อ่านสรุป บทที่ 1223 ทำให้เซียวเฉวียนตกใจหนีไป จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 1223 ทำให้เซียวเฉวียนตกใจหนีไป คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ถ้ามีใครพูดถึงเรื่องนี้อีก นั้นก็เป็นเรื่องหลังจากนี้ เซียวเฉวียนหาเหตุผลมาพูดเพื่อให้ผ่านพ้นไปก่อน เป็นการหลอกทุกคน
เมื่อเป็นอย่างนี้ เซียวเฉวียนก็สามารถรอดพ้นไปได้
แต่ว่า หวังหลินไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ
หวังหลินจับตาดูเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อย จับเซียวเฉวียนไว้แน่นไม่ปล่อย
ได้ยินหวังหลินพูดถึงเรื่องนี้ เว่ยเชียนชิวก็คิดขึ้นได้ ช่วงนี้เขาคิดแต่ว่าจะไปหาที่หลบที่ไหน เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว
ใช่แล้ว เรื่องนี้เป็นความอ่อนแอของเซียวเฉวียนใช่ไหม?
คนเซียวเฉวียนก็เป็นคนพาออกมา ตัวของเซียวเฉวียนก็กลับไปนานแล้ว ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของจิ้นซื่อเลยแม้แต่นิดเดียว เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีเหตุผลที่จะพูดได้
จะจัดการเรื่องนี้ได้ จะต้องเอาเรื่องนี้ไปฟ้องที่กรมสอบสวนคดี ทำอย่างนี้แล้ว ดูสิว่าเซียวเฉวียนจะหนีพ้นได้อย่างไร!
เหอะ!
ในเวลานี้ เซียวเฉวียนยิ้มเยาะ พูดอย่างช้าๆและมั่นใจว่า:“เรื่องนี้ ต้องรายงานให้พวกเจ้ารู้ด้วยเหรอ?”
คำพูดนี้ ทำให้เว่ยเชียนชิวและหวังหลินโมโหจนกัดฟัน ทั้งสองคนมองเซียวเฉวียนไม่รู้จะทำอะไรได้ ตกตะลึงจนไม่สามารถโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว
ผ่านไปซักพัก มุมปากของเว่ยเชียนชิวยกยิ้มหัวเราะเยาะเย้ย พูดอย่างสะใจว่า :“เซียวเฉวียน เรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าก็จะต้องหาเหตุผลให้กับทุกคน”
โยว รู้จักเอาประชาชนมากดดันเซียวเฉวียน ดูท่าทาง ช่วงเวลาที่ต่อสู้กับเซียวเฉวียนมานาน เว่ยเชียนชิวได้เรียนรู้อะไรมาขึ้น
รู้จักเอาคำพูดของคนอื่นมาโจมตีเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า :“ถ้าต้องการเหตุผล ก็สามารถไปถามฮ่องเต้ด้วยตัวเองได้เลย เรื่องนี้ฮ่องเต้ทรงรู้ดี
มาถึงตอนนี้ เว่ยเชียนชิวยังไม่กล้าเข้าไปในวังหลวง
และหวังหลิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีหน้าที่อะไรในงานราชการ และก็ไม่มีพระราชโองการเรียกตัว ต้องการจะเข้าไปในวัง เป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก
ส่วนประชาชน คำว่าฮ่องเต่สองคำนี้ ก็จะยิ่งทำให้พวกเขายอมล่าถอยไปเอง
ฟังสิ ดูสิ เซียวเฉวียนแสดงท่าทางเหมือนกับว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้
ทำให้เว่ยเชียนชิวและหวังหลินโกรธโมโหมาก ที่ไม่สามารถทำอะไรเซียวเฉวียนได้
เว่ยเชียนชิวรู้สึกรำคาญ คนที่มาจากฮวาเซี่ย ทำไมถึงน่ารำคาญยากที่จะรับมือได้อย่างอย่างนี้
“การต่อสู้นี้ ยังจะสู้ต่อหรือไม่?ถ้าไม่สู้ เซียวเฉวียนจะไปแล้ว” เซียวเฉวียนได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคิดในใจ มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะว่าคนที่มาจากฮวาเซี่ยยากที่จะรับมือได้ เพียงแต่คนที่มาจากฮวาเซี่ย ในใจของพวกเขามีเป้าหมายและความเชื่อ เป้าหมายและความเชื่อนี้ เป็นพลังแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไป
แน่นอนว่า ทุกคนมีเป้าหมายและความเชื่อไม่เหมือนกัน และเป้าหมายกับความเชื่อก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้ตลอด
ส่วนใหญ่คนที่มาจากฮวาเซี่ยจะความเชื่อที่เหมือนกัน มีแสงสว่างในใจ ที่ส่องสว่างตัวเองในเวลาเดียว ไม่ไปขวางทางของคนอื่น
