คนผู้นี้ พอมีอารมณ์ก็ไม่ค่อยมีแรงจูงใจ
พวกเขาคิดไม่ออก พวกเขาเพิ่งออกมาจากหุบเขารัฐมู่อวิ๋น หลังจากได้พักผ่อนสักพัก พวกเขาก็ต้องเริ่มเดินอีกครั้ง เพราะเหตุใดกัน?
ชาวยุทธ์แท้มีจิตใจที่เรียบง่าย ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่รู้ว่านักปราชญ์กังวลอะไร
ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงใช้หัวใจของตนเอง ในการได้ใจของนักปราชญ์เท่านั้น
ในสายตาของพวกเขา ไม่จำเป็นต้องทรมานดังกล่าวจริงๆ
ดูสิ เมื่อพวกเขาติดตามเว่ยเชียนชิวในอดีต พวกเขาอยู่ในหุบเขานั้นมานานกว่าสิบปีแล้ว และไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย?
ไม่นานหลังจากติดตามนักปราชญ์ พวกเขาก็ปีนภูเขามากขึ้นและเดินทางมากกว่าที่เคยเป็นมารวมกัน
เนื่องจากอารมณ์ ก้าวของกองทัพชาวยุทธ์แท้จึงหนักมากกว่าเดิม ราวกับว่าพวกเขาไม่สามารถยกเท้าของพวกเขาขึ้นได้
ไม่ต้องพูดถึงกองทัพชาวยุทธ์แท้ แม้แต่หมิงเจ๋อก็ยังมีอารมณ์ขึ้นแล้ว
เขาหมดแรงจริงๆ แถมพิการด้วย การเดินทางผ่านภูเขาป่าลึกก็ไม่สะดวกนัก ใบหน้าของเขาถูกกิ่งไม้และหญ้าข่วนหลายครั้งตามริมถนน ดูทุลักทุเลใจจริงๆ...
หมิงเจ๋อเกิดมาในตระกูลราชวงศ์ เขาเติบโตมาด้วยการกินอยู่ที่ดี เดินทางด้วยม้าหรือรถม้า ทำไมเขาถึงเดินทางไกลมากมายขนาดนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางเขาต้องได้รับการพยุงจากชาวยุทธ์แท้ที่ผลัดปลี่ยนไปมา ซึ่งเป็นการเยาะเย้ยอย่างไร้เสียงสำหรับหมิงเจ๋อผู้ซึ่งโดดเด่นและมีเกียรติมาโดยตลอด
ต่อหน้าคนบนโลก เขาเป็นคนพิการที่เดินไม่เก่งด้วยซ้ำ
เขาไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากคนอื่น เขาไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และเขาไม่มีความสามารถที่จะเป็นอิสระได้
เขาเป็นคนไร้ประโยชน์
แม้ว่ามีวรยุทธ์ แต่ก็ไร้ประโยชน์
ท้ายที่สุดแล้ว จะไม่มีใครยืนอย่างเชื่อฟังต่อหน้าเขาและปล่อยให้เขาฆ่า
แม้ว่าการได้ยินของเขาจะไวกว่าเมื่อก่อนมาก และเขาสามารถระบุตำแหน่งของคนอื่นๆ ตามเสียงของพวกเขาได้ แต่นี่มีไว้สำหรับผู้ที่มีวรยุทธ์โดยเฉลี่ยเท่านั้น
หากเขาพบกับคนที่มีศิลปะการต่อสู้ที่เหนือกว่าเขา เขาจะยืนหยัดและถูกฆ่าเท่านั้น
หัวใจของหมิงเจ๋อเจ็บปวดเมื่อเขาคิดว่าเขาไร้ประโยชน์มาก และไร้ประโยชน์มากกว่าเซียวเฉวียนเมื่อก่อนด้วยซ้ำ
ในไม่ช้า ความเจ็บปวดนี้ก็เต็มไปด้วยความโกรธ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นความเกลียดชังที่มีต่อเซียวเฉวียน!
เมื่อคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเขาอีกครั้งหมิงเจ๋อก็โกรธมากจนหมดสติ ล้มลงบนตัวชาวยุทธ์แท้ที่คอยพยุงเขา
เดิมชาวยุทธ์แท้ก็เหนื่อยพอแล้ว และเมื่อหมิงเจ๋อพิงเขาแบบนี้ เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป จุดศูนย์ถ่วงของเขาไม่เสถียรและเขาเกือบจะล้มไปข้างหลัง
หากไม่ใช่เพราะชาวยุทธ์แท้มีประสาทสัมผัสที่ว่องไว โดยคว้าต้นไม้เล็กๆ ข้างทางด้วยมือเดียวมิเช่นนั้นชาวยุทธ์แท้คงจะถูกหมิงเจ๋อล้มทับไปแล้ว
"นายท่าน หมิงเจ๋อเป็นลมไปแล้ว!" ท้ายที่สุดแล้ว หมิงเจ๋อเป็นผู้ที่นักปราชญ์พามา และนักปราชญ์ก็ออกคำสั่งให้ชาวยุทธ์แท้ดูแลหมิงเจ๋ออย่างดี ชาวยุทธ์แท้ไม่กล้าที่จะละเลย และแจ้งให้นักปราชญ์ทราบทันที
นักปราชญ์ได้ยินเสียงจึงสั่งว่า: "ทุกคนจัดการในที่ของตน พักสักหน่อย"
ในขณะนี้ ทุกคนมีความสุขมากเพราะในที่สุดพวกเขาก็ได้พักผ่อนสักพักแล้ว
เดิมที หากนักปราชญ์ยังคงปฏิเสธที่จะให้พวกเขาพักผ่อน กองทัพชาวยุทธ์แท้ก็พร้อมที่จะประท้วงแล้ว
นักปราชญ์เข้ามาหาหมิงเจ๋อทันทีและตรวจชีพจรของหมิงเจ๋อ
เมื่อพบว่าชีพจรของหมิงเจ๋ออ่อนแอมาก นักปราชญ์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในเวลานี้ จะทำให้กำหนดการของกองทัพชาวยุทธ์แท้ล่าช้าออกไป
หากชิงหลงตามมาทัน เบาะแสของกองทัพชาวยุทธ์แท้จะส่งไปยังหูของเซียวเฉวียนโดยชิงหลงอย่างแน่นอน
ถ้าเซียวเฉวียนไล่ตามพวกเขา ทั้งกองทัพชาวยุทธ์แท้และนักปราชญ์จะต้องจบสิ้นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...