จากที่หยดน้ำหยาดลงมาโปรยๆ กลับเปลี่ยนเป็นถล่มลงมารุนแรง เห็นได้ชัดว่ากลบกำลังไฟได้ไม่มิด
ภายใต้การสนับสนุนของแรงลม ไฟก็พลันเปลี่ยนทิศทาง แรงไฟขนาดใหญ่พุ่งผลาญมาทางเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนรีบลากระยะห่าง
เดิมทีเซียวเฉวียนคิดว่าพอลมพัดครั้งนี้ก็จะหยุดลง จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่า ลมไม่เพียงจะไม่หยุด แต่กลับพัดโบกขึ้นมารุนแรงขึ้น
พระเจ้า!
ลมชั่วร้าย!
ทว่า ภายหลังจากที่ขอบเขตของไฟนั้นยิ่งขยายวงกว้างขึ้น เมฆหมอกที่ล้อมอยู่ในไม่กี่ลี้นี้ก็พลันหายไปไม่น้อย
เฮยหลังเองก็มองเห็นชัดเจนว่ากระแสเพลิงนั้นยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านราชครู” เฮยหลังเงาร่างหายไป มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเซียวเฉวียน พลางใช้มือหักกิ่งไม้ออกเพื่อปัดไล่กระแสไฟที่ค่อยๆ ขยายเข้ามา ด้านหนึ่งก็พูดว่า “ไม่อย่างนั้นบ่าวจะหาคนมาดับไฟให้”
กลางป่าเขารกร้างห่างไกล เฮยหลังเองก็รู้ว่าหากยังปล่อยให้ไฟไหม้ต่อไปเช่นนี้ ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาแล้ว
แต่ว่า เฮยหลังเองก็รู้ว่า การกลับไปกลับมาเช่นนี้แล้วยังต้องรอให้คนมาช่วยดับ ไม่แน่ว่าเพลิงนี้จะไหม้ไปถึงตรงไหแล้ว
พอถึงเวลานั้น ต่อให้มีคนมาก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้แล้ว
กลับกันเป็นตัวเซียวเฉวียนที่เอ่ยอย่างสงบนิ่งว่า “ไม่จำเป็น”
“ภาพวาดอรุณรุ่ง ลงแรงให้หน่อย!” เซียวเฉวียนคำรามใส่ภาพวาดอรุณรุ่ง
เซียวเฉวียนเพิ่งจะเอ่ยจบ ภาพวาดอรุณรุ่งหมุนตัวอย่างงดงามครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นหยาดน้ำขนาดใหญ่ประมาณเม็ดถั่วก็ตกลงมาอย่างแน่นหนาทั่วพื้นที่ไปหมด
จนใจแต่ว่าทิศทางลมนั้นกลับรุนแรงมากขึ้น หยาดฝนเพิ่งจะตกลงไปครึ่งหนึ่งก็ถูกลมพัดเอนไปด้านข้างจำนวนมาก ที่เหลือนั้นก็ตกบนบริเวณที่ไฟกำลังไหม้อยู่ ทว่าน้ำจำนวนเพียงประมาณหนึ่งถัง ไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากมายสำหรับการดับไฟ
โอ้ เจ้าลมนี่ก็เหมือนมีปีศาจดลเสียจริง?
เซียวเฉวียนเป็นคนเพียงคนเดียวที่มาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด แนน่นอนว่าเขาไม่เชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ และเห็นได้ชัดว่า มีคนที่คอยบงการทุกอย่างตรงนี้อยู่เบื้องหลัง
น่าสนใจนัก
เซียวเฉวียนอยากจะเห็นเสียจริงๆ สุดท้ายแล้วเป็นใครที่จงใจกลั่นแกล้งรังแก
คิดแล้ว เซียวเฉวียนก็พูดว่า “เฮยหลัง เดินไปไกลๆ หน่อย”
เฮยหลังยังคงไม่เข้าใจ แต่ว่าก็ยังทำตาม เขาเดินห่างออกไปอย่างรวดเร็วฉับไว
เซียวเฉวียนหันหน้ามามอง ทำท่าเหมือนจะหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ก็แค่เรียกให้เฮยหลังเดินห่างออกไปไกลหน่อยก็เท่านั้น ดูซิ
เขาเดินห่างออกไปไกลโยชน์ราวกับคนละโลก รักษาระยะห่างกับเซียวเฉวียนมากทีเดียว
คล้ายเขามีลางสังหรณ์ที่จะหลบเซียวเฉวียนเหมือนหลบเทพโรคระบาดก็ไม่ปาน
คนโบราณพวกนี้...ช่างน่าเอ็นดูเสียจริงๆ
เซียวเฉวียนค่อยๆ ขยับออกห่างจากกระแสเพลิงนิดหน่อย เขาคำถามว่า “ภาพวาดอรุณรุ่ง ออกมาหน่อย”
ภาพวาดอรุณรุ่งให้ความร่วมมือโดยช่วยเขาสยบไฟ
เมื่อเห็นภาพวาดอรุณรุ่งสยบความร้อนลงไปพอสมควรแล้ว เซียวเฉวียนก็โบกมือ จากนั้นก็วาดเส้นโค้งขนาดใหญ่ออกมาพลางเอ่ยเสียงเย็น “ไปเถอะ!”
หลังจากนั้นเซียวเฉวียนก็สร้างปราการขึ้น จากนั้นก็วาดวงล้อมสร้างอาณาเขตกักบริเวณที่ไฟลุกและภาพวาดอรุณรุ่งไว้ด้วยกัน
“ให้สายลมแรงพัดต่อ พัดแรงๆ พัดไปเรื่อยๆ!” ภายในใจของเซียวเฉวียนกลับคิดถึงบทกลอนนี้ขึ้นมาอย่างเหมาะเจาะพอดี
ฮ่าๆๆ!
ภายในปราการนั้น ปลายพระเพลิงยังคงเผาผลาญกวาดไปทั่วทิศ ต้นไม้เองก็ไหวเอนไม่หยุด ดูไปแล้วสายลมน่าจะรุนแรงมากจริงๆ
ทว่าหยาดฝนของภาพวาดอรุณรุ่งก็ตกหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ คล้ายกับห่าฝนที่เทลงมา สาดซัดลงมาอย่างรุนแรง
กระแสเพลิงดูไปแล้วอ่อนด้อยเล็กน้อย แต่ว่าผลนั้นกลับไม่ได้ดีอะไรไปมากมายนัก ไม่เหมือนกับที่เซียวเฉวียนคะเนเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...