พูดแล้วทำเลย เด็กดีจริง ๆ
แต่สำหรับภาพชุนเซี่ยวที่กล่าวถึงโดยเหมิงเอ้า เจิ้งฮ่าวยังไม่เคยเห็นเลย เขาอยากรู้จริงๆ ว่าภาพชุนเซี่ยวเป็นสมบัติล้ำค่าอะไร
เขามองดูเซียวเฉวียนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านพี่เซียว เป็นไปได้ไหมที่พี่จะให้ข้าเปิดหูเปิดตาหน่อย”
เซียวเฉวียนตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้สิ”
พูดจบ เขาตะโกน “ภาพชุนเซี่ยว ออกมา!”
พอสิ้นคำพูดของเซียวเฉวียนภาพชุนเซี่ยวก็พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขาอย่างฉับพลัน ลอยอยู่กลางอากาศอย่างสง่างาม
เจิ้งฮ่าวเงยหน้าขึ้นมอง ตาก็สว่างวาบ
ในโลกนี้ยังมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้อยู่ด้วย ไม่เพียงแต่จะเข้าใจคำพูดของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังสามารถออกมาเองและบินอยู่บนอากาศได้
นี่...นี่ภาพวาดกลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือนี่?
แต่สมบัติล้ำค่าแบบนี้ เซียวเฉวียนได้มาได้อย่างไร?เจิ้งฮ่าวก็อยากได้ภาพวาดแบบนี้บ้าง
เจิ้งฮ่าวพูดด้วยใบหน้าอ้อนวอน “ท่านพี่เซียว ภาพวาดนี้ ท่านบอกข้าได้ไหม หาได้จากที่ไหน?”
เซียวเฉวียนได้ยินแล้วยิ้ม นึกว่าเจิ้งฮ่าวคิดว่าเป็นสมบัติหาง่าย
เด็กคนนี้ น่าจะอยู่ในรัฐมู่อวิ๋นอย่างโดดเดี่ยว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพชุนเซี่ยวเป็นสมบัติ
ก็จริงอยู่ ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของคุนหลุน กาลเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ มันก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว และตำนานนี้ก็เกือบจะจมหายไปในสายธารแห่งประวัติศาสตร์
อย่าว่าแต่เจิ้งฮ่าวที่มาจากรัฐมู่อวิ๋นเลย แม้แต่บนภูเขาคุนหลุน ซึ่งเป็นที่มาของภาพชุนเซี่ยว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนรู้จักภาพชุนเซี่ยวไม่มากนัก
ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงให้ความรู้แก่เจิ้งฮ่าวเกี่ยวกับภาพชุนเซี่ยว และมอบความรู้เกี่ยวกับพู่กันเฉียนคุนให้ด้วย
ความรู้ครั้งนี้ทำให้เจิ้งฮ่าวรู้สึกว่าได้ฟังเรื่องราวเทพนิยาย
ภาพชุนเซี่ยวสามารถจุสิ่งมีชีวิตในโลกได้ หรือแม้แต่พู่กันเฉียนคุนก็สามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจได้
ที่สำคัญคือ ในความเข้าใจของเจิ้งฮ่าว เซียวเฉวียนไม่ได้ใช้อาวุธวิเศษเหล่านี้เลย แต่เขาก็เก่งกาจจนทำให้เจิ้งฮ่าวอ้าปากค้าง ถ้าเขาใช้อาวุธวิเศษทั้งสองนี้ล่ะ ฉากจะเป็นอย่างไร?
ฉากการต่อสู้ของเทพเซียนก็คงไม่ต่างจากนี้หรอก?
ว้าว ๆ!
เจิ้งฮ่าวอดไม่ได้ที่จะประเมินเซียวเฉวียนใหม่อีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพที่อธิบายไม่ถูก
เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะติดตามเซียวเฉวียนพื่อเปิดหูเปิดตา
ไม่ว่าจะทำอะไร รัฐมู่อวิ๋นมีไป๋ฉี่และอู๋อิ่งอยู่ ไม่มีอะไรที่จัดการไม่ได้
ดังนั้น เจิ้งฮ่าวจึงพูดว่า “ท่านพี่เซียว ท่านเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ ท่านช่วยพูดดีกับฮ่องเต้เพื่อถอดถอนตำแหน่งของข้าได้ไหม”
เซียวเฉวียนเคยเห็นคนพยายามหาตำแหน่งมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นคนไม่ต้องการดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพมาก่อน
ตำแหน่งรองแม่ทัพนะ ตำแหน่งที่นักรบมากมายปรารถนา
เจิ้งฮ่าวกลับทิ้งมันไปเหมือนเศษผ้า
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนก็มีความคิดที่จะรับเเจิ้งฮ่าวเข้าสู่จวนเซียว และพอดีกับที่เจิ้งฮ่าวก็ไม่ต้องการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น มันก็เป็นเรื่องดี
เซียวเฉวียนพูดว่า “ได้สิ ข้าจะพูดถึงเรื่องนี้กับฮ่องเต้เมื่อกลับถึงเมืองหลวง”
เจิ้งฮ่าวได้ยินคำตอบที่ชัดเจนเช่นนี้ ตื่นเต้นมาก “ขอบคุณท่านพี่เซียว ต่อไปข้าจะติดตามท่านพี่เซียวแล้ว”
มีอีกหนึ่งคนที่ติดตามเซียวเฉวียนอีกแล้ว เมื่อเห็นสายตาที่เจิ้งฮ่าวทองเซียวเฉวียน เหมิงเอ้าก็รู้สึกไม่พอใจอย่างชัดเจน
เขารู้สึกว่าเจิ้งฮ่าวมาแย่งเซียวเฉวียนที่เป็นไอดอลของเขา
สายตาที่เจิ้งฮ่าวมองเซียวเฉวียน ในฐานะที่เป็นแฟนตัวยงของเซียวเฉวียน เหมิงเอ้าคุ้นเคยกับสายตาแบบนี้เป็นอย่างดี เขามองเซียวเฉวียนด้วยสายตาแบบนี้ทุกวัน
ฮือ ๆ ๆ
เซียวเฉวียนที่เป็นไอดอลของเหมิงเอ้าในตอนแรกเป็นเพียงเหมิงเอ้าคนเดียว แต่ตอนนี้ทุกคนก็มาแย่งไอดอลกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...