หรือว่าเซียวเฉวียนจะเป็นอย่างข่าวชาวบ้านที่เขาลือกัน เขาคือเทพดาวเหวินชางจุติอย่างนั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้!
จิตใจของหยางเล่อสั่นพร่า คนอื่นๆ รู้สึกประหม่าเล็กน้อยเกี่ยวกับการทดสอบระดับสำนักพระราชวังวันนี้ ความยากของคำถามถือว่าอยู่ในระดับสูง แม้แต่รัฐมนตรีทหารผ่านศึกก็ยังไม่ง่ายที่จะเขียนนโยบายชิ้นนี้
แต่ท่าทางของเซียวเฉวียนดูท่าทางสงบนิ่งหรือว่าจะเป็นการเสแสร้ง?
ดวงตาชำเลืองไปที่หยางจ๊าวผู้เป็นลูกพี่น้อง ดูหยางจ๊าวทำข้อสอบอย่างตั้งใจและท่าทางสงบนิ่ง
หยางเล่อเป่าปากโล่งอกเมื่อได้เห็นหยางจ๊าวเป็นเลิศทางด้านเขียนตัวอักษรและการอ่านหนังสือที่ยอดเยี่ยม สอบวิชาคำนวณครั้งนี้ไม่ใช่ปัญหาที่หยางจ๊าวจะเอาชนะเซียวเฉวียนไม่ได้
เซียวเฉวียนมีการทดสอบระดับมณฑล แต่ครั้งนี้ทั้งบาดเจ็บทั้งต้องตอบคำตอบอย่างมึนงง ทำไมครั้งนี้ดูเหมือนว่ามือของเขาจะหายดีแล้ว?
ทำไมถึงจับพู่กันได้มั่นคงเพียงนั้น?
เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนเห็นหยางเล่ออยู่ในการประลองสอบ แต่เขากลับประหม่ามากจนไม่รู้ว่าทำไม
การทดสอบระดับมณฑล แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจเซียวเฉวียนมีครั้งนี้ที่ตนสนใจเขามากเกินไป เขามักจะมีการประลองการสอบอยู่เสมอ
ไม่มีวิธีที่จะทำให้เขาทำพลาดในการทดสอบระดับมณฑลแล้ว เว่ยเจียนกั๋วโกรธมากที่ไม่ปล่อยให้หนึ่งในนั้นติดอันดับ แต่คราวนี้เขาต้องไม่ประมาท
พอตำหนักเหวินชางได้เริ่มการประลองสอบสถานการณ์ก็เงียบงันได้ยินแค่เพียงเสียงเปิดข้อสอบและปลายพู่กันเท่านั้น
สถานการณ์ค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นและมีเสียงกระแอมเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็มีเสียงถอนหายใจ ถึงแม้เสียงถอนหายจะเบาบางสักเพียงใด แต่ข้างในตำหนักกลับได้ยินอย่างชัดเจน
เดิมที่ก็ประหม่าอยู่แล้ว พอผู้ประลองข้อสอบเขียนได้ไปครึ่งทางก็เพิ่มความประหม่ายิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อพวกเขารู้สึกประหม่าพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ตนที่รู้สึกประหม่า
มีเพียงแต่เซียวเฉวียนและหยางจ๊าวเท่านั้นที่จิตใจสงบนิ่งและเต็มไปด้วยความมั่นใจ
วันขึ้นตอนรุ่งสายเซียวเฉวียนเขียนได้ไปครึ่งทางก็รู้สึกเหนื่อยล้าจึงคิดหยุดพู่กันแล้วพักชั่วครู่
ถึงอย่างไรก็ต้องสอบหนึ่งวันเต็มต้องตอบคำตอบให้เสร็จก่อนมิเช่นนั้นไม่สามารถออกไปได้
หยางจ๋าวที่อยู่ข้างหลังเขาเห็นเขาหยุดปลายปากกาลงในใจก็ดีใจที่เซียวเฉวียนติดชะงักแล้ว!
เขาไม่กล้าที่จะหย่อนออกไปแม้แต่น้อย เขาใช้ประโยชน์พู่กันที่หม่นหมองของเซียวเฉวียน ราวกับว่าตำแหน่งจอหงวนกำลังโบกมือให้เขา!
