เมื่อหวังหลินเห็นเซียวเฉวียนยืนอยู่ด้านหลังเว่ยเชียนชิว เซียวเฉวียนก็ตีฝ่ามือไปที่หลังของเว่ยเชียนชิวแล้ว เว่ยเชียนชิวก็พ่นเลือดออกมา
เว่ยเชียนชิวมีรูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเทียบกับเขา หวังหลินดูตัวเตี้ยกว่ามาก
ความสูงของหวังหลิน อยู่ที่ระดับหูของเว่ยเชียนชิวพอดี
บังเอิญที่หวังหลินหันศีรษะกลับมาในตอนนั้น เลือดของเว่ยเชียนชิวก็พุ่งไปที่ใบหน้าของหวังหลินพอดี
หัวของหวังหลินว่างเปล่าในทันที เขาตกตะลึง ใช้มือลูบหน้า มองไปที่รอยเลือดบนมือ อยากรังเกียจแต่ไม่กล้า
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รีบลุกประคองเว่ยเชียนชิว ถามด้วยความห่วงใยว่า “ท่านเจียนกั๋ว เป็นอะไรหรือไม่?”
เว่ยเชียนชิวรู้สึกเจ็บแปลบ เขาครางเบา ๆ และถ่มน้ำลายออกมาอีกครั้งเพื่อเอาเลือดที่ค้างอยู่ในปากออก ใช้เวลาสักครู่ เว่ยเชียนชิวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและโกรธว่า “ไม่เป็นไร”
ในฐานะเจียนกั๋ว เขาต้องรักษาภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามของเขาไว้ต่อหน้าขุนนางผู้ไร้เดียงสา
แค่ถูกตบ แค่พ่นเลือดออกมาหน่อย ไม่เป็นอะไร
ชาวยุทธ์แท้ย่อมมีบาดแผลบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะพูดเช่นนั้น แต่หวังหลินก็ยังไม่สบายใจ
หวังหลินมาจากครอบครัวที่ยากจน มุ่งมั่นศึกษาคัมภีร์ของนักปราชญ์ ไม่เคยเห็นโลกกว้าง
ในความคิดของเขา การอาเจียนเป็นเลือดแสดงว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ใกล้ตายแล้ว
และเว่ยเชียนชิว ก็เป็นที่พึ่งของหวังหลิน ในสถานการณ์เช่นนี้ หวังหลินย่อมต้องปกป้องเว่ยเชียนชิว
เขาหันไปหาเซียวเฉวียน กางแขนออก ปกป้องเว่ยเชียนชิว ไว้ข้างหน้าเหมือนแม่ไก่ปกป้องลูกไก่ ตำหนิเซียวเฉวียนอย่างโกรธเคืองว่า “ท่านอาจารย์เซียว ท่านยังมีความเคารพต่อผู้ใหญ่หรือไม่?ท่านเจียนกั๋วทรงตำแหน่งสูง เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เป็นราชวงศ์ มีฐานะสูงส่ง ท่านกล้าทำร้ายเขาเช่นนี้?”
ตามตรรกะของหวังหลินเว่ยเชียนชิวมีฐานะสูงส่ง ใครก็ตามที่ถูกรังแกโดยเว่ยเชียนชิว ก็ต้องอดทน ไม่สามารถต่อสู้กลับได้ มิฉะนั้น ถือว่าเป็นการกบฏ
เซียวเฉวียนหัวเราะในใจ คนอย่างหวังหลิน ไม่เพียงแต่ความคิดเรื่องความเคารพต่อผู้มีอำนาจฝังรากลึกในจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังชอบพึ่งพาผู้มีอำนาจและหาทางลัด
คนประเภทนี้ เป็นเหมือนหญ้าปากคอก เอียงตามลม
ดูเหมือนว่าหวังหลิน กำลังปกป้องเว่ยเชียนชิว อยู่ตอนนี้ แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นและรู้ว่าเว่ยเชียนชิว ไม่สามารถให้สิ่งที่เขาต้องการได้ หวังหลินก็จะรีบหาพันธมิตรใหม่
โดยสรุป หวังหลินคิดว่าใครดีต่อเขาก็จะอยู่กับคนนั้น
อย่างไรก็ตาม หวังหลินก็มีจุดที่น่าชื่นชมอยู่บ้าง นั่นคือ เมื่อเขาตัดสินใจเลือกใครเป็นเจ้านายแล้ว เขาจะปกป้องเจ้านายอย่างสุดความสามารถ
เช่นเดียวกับตอนนี้ เขาไม่กลัวตาย ปกป้องเว่ยเชียนชิว
ถ้าเปลี่ยนเป็นจางจิ่นหรือจางเคอ พวกเขาคงทำไม่ได้ แค่ส่งคนมาช่วยเว่ยเชียนชิว ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว
เมื่อเห็นเซียวเฉวียน ไม่พูดอะไร แค่มองหวังหลิน หวังหลินก็โกรธขึ้นมาทันที “เจ้าหัวเราะอะไร?”
“แล้วเจ้ารู้จักคำสอนเรื่องความเคารพต่อครูบาอาจารย์หรือไม่?" เซียวเฉวียนเลิก"เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ครู เปรียบเสมือนพ่อ!
เซียวเฉวียนยังเป็นอาจารย์ของหวังหลิน แต่หวังหลินกลับเชื่อฟังเซียวเฉวียน
นี่เป็นการอกตัญญู และไม่เคารพอย่างมาก
ในสมัยโบราณ การอกตัญญูและไม่เคารพ ถือเป็นสิ่งต้องห้าม
คนที่อกตัญญูและไม่เคารพ เป็นการฝืนกฎธรรมชาติ จะถูกลูกหลานรังเกียจเดียดฉันท์ และจะถูกลงโทษ
ถูกเซียวเฉวียนตอกกลับ หวังหลินก็พูดไม่ออก โกรธจนหน้าแดง กำหมัดแน่นจ้องเซียวเฉวียนด้วยสายตาโกรธเกี้ยว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...