แหลมคม
“ทั้งใช่และไม่ใช่” เซียวเฉวียนพูดอย่างนิ่งเฉย “ตอนนั้น ข้าขึ้นไปบนเขาหมิงเซียนเพื่อขโมยเชื้อไฟ ไม่คิดว่า เชื้อไฟจะลุกขึ้นมาเอง จะหาว่าข้าวางเพลิงไม่ได้”
พูดได้แค่ว่า เซียวเฉวียนมีหน้าที่รับผิดชอบ แต่หน้าที่ผิดชอบนั้นไม่ใหญ่
แทนที่จะกล่าวว่าเซียวเฉวียนเผาเขาหมิงเซียน เป็นการเหมาะสมกว่าที่จะกล่าวว่านักปราชญ์เองสั่งสมภัยทำลายเขาหมิงเซียนเอง
หากสำนักหมิงเซียนไม่แอบเก็บซ่อนเชื้อไฟไว้ เขาหมิงเซียนก็คงไม่ประสบภัยพิบัตินี้
นี่เป็นการแสดงภาพจริงแท้ที่สุดที่สะท้อนให้เห็นว่าก่อภัยให้คนอื่นภัยนั้นถึงตัว
นี่คือเหตุและผลมีอยู่เท่านี้
แต่ในใจของนักปราชญ์ ตัวการที่เผาเขาหมิงเซียนก็คือเซียวเฉวียน หากเซียวเฉวียนไม่บุกรุกเข้าไปในเขาหมิงเซียนและขโมยเชื้อไฟ เรื่องทั้งหมดนั้นก็คงไม่เกิดขึ้น
เขาหมิงเซียนถูกทำลาย ก็เป็นความผิดของเซียวเฉวียน !
ในทัศนคติต่อชีวิตของนักปราชญ์นั้น เขาจะแอบซ่อนสิ่งใดไว้ไม่สำคัญ ถึงจะเป็นสิ่งที่ชาวโลกไม่ยอมรับ ก็ไม่สำคัญ เป็นอิสรภาพของนักปราชญ์และนักปราชญ์ก็ไม่มีความผิดอะไรเลย
ความผิดอยู่ที่ตัวเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนไม่ควรแอบลักเชื้อไฟ
ตรรกะประเภทนี้หากอยู่ในจีนยุคใหม่ ก็เหมือนกับประชาชนทั่วไปที่รู้ว่าการเก็บซ่อนปืนนั้นผิดกฎหมาย และจะไม่กล้าท้าทายกฎหมายอย่างเด็ดขาด
แต่บังเอิญมีคนหยิ่งผยองคนหนึ่งคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เขาจะซ่อนปืนกระบอกหนึ่งไว้สำหรับป้องกันตัว
เขาจึงซ่อนปืนไว้ในบ้านซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมาย
อยู่มาวันหนึ่ง ชายคนหนึ่งซึ่งปกติไม่ถูกกับเขาพบว่าเขาซ่อนปืนไว้ ผู้นั้นกำลังจะไปแจ้งความ ระหว่างที่ถกเถียง สองคนจึงชกต่อยกันขึ้นมา คนที่ซ่อนปืนทุบตีอีกคนหนึ่งร่วงลงกับพื้น
คนที่ซ่อนปืนยังพูดหน้าไม่อายว่า ที่เขาแอบซ่อนปืนนั้นไม่ผิด ที่ผิดคือคนนั้นไม่ควรเข้ามายุ่งเรื่องของตัวเอง ยิ่งไม่ควรมีความคิดที่จะฟ้องเขาเรื่องนี้ นี่เป็นผลมาจากการที่เขาเข้ามายุ่งกับเรื่องของเขาเอง !
แต่ว่า จากมุมมองของอีกคนหนึ่งนั้น การฟ้องตัวบุคคลที่แอบซ่อนปืนก็เป็นช่องทางหนึ่งในการป้องกันตัวของคนนั้น พวกเขาไม่ถูกกัน วันดีคืนดีคนที่แอบซ่อนปืนอาจเล็งปืนมาใส่อีกคนคนนั้น อีกคนนั้นจะไม่หนาวหรือ ?