การเฝ้าระวังหยางเล่อไม่สามารถซ่อนความสุขของเขาได้ ตระกูลหยางของพวกเขาปฏิบัติตามนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เมื่อเห็นเซียวเฉวียนติดชะงักเช่นนี้แล้วเขาก็เขียนอะไรรอีกมิได้แล้ว!
เซียวเฉวียนหลับตาพักสมอง เพลิดเพลินกับช่วงยามนี้
นี่ต้องเป็นประวัติศาสตร์ถึงจะสามารถซึมซัมบรระยากาศนี้ได้
อำพันขี้ปลากำลังเผาอบอวลในตำหนักและกลิ่นหอมของหมึกก็โชยออกมาและได้ยินเสียงนกร้องเบา ๆ นี่คือบรรยากาศของการอ่าน
คนกลุ่มหนึ่งปะทะกันทางความคิดของพวกเขาในบนกระดาษ
ณ ช่วงยามนี้ พู่กันไม่ใช่พู่กันอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นดาบที่ฝึกฝนมานานหลายปี
ทุกคำทุกประโยคกลายเป็นคำตอบที่เฉียบคม รัศมีแห่งการสังหารนั้นเปรียบเสมือนพายุเฮอริเคนในตำหนัก ไม่ว่าจะฆ่าผู้อื่นหรือปล่อยให้คนฆ่าพวกเขา
หากดาบสังหารได้ดี มันก็คุ้มค่าสำหรับพวกเขาที่จะศึกษาอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี
แต่น่าเสียดายในสนามรบมักจะต้องมีคนตายเสียก่อน
ผู้เข้าสอบประหม่าเกินไปเพราะว่า มีหัวข้อยาก กระวนกระวาย หายใจถี่ กลอกตา กลอกมือ คลี่พู่กัน และเป็นลมไปในที่สุด
ในทุกปีจะมีผู้ประลองเข้าสอบหนึ่งหรือสองคนที่เกิดอาการวิงเวียนเป็นลม จะมีขันทีเพื่ออุ้มบุคคลนั้นออกไป แต่ผู้ประลองสอบคนอื่นจะยังคงตอบคำถามต่อ
เซียวเฉวียนไม่ได้ลืมตาแต่อย่างใดยังคงหลับตาพักสมอง
เฉาสือจิงผู้เป็นคุมสอบเห็นแบบนี้แล้ว เห็นผู้ประลองสอบต่างๆทั้งพะวงและวิตกกังวล ตกลงเซียวเฉวียนไม่รู้ความหรือว่ามั่นใจเกินเหตุกันแน่?
เหวินฮั่นพูดเป็นนัยว่าเขาควรสงบสติอารมณ์ยังมีเวลาอีกครึ่งวันก่อนสิ้นสุดการสอบเวลา
เฉาสือจิงส่ายหน้าถึงแม้จะมีเวลาเหลือเยอะเพียงใด แต่ทว่าเขาไม่เคยเห็นผู้ประลองสอบคนไหนพักในระหว่างการทดสอบของพระราชวังมาก่อน!
เซียวเฉียวคือคนแรก!
เวลาไหลผ่านผ่านไปอย่างช้าๆราวกับสายน้ำที่พัดผ่าน หน้าผากของหยางจ๋าวเต็มไปด้วยเหงื่อ
เพราะเขาเองก็ติดชะงักเช่นเดียวกัน
ไม่ได้พูดปดแม้แต่น้อย
เซียวเฉวียนติดชะงักไปตั้งนานทำถึงลื่นไหลได้เพียงขนาดนี้
เป็นเรื่องปกติที่หยางจ๋าวจะปลอบใจตัวเองด้วยวิธีนี้ ถอนหายใจเต็มไปด้วยความกังวล ตอนนี้ผู้ประลองสอบคนอื่นๆคงจะเขียนนำไปกว่าหยางจ๋าวแล้ว
ตอนนี้จิตใจของหยางจ๋าวเต็มไปด้วยความกังวลราวเหมือนกับแสงแดดกำลังแผดเผา
ขณะนั้นตาของเซียวเฉวียนได้เบิกโพลงกว้าง
ดวงตาส่องแสงเป็นประกาย
พยายามไม่ติดชะงัก เก้กังและไม่ประหม่าน้อยที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...