นักปราชญ์ได้ทำมากแล้วที่ทางเข้า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำกลไกด้านใน
พูดตามตรง หากนักปราชญ์ไม่ได้บอกด้วยตัวเอง ใครจะคิดว่าจะมีคลังสมบัติขนาดใหญ่อยู่ที่นี่
แม้แต่ฝันก็คิดไม่ถึง
หลังจากเข้าไปในหลุมแล้ว เซียวเฉวียนก็จุดไฟ
คลังสมบัติอยู่ในสภาพปิดสนิทเป็นเวลานาน จึงมีโอกาสขาดอากาศหายใจ
ในกรณีนี้ เพลิงสามารถให้แสงสว่างและตรวจสอบปริมาณออกซิเจนได้
เซียวเฉวียนเดินนำหน้าถือคบเพลิง
ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ พื้นที่ก็ยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น
ในเงามืด เปลวไฟไหวไปมา ดูเหมือนจะลอยอยู่บ้าง
จากสิ่งนี้ สามารถตัดสินได้ว่าอากาศที่นี่มีการไหลเวียน
สาเหตุของการไหลเวียนของอากาศ เป็นไปได้ว่าเนื่องจากการเปิดทางเข้า ทำให้อากาศภายนอกไหลเข้ามา
หรืออาจเป็นเพราะนักปราชญ์มีมาตรการระบายอากาศ
แน่นอนว่า เซียวเฉวียนไม่สนใจปัญหานี้ ตราบใดที่ภายในไม่ขาดอากาศหายใจก็ถือว่าดี
ขณะที่เดินไป เซียวเฉวียนรู้สึกว่าเท้าเหมือนเหยียบอะไรบางอย่าง
เซียวเฉวียนวางคบเพลิงลงต่ำแล้วก้มลงมอง ตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
ตรงเท้าของเขามีโครงกระดูกวางเรียงซ้อนกันอยู่
ไม่ต้องคิด เซียวเฉวียน ก็รู้ว่าต้องเป็นโครงกระดูกของคนที่เคยช่วยขุดคลังสมบัติของนักปราชญ์มาก่อน
เพื่อรักษาความลับ นักปราชญ์ฆ่าพวกเขาทั้งหมดและโยนศพลงคลังสมบัติ ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในละครโทรทัศน์ของฮว๋าเซี่ย ก็มีฉากแบบนี้อยู่ไม่น้อย
เซียวเฉวียนประมาณคร่าวๆ ว่าโครงกระดูกมีประมาณยี่สิบกว่าโครง
มีเยอะขนาดนี้
เซียวเฉวียนก็สงสัยว่า ทำไมคนหายไปพร้อมกันถึงขนาดนี้ ไม่มีใครไปแจ้งความกับทางการเลยหรือ?
ทำไม นักปราชญ์ถึงยังลอยนวลอยู่ได้?
สมัยโบราณนี่ช่างเป็นยุคที่แปลกประหลาดจริงๆ
เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนที่มีชีวิตอยู่ในสมัยโบราณ ชีวิตมีค่ายิ่งกว่าหญ้าคา
เมื่อเซียวเฉวียนโค่นล้มกองทัพชาวยุทธ์แท้ของเว่ยเชียนชิวแล้วเซียวเฉวียนจะนำทางให้ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับสิทธิของมนุษย์
ยึดเอามนุษย์เป็นศูนย์กลาง นั่นคือหนทางที่จะนำพาต้าเว่ยไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
เซียวเฉวียนไว้อาลัยให้กับโครงกระดูกเหล่านั้นสามวินาที หากมีชาติหน้า พวกท่านก็ไปฮว๋าเซี่ยยุคปัจจุบันเถิด
จากนั้น เซียวเฉวียนก็เดินต่อไป
ประมาณสามสี่นาที เซียวเฉวียนก็มาถึงสถานที่ที่กว้างขวางขึ้น
ตลอดทางที่เดินมา เซียวเฉวียนไม่เคยเจอกับกับดักอะไรเลย
ที่นี่มีกล่องวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
กล่องทุกใบปิดผนึกอยู่ ด้านบนเต็มไปด้วยฝุ่นและใยแมงมุม
เซียวเฉวียนเปิดกล่องหนึ่งโดยสุ่ม และพบว่ามีทองคำอยู่เต็มกล่อง
ภายใต้แสงไฟของคบเพลิง ทองคำส่องประกายแวววาว
เมื่อมองดูกล่องเหล่านี้ ดวงตาของเซียวเฉวียนเปล่งประกายด้วยแสงทอง ใจของเขารู้สึกตื่นเต้นมาก
ว้าว!
คราวนี้รวยแน่
เดิมที เซียวเฉวียนพูดจาข่มขู่ขอทองคำจากนักปราชญ์ห้าแสนตำลึง แค่พูดเล่นๆ เท่านั้น หากนักปราชญ์มีก็ให้ หากไม่มี จำนวนนี้สามารถลดลงได้ เซียวเฉวียนก็ไม่บังคับไม่คิดว่านักปราชญ์จะตกลง และระเบิดคลังสมบัติของนักปราชญ์จริง ๆ
ทองคำในกล่องเหล่านี้รวมกันแล้ว แม้ว่าจะไม่ถึงห้าแสนตำลึง แต่ก็ใกล้เคียง
ว้าว ๆ ๆ!
ทองคำ!
ห้าแสนตำลึง!
เกรงว่าเหมืองทองคำที่เซียวเฉวียนมีจะไม่ถึงจำนวนนี้ด้วยซ้ำ
เงินก้อนนี้มาอย่างน่าประหลาดใจและง่ายดาย
เซียวเฉวียนคิดไม่ถึงเลยว่าความสามารถในการเก็บเงินของนักปราชญ์จะแข็งแกร่งขนาดนี้
น่ายกย่องมาก!
เมื่อพบทองคำแล้ว ที่นี่ไม่ควรอยู่นาน
"ภาพชุนเซี่ยวออกมา!" เซียวเฉวียนตะโกน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...