หรือจะพูดได้ว่า ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการไม่ทำลายผลประโยชน์ของคนอื่น
เช่น หลังจากมาที่ต้าเว่ย เป้าหมายของอี้อู๋หลี่คือมีชีวิตอยู่และช่วยสร้างพัฒนาอาวุธให้ต้าเว่ย ทำให้ต้าเว่ยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เป้าหมายของเว่ยเป้ยรักษาตัวให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะฉะนั้น เขาจึงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายของเว่ยเชียนชิว แต่เขาไม่เคยใช้อำนาจของเว่ยเชียนชิวทำเรื่องไม่ดี
หลังจากที่ได้รู้จักกับเซียวเฉวียนที่เป็นคนฮวาเซี่ยเหมือนกัน เว่ยเป้ยก็มีเป้าหมายที่จะคอยติดตามเซียวเฉวียน
เป้าหมายของเว่ยเป้ยคือมีความสุขกับชีวิต แน่นอน นี่เป็นเป้าหมายในตอนแรกที่เขามาที่ต้าเว่ย
ตอนนี้ เป้าหมายของเว่ยเป้ยคือต้องการพัฒนาความสามารถของตัวเอง เพื่อจะได้ค่อยช่วยเหลือเซียวเฉวียนต่อสู้กับสัตว์ประหลาดต่างๆ
ยังมีมู่จิ่น ก่อนหน้านี้เป้าหมายของเขาคือรักษาชีวิตตัวเองไว้ ตอนนี้ก็ต้องการช่วยเหลือเซียวเฉวียน
และเป้าหมายของเซียวเฉวียน มีความชัดเจนมากมาโดยตลอด แก้แค้น และพัฒนาขยายห้องหนังสือชิงหยวนให้ใหญ่ยิ่งขึ้น ทำตามที่เหวินฮั่นและปีศาจกวีได้สั่งเสียไว้ ทำให้ต้าเว่ยมีความสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง
สิ่งเหล่านี้ คนโบราณที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนอย่างเว่ยเชียนชิว ไม่มีทางเข้าใจอย่างแน่นอน
เซียวเฉวียนเคลื่อนไหว หลบหลีกมีดสั้นทั้งสองเล่ม และยังจับมีดทั้งสองเล่มเอาไว้ จับไว้ในมือมองพิจารณาดู
มีดสั้นคมมาก แต่วัสดุที่ใช้ทำมีดสั้นนี้ธรรมดามาก มันเป็นทำให้พอรู้ได้ว่า ฝีมือการสู้ของหวังหลินธรรมดาทั่วไปมาก
ดังนั้นจึงสามารถคาดคะแนได้ว่า ถึงแม้ว่าหวังหลินจะยอมอยู่ฝ่ายเดียวกับเว่ยเชียนชิว แต่ก็ไม่ได้รับความชื่นชมอะไรมากมาย
แต่ว่า เซียวเฉวียนดูออกว่า มีดสั้นนี้ถูกเคลือบด้วยผงแป้งบางๆ ไม่ต้องบอกเซียวเฉวียนก็รู้ ผงแป้งนี้จะต้องเป็นยาพิษอย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงว่า ปัญญาชนที่ไม่มีกำลังความสามารถคนหนึ่ง จะมีความคิดที่โหดร้ายอย่างนี้ จะลงมือด้วยวิธีร้ายกาจเช่นนี้
ฮวาเซี่ยมีคำพูดที่ว่า โดนหมาลอบกัดทำให้คนเจ็บปวดมากที่สุด
เป็นการพูดถึงคนประเภทเดียวกับหวังหลินพวกนี้
ดูท่าทางเป็นคนไม่มีพิษภัยอะไร แต่มักจะซ่อนความคิดชั่วร้ายไว้ได้ง่าย
จริง?
ดูอย่างเว่ยเชียนชิว ถึงแม้ว่าจะมีท่าทางเต็มไปด้วยความชั่วร้าย แต่ก็ไม่เคยคิดทำเรื่องอาวุธที่อาบยาพิษอย่างนี้
แต่ว่า หวังหลินเป็นปัญญาชน เซียวเฉวียนไม่สามารถฆ่าได้
ต่อสู้กับปัญญาชนยื้อเวลากันไปอย่างนี้ เซียวเฉวียนก็จะยิ่งมีอันตรายมากขึ้น ดังนั้น เซียวเฉวียนจะไม่ทนกับหวังหลินอีกต่อไปแล้ว
พุ่งตัวออกไป เซียวเฉวียนก็หายวับไปจากหน้าประตูพระราชวัง
หวังหลินที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ทันใดนั้นเซียวเฉวียนหายตัวไป ก็คิดว่าเซียวเฉวียนหวาดกลัวอาวุธของเขาจึงหนีไป หวังหลินรู้สึกดีใจมาก หันหน้ากลับไปหาเว่ยเชียนชิวและพูดว่า:“ใต้เท้าเจียนกั๋ว ข้าทำให้เซียวเฉวียนกลัวจนหนีไปแล้ว”
เว่ยเชียวชิวกำลังจะเอ่ยปากด่า เซียวเฉวียนไม่อยากจะสู้กับเจ้า ถึงได้หนีไป แค่นี้เจ้าก็ไม่รู้เหรอ โง่เง่า!
คนที่สามารถทำร้ายให้ข้าเจียนกั๋วบาดเจ็บได้ แค่อาวุธของเจ้าพวกนี้ คิดว่าจะทำให้เขากลัวจนหนีไปงั้นเหรอ เจ้ามันโง่พูดเพ้อเจ้อ!
แต่ว่า เห็นแก่ในฐานะที่หวังหลินปกป้องเขาไว้ เว่ยเชียนวชิวก็ยังพยายามเก็บอารมณ์ไว้ เขากดอารมณ์โกรธไว้ในใจ มองหวังหลินอย่างเยือกเย็น ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...