เว่ยเชียนชิวดำรงตำแหน่งเจียนกั๋ว อยู่ในฐานะสำคัญ แต่กลับกระทำการอันชั่วร้าย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้สำนึกผิด กลับยังอวดดี!
คนแบบนี้ สมควรตายที่สุด!
ในดวงตาของเซียวเฉวียนเต็มไปด้วยความโกรธที่ท่วมท้น เขาถือดาบจิงหุน ก้าวไปหาเว่ยเชียนชิวทีละก้าว
วันนี้ เขาต้องให้เว่ยเชียนชิวชั่วร้ายคนนี้ตายให้ได้!
“ฮ่าๆ! เซียวเฉวียน เจ้าอยากจะฆ่าเจียนกั๋ว ช้าไปแล้ว!” ในเวลานี้ เว่ยเชียนชิว ใบหน้าไม่มีความหวาดกลัวใดๆ แต่กลับมองเซียวเฉวียนด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ
เพราะเว่ยเชียนชิวได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านหลัง
ไม่ต้องคิด ต้องเป็นหวังหลินแน่นอน!
ถึงเวลาเห็นปาฏิหาริย์แล้ว!
ฮ่า ๆ ๆ
เซียวเฉวียนเงยหน้าขึ้นมอง คนที่มาถึงคือหวังหลินและชาวยุทธ์แท้คนหนึ่ง
เมื่อเห็นหวังหลินมีความประหลาดใจกับเซียวเฉวียนซึ่งยากต่อการตรวจจับ
ตามความเข้าใจของเขา เว่ยเชียนชิวจะไม่มานำหวังหลิน คนที่ไร้ประโยชน์คนนี้มายังรัฐมู๋อวิ๋น ต้องมีแผนอะไรบางอย่าง
แต่หวังหลินคนนี้ เพิ่งเริ่มต้น ขาดประสบการณ์ หัวก็ไม่เฉลียวฉลาดนัก พาเขามา สู้กับชาวยุทธ์แท้หลายคนยังดีกว่า
เว้นแต่ หวังหลินจะมีอะไรบางอย่างที่เซียวเฉวียนไม่รู้
“ใต้เท้าเจียนกั่ว ข้ามาช่วยท่านช้าไปแล้ว โปรดให้อภัยข้าด้วย!” ชาวยุทธ์แท้มาถึงพร้อมกับหวังหลินลงจากหลังม้า ก็คุกเข่าลงต่อหน้าเว่ยเชียนชิวด้วยท่าทีนอบน้อม
หวังหลินมาถึงก็เห็นฉากเช่นนี้ โดยรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ทำไมถึงต่อสู้กันเร็วขนาดนี้?
ดูจากสถานการณ์แล้ว เว่ยเชียนชิวดูเหมือนจะไม่เป็นท่าทางที่ดีนัก
เดิมที หวังหลินกำลังเดินทางด้วยความเร็วปกติ แต่เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นเขาก็เห็นชาวยุทธ์แท้ที่ปกป้องเขา พูดโดยไม่พูดอะไร ทันทีเร่งม้าวิ่งขึ้น ราวกับกำลังรีบไปเกิดใหม่สิ
เกรงว่าจะถูกทิ้งไว้ หวังหลิน ร้องออกมาด้วยความตกใจ
ติดตามสอบถามจากชาวยุทธ์แท้ หวังหลินได้รู้จากปากนักรบบริสุทธิ์ว่า เสียงระเบิดเมื่อครู่คือสัญญาณขอความช่วยเหลือที่เว่ยเชียนชิวปล่อยออกมา
นี่เป็นเรื่องแปลก
เว่ยเชียนชิวเก่งกาจในศิลปะการต่อสู้ ถึงกับร้องขอความช่วยเหลือ?
ด้วยแรงจูงใจที่แปลกหวังหลินจึงติดตามชาวยุทธ์แท้มาที่นี่ โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด แต่กลับถูกสถานการณ์ตรงหน้าทำให้ตกใจไม่น้อย
ดูจากท่าทางของเว่ยเชียนชิวแล้ว เห็นได้ชัดว่าสู้ไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง เซียวเฉวียนก็ดูดุร้าย เห็นได้ชัดว่าต้องการชีวิตของเว่ยเชียนชิว
ฮือ ๆ ๆ
พอมาถึงก็เจอกับสถานการณ์ที่อันตรายขนาดนี้
ตามคำพูดของหวังหลิน เขาทำอะไรไม่ได้เลย เว่ยเชียนชิวไม่ควรเรียกเขามาจริงๆ
รัฐมู๋อวิ๋นเดิมทีก็วุ่นวายอยู่แล้ว เมื่อรวมกับเซียวเฉวียนแล้ว ก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก หวังหลินมาที่นี่ ก็เท่ากับเป็นการส่งตัวเองไปตาย
หวังหลินลงจากหลังม้าด้วยความเก้ ๆ กังๆ เดินตัวสั่นไปยังเว่ยเชียนชิวพูดจาไม่ชัด “ท่าน ท่านเจียนกั๋ว ท่านมาแล้ว”
แม้มาแล้ว ก็ไม่สามารถถอยหนีได้ แม้ว่าจะไม่สามารถต่อสู้ได้ หวังหลินก็ต้องแข็งใจขึ้น เขาตัวสั่นเหมือนตะแกรง ยืนขวางเว่ยเชียนชิว ทำท่าทีจงรักภักดีปกป้องเจ้านาย ถามเซียวเฉวียน “เซียวเฉวียน! เจ้ากล้า! ทำร้ายใต้เท้าเจียนกั๋วงั้นรึ?”
ได้ยินเสียงของหวังหลิน ชัดเจนว่ายังสั่นไหวอยู่
แค่ความกล้าแค่นี้ ก็ยังจะอวดตัวเป็นฮีโร่อยู่อีกหรือ?
เซียวเฉวียนมองหวังหลินด้วยท่าทางดูถูก หลินจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...