ตอน บทที่ 1380 เสียเที่ยว จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1380 เสียเที่ยว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เมื่อเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้ามาถึงที่เมืองชานถัง และมาถึงสถานที่ที่ฉินเฟิงพูดถึง พวกเขาก็พบว่าสถานที่นั้นว่างเปล่า
เหมิงเอ้าก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ:"นายท่าน ท่านคิดว่าฉินเฟิงได้โกหกพวกข้าหรือไม่?"
โดยปกติแล้วฉินเฟิงก็ไม่ชอบเซียวเฉวียนอยู่แล้ว และมองว่าเซียวเฉวียนเป็นหนามยอกอก เหมิงเอ้าคิดว่าเขาจะใจดีขนาดนี้ได้อย่างไรและบอกเซียวเฉวียนถึงที่อยู่ของกองทัพชาวยุทธ์แท้ได้อย่างไร
เขารู้ที่อยู่ของกองทัพและเขาก็รีบเร่งไปสร้างคุณประโยชน์ เขาจะบอกให้เซียวเฉวียนอย่างใจดีได้อย่างไร เขาจะปล่อยให้เซียวเฉวียนแย่งงามความดีไปได้อย่างไร?
คำพูดเหล่านี้เหมิงเอ้าเคยเอ่ยถึงกับเซียวเฉวียนในระหว่างการเดินทางแล้ว
แต่เซียวเฉวียนช่วยฉินเฟิงพูด:"ไม่ หากเขาต้องการสร้างคุณประโยชน์ เขาก็ไม่มีความสามารถนี้ เพราะตอนนี้เขากำลังต้องทำความดีเพื่อลดล้างโทษอยู่และเขาไม่กล้าทำด้วย"
แม้ว่าคำพูดจะเป็นเช่นนี้ แต่อยู่ในสายตาของเหมิงเอ้าแล้วคนอย่างฉินเฟิงนั้นไม่มีเหตุผลเลย เขาสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อกำจัดเซียวเฉวัยน
เหมิงเอ้าได้เอ่ยถึงคำพูดนี้อีกครั้ง และคำตอบของเซียวเฉวียนก็ยังคงเหมือนเดิม
ฉินเฟิงได้ทำตามคำสั่งของฮาองเต้แล้ว เป็นสายลับอยู่รอบๆตัวเว่ยเชียนชิว นั่นหมายความว่าเขายังคงมีสติและคำนึงถึงตระกลูฉิน
เขาต้องการทำความดีหักล้างความผิดของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องทำหน้าที่ให้ดี
อีกอย่าง ด้วยความสามารถของฉินเฟิง เขาไม่สามารถเอาชนะเว่ยเชียนชิวเพียงลำพังได้ และไม่สามารถเอาชนะนักปราชญ์ได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยืนนิ่งหรือขอความช่วยเหลือ
ในเวลานี้ มีร่างหนึ่งล้มลงกับพื้น และทันใดนั้นเสียงของผู้หญิงของเจิ่นฮ่าวก็ดังขึ้น:"ท่านพี่เซียว พูดตามตรง ข้าคิดว่าฉินเฟิงครั้งนี้ไม่มีอะไรอื่นอยู่ในใจ"
นัยยะนอกเหนือคำพูด ฉินเฟิงหวังว่าจะจัดการกองทัพชาวยุทธ์แท้ได้
อย่างไรแล้ว หากกองทัพที่ทรงพลังเช่นนี้ตกอยู่ในมือของชาวซินเจียง ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ
อั้ยยะ!
หลังจากที่เจินฮ่าวเปิดปากพูด เหมิงเอ้าก็อดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งร่างกาย หัวใจและจิตวิญญาณของเขาก็สั่นสะท้าน
เดิมทีเสียงของเจี้ยนจงนั้นก็มีความเป็นหญิงมากพอแล้ว แต่คิดไม่ถึงเสียงของเจินฮ่าวนั้นยิ่งทำให้คนอื่นรับไม่ไหว
นึกแล้วเชียว ดังที่เซียวเฉวียนกล่าวไม้ แน่นอนว่าไม่มีดีที่สุด มีแต่โคตรดีมากกว่าเท่านั้น
เหมิงเอ้ามีคิ้วหนาและตาโต จ้องมองตรงไปที่เจินฮ่าว
สำหรับเจินฮ่าว เขาเหลือบมองไปที่เหมิงเอ้า และยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า:"ท่านนี้คือเหมิงเอ้าใช่ไหม?"
