ตอน บทที่ 1395 สอบสวนสาเหตุการตาย จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1395 สอบสวนสาเหตุการตาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พูดแล้วทำเลย เด็กดีจริง ๆ
แต่สำหรับภาพชุนเซี่ยวที่กล่าวถึงโดยเหมิงเอ้า เจิ้งฮ่าวยังไม่เคยเห็นเลย เขาอยากรู้จริงๆ ว่าภาพชุนเซี่ยวเป็นสมบัติล้ำค่าอะไร
เขามองดูเซียวเฉวียนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านพี่เซียว เป็นไปได้ไหมที่พี่จะให้ข้าเปิดหูเปิดตาหน่อย”
เซียวเฉวียนตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้สิ”
พูดจบ เขาตะโกน “ภาพชุนเซี่ยว ออกมา!”
พอสิ้นคำพูดของเซียวเฉวียนภาพชุนเซี่ยวก็พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขาอย่างฉับพลัน ลอยอยู่กลางอากาศอย่างสง่างาม
เจิ้งฮ่าวเงยหน้าขึ้นมอง ตาก็สว่างวาบ
ในโลกนี้ยังมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้อยู่ด้วย ไม่เพียงแต่จะเข้าใจคำพูดของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังสามารถออกมาเองและบินอยู่บนอากาศได้
นี่...นี่ภาพวาดกลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือนี่?
แต่สมบัติล้ำค่าแบบนี้ เซียวเฉวียนได้มาได้อย่างไร?เจิ้งฮ่าวก็อยากได้ภาพวาดแบบนี้บ้าง
เจิ้งฮ่าวพูดด้วยใบหน้าอ้อนวอน “ท่านพี่เซียว ภาพวาดนี้ ท่านบอกข้าได้ไหม หาได้จากที่ไหน?”
เซียวเฉวียนได้ยินแล้วยิ้ม นึกว่าเจิ้งฮ่าวคิดว่าเป็นสมบัติหาง่าย
เด็กคนนี้ น่าจะอยู่ในรัฐมู่อวิ๋นอย่างโดดเดี่ยว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพชุนเซี่ยวเป็นสมบัติ
ก็จริงอยู่ ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของคุนหลุน กาลเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ มันก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว และตำนานนี้ก็เกือบจะจมหายไปในสายธารแห่งประวัติศาสตร์
อย่าว่าแต่เจิ้งฮ่าวที่มาจากรัฐมู่อวิ๋นเลย แม้แต่บนภูเขาคุนหลุน ซึ่งเป็นที่มาของภาพชุนเซี่ยว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนรู้จักภาพชุนเซี่ยวไม่มากนัก
ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงให้ความรู้แก่เจิ้งฮ่าวเกี่ยวกับภาพชุนเซี่ยว และมอบความรู้เกี่ยวกับพู่กันเฉียนคุนให้ด้วย
ความรู้ครั้งนี้ทำให้เจิ้งฮ่าวรู้สึกว่าได้ฟังเรื่องราวเทพนิยาย
ภาพชุนเซี่ยวสามารถจุสิ่งมีชีวิตในโลกได้ หรือแม้แต่พู่กันเฉียนคุนก็สามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจได้
ที่สำคัญคือ ในความเข้าใจของเจิ้งฮ่าว เซียวเฉวียนไม่ได้ใช้อาวุธวิเศษเหล่านี้เลย แต่เขาก็เก่งกาจจนทำให้เจิ้งฮ่าวอ้าปากค้าง ถ้าเขาใช้อาวุธวิเศษทั้งสองนี้ล่ะ ฉากจะเป็นอย่างไร?
ฉากการต่อสู้ของเทพเซียนก็คงไม่ต่างจากนี้หรอก?
ว้าว ๆ!
