ชิงหลงเข้าใจความหมายของเซียวเฉวียนเขาสงสัยว่ามีคนจากเขาคุนหลุนกำลังก่อเรื่อง
ชิงหลงตอบว่า “ได้”
นอกจากนี้ ชิงหลง ก่อนหน้านี้ใช้ข้ออ้างว่าหลบหนีไปเขาคุนหลุน ผ่านไปหลายวันแล้ว เขาควรจะกลับไปบนเขาคุนหลุน มิฉะนั้นจะถูกท่านผู้เฒ่าสงสัย
ท่านผู้เฒ่ามักไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ระหว่างชิงหลงกับเซียวเฉวียน
เดิมทีเขาคิดว่า หากเซียวเฉวียนต้องการความช่วยเหลือจากเขาไปที่เมืองชานถัง เขาก็จะหาข้ออ้างไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเซียวเฉวียน ให้เขาอยู่ที่นี่เพื่อค้นหาเบาะแส เขาจึงอยู่ที่นี่
ส่วนเซียวเฉวียนฝ่ายนี้ ทำได้เพียงรอวันพรุ่งนี้ เพื่อติดตามฝูงอูฐลำต่อไป ดูว่าจะสามารถหาเบาะแสได้หรือไม่
ไม่คาดคิด ในวันรุ่งขึ้น ไม่มีใครพาอูฐผ่านเหมือนเมื่อวาน
ในเวลานี้ เซียวเฉวียนก็ยิ่งแน่ใจว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเขาคุนหลุน
มิฉะนั้น เมื่อชิงหลง กลับไปบนเขาคุนหลุน ฝูงอูฐตัวนี้จะหายไปได้อย่างไร?
หากบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เซียวเฉวียนไม่เชื่อ โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญมากมายขนาดนี้
เมื่อพบเบาะแสแล้ว เซียวเฉวียนส่งเสียงผ่านทางไกลให้ชิงหลง หาข้ออ้างออกไปจากเขาคุนหลุนก่อน แล้วค่อยแอบกลับเข้าไป
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็คือสร้างภาพลวงตาว่าชิงหลง ไม่ได้อยู่บนเขาคุนหลุน
เซียวเฉวียนต้องการให้ชิงหลงคอยสังเกตการณ์เคลื่อนไหวบนเขาคุนหลุนอย่างลับๆ
ดังนั้น ชิงหลง จึงคิดวิธีและดำเนินการตามคำแนะนำของเซียวเฉวียน หลบซ่อนตัวอยู่บนเขาคุนหลุน
แน่นอน ดังที่คาดไว้ ทันทีที่ชิงหลง ออกข่าวและออกจากเขาคุนหลุนในวันแรก เซียวเฉวียนก็ได้ยินเสียงกระดิ่งที่คุ้นเคย
ฝูงอูฐผ่านที่นี่อีกครั้ง
คราวนี้ เซียวเฉวียนไม่ได้ติดตามฝูงอูฐอีกต่อไป
เขาให้เหมิงเอ้า ลอบซุ่มโจมตีในที่ที่เคยตามหาฝูงอูฐครั้งล่าสุด
แต่เหมิงเอ้ารอครึ่งวันก็ไม่พบฝูงอูฐ
ยิ่งกว่านั้น เซียวเฉวียน บอกเหมิงเอ้า แล้วว่าฝูงอูฐได้ออกเดินทางแล้ว
นับเวลาแล้ว ช่วงนี้ก็น่าจะมาถึงแล้ว
เขาจึงติดต่อกับเซียวเฉวียนทางจิตวิญญาณ และพูดว่า “นายท่าน รอมานานขนาดนี้แล้ว ข้ายังไม่เห็นฝูงอูฐมาเลย”
พอได้ยินอย่างนี้ เซียวเฉวียน ก็รู้สึกว่าเรื่องไม่เข้าท่า
คนชุดดำคนนั้นมีโอกาสสูงที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติและเปลี่ยนสถานที่
ทิศทางคือทิศทางนั้น แต่เป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่ได้ส่งอูฐต่อไปยังจุดที่เหมิงเอ้า ซุ่มอยู่
ประมาทเกินไป
เซียวเฉวียนควรจะติดตามไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไม่ติดตามทัน ก็ยังทำได้ในวันพรุ่งนี้
ส่วนนายอำเภอ ด้วยความกระหายที่จะได้อยู่กับหญิงงามอย่างเร่งด่วน หาเหตุผลให้เจิ้งอ่าว ไม่สามารถโต้แย้งได้ และจำต้องตามเขาไปที่ที่เขากล่าว
สถานที่ที่นายอำเภอ จัดให้เจิ้งฮ่าว อยู่ห่างจากเมืองไปหน่อย
แต่คฤหาสน์หลังนั้นสร้างได้ดี ดีกว่าจวนของนายอำเภอเสียอีก
แน่นอน นี่คือความรู้สึกที่ภายนอกของบ้านให้
เมื่อเข้าไปข้างใน ของตกแต่งในห้องนั่งเล่นก็ธรรมดามาก ไม่มีของตกแต่งที่มีค่ามากมาย
แต่เมื่อนายอำเภอพาเจิ้งฮ่าวมาที่ห้อง ประตูเปิดออก เกือบจะทำให้ตาของเจิ้งฮ่าวพร่ามัว
โอ้พระเจ้า!
ของตกแต่งในห้องนี้ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า ไข่มุก หินอ่อน หินหยก หยก เพชร และผ้าไหมชั้นดี ... มีทุกอย่าง
ถ้าไม่เห็นว่ามีเตียงและโต๊ะเก้าอี้วางอยู่ เจิ้งฮ่าวก็คิดว่านี่คือห้องเก็บของที่มีวัตถุมีค่า
แม้แต่เจิ้งฮ่าว ผู้ที่มองว่าเงินเป็นสิ่งสกปรก ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...