ฉะนั้นปัญหามาแล้ว เว่ยเชียนชิวออกจากวัง เสียงที่ชาวเมืองหลวงปราบปรามเว่ยเชียนชิวยังไม่ผ่านพ้นไป เว่ยเชียนชิวจะไปที่ใดได้?
ด้วยนิสัยของชาวราษฎร เมื่อเห็นเว่ยเชียนชิว ก็ไม่แน่ว่าจะถูกดืทอดูถูก โยนไข่เน่าและผักใบไม้เน่าใส่เขา
เว่ยเชียนชิวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นเทาในใจ เมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากและน่าอับอายเช่นนี้
สถานการณ์เช่นนี้ รับไม่ได้ รับไม่ได้
ทันใดนั้น เว่ยเชียนชิวก็จ้องมองไปที่หวังหลิน พูดอย่างใจเย็น: "ถอดเสื้อคลุมบนร่างกายของเจ้าออกมา"
เสื้อคลุมบนร่างของหวังหลิน แม้ว่ามันเก่าแล้ว แต่มันก็มีเหตุผลที่ทำให้เว่ยเชียนชิวต้องตา มันมีหมวกด้วย
ตราบใดที่เว่ยเชียนชิวสวมเสื้อคลุมตัวนี้ และสวมหมวกใบนั้น ก็จะไม่มีใครจำเขาได้แล้วมิใช่หรือ
เมื่อได้ยินว่าเว่ยเชียนชิวขอให้หวังหลินถอดเสื้อคลุมของเขาออกหวังหลินก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ เขาก้มศีรษะลงและมองดูเสื้อคลุมของเขา เสื้อคลุมของเขาเก่ามากเนื้อผ้าก็ไม่ดีเลย เจียนกั๋วอยากให้มันทำไมกันนะ?
เมื่อเห็นว่าหวังหลินชักช้ายังไม่ถอดเสื้อคลุมออกเป็นเสียที เว่ยเชียนชิวจึงพูดอย่างหมดความอดทนเล็กน้อย: "มัวชักช้าอะไร?"
หวังหลินรีบดึงเชือกผูกเสื้อคลุมออกอย่างรวดเร็ว ถอดเสื้อคลุมออกแล้วส่งให้เว่ยเชียนชิวอย่างสงสัย
เว่ยเชียนชิวรับเสื้อคลุมมา ภายใต้การจ้องมองที่งุนงงของหวังหลินเขาเหวี่ยงเสื้อคลุมไปทางหลัง จากนั้นผูกเชือกสองสามทีแล้วคลุมหมวกนนศีรษะ
หลังหลินและองครักษ์ที่เฝ้าประตูพระราชวังตกตะลึงกับรูปลักษณ์นี้
หมวกนั้นพอดี สามารถสวมบนศีรษะของเว่ยเชียนชิวได้
แต่เมื่อมองดูเสื้อคลุมบนตัวเขา ก็เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถปกปิดร่างกายที่กำยำแข็งแรงของเว่ยเชียนชิวได้ เขาดูเหมือนผู้ใหญ่ที่ขโมยเสื้อผ้าของเด็กมาใส่ มันดูตลกที่สุด
หวังหลินอยากเตือนเว่ยเชียนชิวด้วยความหวังดีว่า เสื้อคลุมนี้ไม่เหมาะสำหรับเว่ยเชียนชิว
แต่หวังหลินก็เปลี่ยนความคิด ตัดสินใจที่จะช่างมัน เกรงว่าเว่ยเชียนชิวจะคิดว่าหวังหลินไม่เต็มใจสละเสื้อคลุม
ท้ายที่สุดแล้ว เว่ยเชียนชิวเองก็สามารถมองเห็นและสัมผัสได้ว่ามันเหมาะสมสำหรับตัวเขาเองหรือไม่
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย เว่ยเชียนชิวถามว่า: "ครอบครัวของเจ้ามีใครบ้าง?"
บ้านเกิดของหวังหลินไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง เพราะเขาต้องการมาเข้าสอบที่เมืองหลวง ครอบครัวของเขาก็เอาของทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา รวบรวมเป็นเงินทอง มอบให้กับหวังหลินเพื่อที่เขาจะได้มาสอบได้อย่างสบายใจ
เดิมทีหวังหลินวางแผน จะกลับไปที่บ้านเกิด หลังจากเสร็จสิ้นการสอบ และผลสอบออกมา ดังนั้นเงินนี้จึงมากเกินพอ
ตามประสบการณ์ของปีก่อนๆ ใช้เวลาไม่นาน
เพียงแต่ไม่คิดว่า การสอบเคอจี่ในปีนี้ มักจะมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย และล่าช้าเป็นเวลานาน หวังหลินใช้ชีวิตอย่างประหยัด จึงได้เช่าบ้านที่เรียบง่ายใกล้เมืองหลวงพักอาศัย
ประคองมาจนถึงตอนนี้ หวังหลินยากจนมาก จนเกือบจะหมดข้าวสารที่จะหุงแล้ว
วันนี้ หวังหลินมาที่เมืองหลวง ก็เพื่อสำรวจข่าว ดูว่าจะมีทางรอดอื่นหรือไม่
คาดไม่ถึงว่า ได้พบกับเว่ยเชียนชิวโดยบังเอิญ
เว่ยเชียนชิวยังสนใจว่าครอบครัวของหวังหลินยังมีใครอีก หวังหลินอดไม่ได้ที่จะสงสัย หรือว่าเว่ยเชียนชิวจะตกรางวัลหวังหลินที่ช่วยเขาในเมื่อครู่นี้หรือไม่?
ถ้าเป็นเช่นนี้จะดีมาก หวังหลินไม่ต้องกังวลเรื่องการยังชีพของเขาแล้ว
ทุกคนรู้ดีว่าเว่ยเชียนชิวมีเงินมากมาย ขอแค่เล็ดลอดออกมาจากระหว่างนิ้วของเขาได้เพียงเล็กน้อย หวังหลินก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายปีแล้ว
โอ้โห กำลังจะรวยแล้ว
"เรียนท่านเจียนกั๋ว ข้ามีพ่อแม่และน้องชายอยู่ที่บ้าน" หวังหลินพูดด้วยความเคารพและระงับความตื่นเต้นในใจ
"เจ้าเป็นคนเมืองหลวงรึ?" เว่ยเชียนชิวขมวดคิ้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่เว่ยเชียนชิวพยายามเกลี้ยกล่อมหวังหลินนั้น แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะเคยได้ยินลูกน้องของเขารายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ของหวังหลิน แต่เว่ยเชียนชิวก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับคนที่ไม่มีนัยสำคัญเหล่านี้ในตอนแรก ดังนั้นเขาจึงเพียงฟังผ่านๆ ไม่ได้จดจำเป็นพิเศษ
"ไม่ใช่ขอรับ" หวังหลินตอบอย่างคล่องแคล่ว
"ตอนนี้เจ้าอาศัยอยู่ที่ไหน" ด้วยวิธีนี้ มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่หวังหลินอาศัยอยู่ตามลำพังในขณะนี้ และเว่ยเชียนชิวรู้สึกว่ามีความหวังสำหรับที่ตั้งถิ่นฐานของเขาแล้ว
"ชานเมืองหลวงขอรับ" ณ จุดนี้หวังหลินอดไม่ได้ที่จะพึมพำ เจียนกั๋วใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชาเยี่ยงนี้เลยหรือ?
เป็นเรื่องน่าอบอุ่นใจจริงๆ ที่มีผู้นำที่ดีเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...