เจิ้งฮ่าวอดไม่ได้ที่จะประเมินเซียวเฉวียนใหม่อีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพที่อธิบายไม่ถูก
เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะติดตามเซียวเฉวียนพื่อเปิดหูเปิดตา
ไม่ว่าจะทำอะไร รัฐมู่อวิ๋นมีไป๋ฉี่และอู๋อิ่งอยู่ ไม่มีอะไรที่จัดการไม่ได้
ดังนั้น เจิ้งฮ่าวจึงพูดว่า “ท่านพี่เซียว ท่านเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ ท่านช่วยพูดดีกับฮ่องเต้เพื่อถอดถอนตำแหน่งของข้าได้ไหม”
เซียวเฉวียนเคยเห็นคนพยายามหาตำแหน่งมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นคนไม่ต้องการดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพมาก่อน
ตำแหน่งรองแม่ทัพนะ ตำแหน่งที่นักรบมากมายปรารถนา
เจิ้งฮ่าวกลับทิ้งมันไปเหมือนเศษผ้า
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนก็มีความคิดที่จะรับเเจิ้งฮ่าวเข้าสู่จวนเซียว และพอดีกับที่เจิ้งฮ่าวก็ไม่ต้องการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น มันก็เป็นเรื่องดี
เซียวเฉวียนพูดว่า “ได้สิ ข้าจะพูดถึงเรื่องนี้กับฮ่องเต้เมื่อกลับถึงเมืองหลวง”
เจิ้งฮ่าวได้ยินคำตอบที่ชัดเจนเช่นนี้ ตื่นเต้นมาก “ขอบคุณท่านพี่เซียว ต่อไปข้าจะติดตามท่านพี่เซียวแล้ว”
มีอีกหนึ่งคนที่ติดตามเซียวเฉวียนอีกแล้ว เมื่อเห็นสายตาที่เจิ้งฮ่าวทองเซียวเฉวียน เหมิงเอ้าก็รู้สึกไม่พอใจอย่างชัดเจน
เขารู้สึกว่าเจิ้งฮ่าวมาแย่งเซียวเฉวียนที่เป็นไอดอลของเขา
สายตาที่เจิ้งฮ่าวมองเซียวเฉวียน ในฐานะที่เป็นแฟนตัวยงของเซียวเฉวียน เหมิงเอ้าคุ้นเคยกับสายตาแบบนี้เป็นอย่างดี เขามองเซียวเฉวียนด้วยสายตาแบบนี้ทุกวัน
ฮือ ๆ ๆ
เซียวเฉวียนที่เป็นไอดอลของเหมิงเอ้าในตอนแรกเป็นเพียงเหมิงเอ้าคนเดียว แต่ตอนนี้ทุกคนก็มาแย่งไอดอลกัน
ส่วนสวีซูผิงก็นั่งนิ่งๆ มองฮ่องเต้กำลังครุ่นคิดอยู่
กระดานหมากรุกนี้ในสายตาของฮ่องเต้ดูราวกับเป็นเกมที่ตัดสินชะตากรรมของเขา
วันนี้ที่ประชุมสภา เหล่าขุนนางบางคนนำโดยอู๋ฟาน ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนสาเหตุการตายของเว่ยเชียนชิวอย่างจริงจัง
และเหตุผลที่อู๋ฟานเรียกร้องให้สอบสวนนั้น กลับเป็นเพราะเขาได้ยินมาว่าเว่ยเชียนชิวถูกคนฆ่าตาย และคนร้ายก็คือฉินซูโหรวและเซียวเฉวียน
ฟังดูแล้วเรื่องแบบนี้ช่างเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ แต่เซียวเฉวียนก็มีโอกาสที่จะฆ่าเว่ยเชียนชิวได้เช่นกัน
และอู๋ฟานในฐานะผู้ตรวจการราชสำนัก มีหน้าที่ในการเสนอให้มีการสอบสวน
เขาสามารถใช้โอกาสนี้สร้างปัญหาให้กับเซียวเฉวียน และจวนเซียว พร้อมกันนั้น ก็สามารถใช้อำนาจของฮ่องเต้เพื่อค้นหาที่ตั้งของกองทัพชาวยุทธ์แท้
ด้วยที่อยู่ของกองทัพชาวยุทธ์แท้ อู๋ฟานจึงมีหนทางที่จะยึดครองกองทัพชาวยุทธ์แท้เป็นของเขาเอง
เมื่อถึงเวลานั้น เนื่องจากเขาเป็นผู้ตรวจการราชสำนัก และมีกองทัพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ฮ่องเต้คงจะค่อนข้างจะกลัวเขา
จากนั้นเขา อู๋ฟานเป็นผู้มีอำนาจสูง ด้อยกว่าคน ๆ เดียวและเหนือกว่าหมื่นคน
ในไม่ช้าเขาจะมีรัศมีภาพและความมั่งคั่งไม่รู้จบ
ปัจจุบันจวนฉินและจวนเซียว เป็นมือขวาของฮ่องเต้ หากอู๋ฟาน ต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเขาจะต้องถอดตัวเองออกจากมือขวาของฮ่องเต้ก่อน
เดิมที อู๋ฟานยังกังวลว่าไม่มีเหตุผลที่จะโจมตีตระกูลเซียวและตระกูลฉิน แต่บังเอิญวันหนึ่งเขาออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อน ๆ และบังเอิญได้ยินมีคนพูดถึงเว่ยเชียนชิว เมื่อฟังอย่างถี่ถ้วน พวกเขาบอกว่าเว่ยเชียนชิวจริงๆ แล้วถูกฉินซูโหรวและเซียวเฉวียนฆ่า
นี่เป็นข่าวดีสำหรับอู๋ฟานจริงๆ
ฉินซูโหรวและเซียวเฉวียนฆ่าเว่ยเชียนชิวฆ่าคนของราชวงศ์และเป็นขุนนางในราชสำนัก และไม่มีพระบรมราชโองการของฮ่องเต้ พูดอะไรก็ผิด
อู๋ฟานมั่นใจว่าฮ่องเต้ไม่ได้ให้คำสั่ง เพราะเว่ยเชียนชิวเป็นสมาชิกราชวงศ์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การตายของสมาชิกราชวงศ์โดยคนนอก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่งสำหรับราชวงศ์
หากสมาชิกราชวงศ์ทำผิดกฎหมาย มีความผิด ก็ควรได้รับการแก้ไขภายในราชวงศ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...