ว่ากันว่าเซียวเฉวียนมีผู้อารักขาสองคน คนหนึ่งคือไป๋ฉี่ และอีกคนคือเหมิงเอ้า
ขณะที่อยู่ในรัฐมู่อวิ๋น เจินฮ่าวได้ถามไป๋ฉี่เกี่ยวกับสถานการณ์ในจวนเซียวบ่อยครั้ง และไป๋ฉี่ก็บอกความจริงด้วย
ในคำอธิบายของไป๋ฉี่ เหมิงเอ้าเป็นผู้ชายที่รูปร่างใหญ่และล่ำมีคิ้วหนาและตาโต เวลาพูดเสียงดัง และเขาชื่นชมเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก
เมื่อมองดูรูปลักษณ์ของเหมิงเอ้าแล้ว ฟังเสียงของเหมิงเอ้าและมองดวงตาของเหมิงเอ้าที่มองไปยังเซียวเฉวียนนั้น ดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่งประกาย สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับบรรยายของไป๋ฉี่มาก
ดังนั้น เจินฮ่าวจึงสรุปว่าบุคคลนี้คือเหมิงเอ้า
ก่อนที่เหมิงเอ้าจะแนะนำตัวเองก็มีคนจำเขาได้ แสดงว่าอยู่ข้างนอกเขาก็มีชื่อเสียงอยู่บ้าง เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เหมิงเอ้าก็ยิ้มอย่างโง่ๆและพูดว่า:"เป็นข้าน้อยเองขอรับ ท่านคือ?"
“ข้าคือเจินฮ่าว”เจินฮ่าวยิ้มบางๆ
เจินฮ่าว?
เหมิงเอ้ากล่าวว่า:"ท่านก็คือรองแม่ทัพของรัฐมู่อวิ๋น?"
ในเวลาเดียวกัน เหมิงเอ้าก็พึมพำอยู่ในใจ:"ข้าก็คิดว่าเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ไม่คาดคิดเลยว่าจะสวยได้ขนาดนี้"
เซียวเฉวียนที่สามารถอ่านข้อความจากใจของเหมิงเอ้าได้ก็ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า:"เหมิงเอ้า เจ้าอย่าดูถูกหมิ่นประมาทคุณชายเจิน หน้าตางามเลิศล้ำของท่าน ถ้าท่านไปที่สนามรบ ความสวยของท่านสามารถทำให้กองทหารศัตรูหลงใหลตายกันเป็นแถวได้ และท่านคืออาวุธที่เฉียบคม แต่ว่าศิลปะการต่อสู้ของคุณชายเจินก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน”
เมื่อเหมิงเอ้าได้ยินสิ่งนี้ก็พยักหน้าและพูดว่า:"นายท่านพูดถูก"
เมื่อเจินฮ่าวได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียนแล้ว เขาคิดว่าเซียวเฉวียนกำลังชมเขาอยู่ เขายิ้มอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัวและพูดว่า:"ท่านพี่เซียวก็ชมเกินไป เมื่อเทียบกับท่านพี่เซียวแล้ว แตกต่างกันมาก"
แตกต่างกันมากก็แตกต่างกันมาก ได้รับคำชมจากเซียวเฉวียน เจินฮ่าวก็มีความพอใจอย่างยิ่ง
มีวิสัยทัศน์ที่ดี
เจินฮ่าวยิ้มเบาๆและพูดว่า:"ถูกต้อง"
แต่เจินฮ่าวก็จองมองชิงหลงด้วยท่าทางการสังเกตและประเมินอย่างอย่างละเอียดด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนแห่งเขาคุนหลุน และการได้พบเห็นครั้งนี้ ยังเป็นชิงหลงองค์ชายแห่งเทือกเขาคุนหลุน
ช่างโชคดีจริงๆ
ในเวลานี้ เสียงของเหมิงเอ้าก็ได้ขัดจังหวะของทั้งสอง:"ใต้เท้าชิงหลง ทำไมท่านถึงกลับมาที่นี่?"
ชิงหลงจึงรีบวกเข้าหาเรื่องเดิม:"ข้าติดตามตามหานักปราชญ์และหมิงเจ๋อมาถึงที่นี่"
โดยไม่คาดคิดว่าเมื่อมาถึงก็ไม่เห็นร่องรอยของสองคนนั้นเลย แต่ได้พบกับพวกเซียวเฉวียนสามคนแทน
เซียวเฉวียนยังไม่ได้ตอบคำถามของชิงหลง ทำไมเขาถึงมาที่เขตภูเขาที่อยู่ห่างไกลความเจริญกะทันหัน?
ชิงหลงมองไปที่ฌวียวเฉวียนด้วยความสงสัย รอให้เซียวเฉวียนตอบคำถามของเขา
เซียวเฉวียนพูดอย่างใจเย็น:"ได้ยินมาว่ากองทัพของชาวยุทธ์แท้อยู่ที่นี่เลยมาดู"
จากนั้นก็ตามที่เห็นเลย..
แต่ว่าคำพูดของชิงหลง ทำให้เซียวเฉวียนเข้าใจว่า ทำไมกองทัพของชาวยุทธ์แท้จึงหายตัวไป
คงจะเป็นนักปราชญ์และหมิงเจ๋อมาแล้ว
นักปราชญ์รู้ว่าชิงหลงกำลังตามหาเขาและหมิงเจ๋อ หากไม่รีบย้ายที่ เมื่อถึงเวลานั้นหากถูกชิงหลงไล่ตามเขาถึงที่ จะไม่เพียงแต่เปิดเผยที่อยู่ของเขาเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ชิงหลงค้นพบที่อยู่ของกองทัพชาวยุทธ์แท้ได้ด้วย
นักปราชญ์จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแน่นอน
ดังนั้น นักปราชญ์จึงรีบหาที่ซ่อนก่อนที่ชิงหลงจะไล่ตามพวกเขาถึงที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...