นักปราชญ์ก็คือคนแอบซ่อนปืน เขาแอบซ่อนเชื้อไฟที่เป็นอันตรายต่อทั้งชาวคุนหลุนและชาวต้าเว่ย ยังไม่ยอมให้ใครมาแล ใครมาแลคนนั้นก็มีความผิด
นักปราชญ์จ้องมองที่เซียวเฉวียนด้วยความโกรธแค้นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ ศิษย์หมิงเซียนบอกนักปราชญ์ว่าเซียวเฉวียนเป็นคนทำลายเขาหมิงเซียน นักปราชญ์ยังไม่เชื่อว่าเซียวเฉวียนเป็นคนทำ
แต่ตอนนี้ นักปราชญ์ไม่เชื่อไม่ได้แล้ว
หากรู้ว่ามีวันนี้ นักปราชญ์ก็ไม่ควรมาที่ต้าเว่ยตั้งแต่แรก
เมื่อก่อน นักปราชญ์ทำนายว่าเซียวเฉวียนจะตายในที่ต้าเว่ย
นักปราชญ์ผู้ทะนงตัว อยากจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่นักปราชญ์เองทำนายนั้นเป็นจริง นักปราชญ์รู้ดีว่าเซียวเฉวียนได้ไปที่ภูมิภาคตะวันตก แต่เขาก็ยังยืนกรานจะอยู่ที่ต้าเว่ยต่อไป จะรอให้เซียวเฉวียนกลับมาต้าเว่ยแล้วค่อยสังหารเขา
นักปราชญ์ไม่คิดไม่ฝันว่า เป็นเพราะการยืนกรานของเขา เซียวเฉวียนจึงมีโอกาสบุกตรงไปยังค่ายบัญชาการของนักปราชญ์
เฮย !
เที่ยวนี้ นักปราชญ์ไม่ใช้มือเปล่าอีกต่อไป เขาหยิบดาบคมกริบเล่มหนึ่งออกมาจากกลางอากาศ คมดาบส่งประกายแสงเย็นยะเยือก แทงเข้าหาเซียวเฉวียนอย่างว่องไว
พลังดาบที่เร้าคนนั้นปาดฝุ่นดินขึ้นไปทั่วท้องฟ้า ฝุ่นดินปลิวว่อน ทั่วทั้งลานบ้านดูสับสนวุ่นวาย หากยืนอยู่ที่นี่อีกหนึ่งวินาที จะเหมือนคนที่ไปเกลือกกลิ้งกับดินที่ไหนมา
รบกันด้วยวิธีเลอะเทอะแบบนี้ เซียวเฉวียนไม่ปลื้มเลย
เซียวเฉวียนออกแรงที่ปลายนิ้วเท้าสักนิด ร่างของเขาเหินขึ้นแวบ ลอยขึ้นไปอยู่บนกิ่งต้นไม้ในลานบ้าน
เดิมทีนั้นกิ่งไม้ถูกกระทบจากพลังดาบของนักปราชญ์ กำลังแกว่งไปมาในอากาศ
ตอนนี้ ร่างขนาดใหญ่โตของเซียวเฉวียนมายืนอยู่ข้างบน ส่งน้ำหนักแรงเฉื่อยให้กับกิ่งไม้ กิ่งไม่จึงไม่แกว่งไปมาอีกต่อไป
แต่ว่า กิ่งไม้ส่งเสียง "คลิก" ดังขึ้นเบาๆ......
แย่ละสิ กิ่งไม้กำลังจะหัก !
เซียวเฉวียนระดมกำลังภายใน เพื่อลดแรงกดดันที่เขาสร้างให้กับกิ่งไม้
ดูเหมือนว่าเซียวเฉวียนจะประเมินกำลังรับน้ำหนักของกิ่งไม้สูงเกินไป เขาคิดว่ากิ่งไม้จะสามารถรับน้ำหนักตัวของเขาได้ ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงกดน้ำหนักทั้งหมดของเขาลงบนกิ่งไม้ในตอนแรก
ไม่คิดว่ากิ่งไม้นี้ดูใหญ่โตแต่ทนรับน้ำหนักไม่ได้ถึงขนาดนี้
คำนวณผิดพลาดจริงๆ
โชคดีที่หลังจากมีกำลังภายในมาช่วย เสียง "คลิก" ของกิ่งไม้หายไปแล้ว
แต่ผ่านไปไม่นาน ก็มีเสียง "คลิก" ดังขึ้นมาเบาๆ อีก
ลมดาบแรงเกินไป ถึงมีเซียวเฉวียนกดอยู่ กิ่งไม้ก็ยังแกว่งขึ้นมาอีก เสียงทำท่าจะหักนั้นยิ่งมายิ่งชัดขึ้น
ปรากฏว่าหลังจากที่เซียวเฉวียนขึ้นไปบนต้นไม้ นักปราชญ์ก็ตามเขาขึ้นไปด้วย แถมยืนอยู่บนกิ่งไม้อันเดียวกันกับเซียวเฉวียน
นี่ไม่ใช่ไปทับถมกิ่งไม้ให้ช้ำกายหรือ ?
เซียวเฉวียนกระโดดอีกที ขึ้นไปยืนบนกิ่งไม้ที่อยู่สูงขึ้นไปอีก ในเวลาเดียวกัน เขาก็หลบเลี่ยงดาบของนักปราชญ์ไปอย่างคล่องตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...