การสอบขุนนางระดับเคอจี่ที่ผ่านมา ข้อสอบของผู้เข้าสอบทั้งหมดจะถูกอ่านที่สำนักมนตรีพิธีการ
นับตั้งแต่โบราณกาลมาการสอบเกิดการฉ้อฉลขึ้นบ่ายครั้ง ขัดขวางเส้นทางของราชสำนักในการคัดเลือกคนที่โดดเด่น
เพื่อเปลี่ยนแปลงบรรยากาศในการสอบ ทำให้ระบบการสอบขุนนางระดับเคอจี่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ต้าเว่ยก็เลยสร้างขั้นตอนการตรวจข้อสอบที่รัดกุมมากขึ้น
ข้อแรกคือการแยกบรรจุปิดบังชื่อ คล้ายกับการปิดผนึกข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสมัยนี้
แม้ว่าข้อสอบจะถูกปิดผนึก ก็ยังมีผู้คุมสอบบางคนที่มีความกล้าอย่างไร้ยางอาย โกงโดยจดจำลายมือของผู้สอบ
ต้าเว่ยก็เลยจัดตั้งสำนักคัดลอก โดยให้ขุนนางเสมียนคัดลอกข้อสอบ ผู้คุมสอบพิจารณาข้อสอบฉบับคัดลอก วิธีเช่นนี้ ก็คือ"การถอดความข้อสอบ" ผลักดันข้อสอบปิดผนึกไปสู่จุดสูงสุด
เพื่อป้องกันนักคัดลอกก่อเหตุ จำนวนกระดาษที่ใช้ในการคัดลอกและสีของหมึกต้องเหมือนกัน ใช้ปากกาสีแดงเพื่อคัดลอกข้อสอบให้เป็นหนึ่งดียวกัน
หลังจากคัดลอกเสร็จสิ้น ยังต้องพิสูจน์อักษร โดยมีขุนนางอ่านเอาข้อสอบหมึกดำและข้อสอบหมึกแดงส่งมอบให้ผู้อ่านพิสูจน์อักษร ดูว่ามีการคัดลอกผืดพลาดหรือไม่
หลังจากพิสูจน์อักษรถูกต้องแล้ว ถึงจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อสอบ
แต่ขั้นตอนที่ดูเหมือนจะไม่ช่องโหว่ ภายใต้การแทรกแซงของอำนาจ ยังคงทำให้ลูกหลานผู้มีอำนาจยังมีโอกาส
ดังนั้นในปีนี้จึงมีรับสั่งพิเศษว่า ก่อนที่จะมีการจัดอันดับ จำเป็นต้องให้เฉาสิงจือดูก่อน แล้วค่อยตัดสินว่าใครคือผู้สอบได้คะแนนสูงสุด
หัวหน้าขุนนางผู้ใหญ่เก้าตำแหน่ง เสนาบดีสำนักมนตรีพิธีการทีมีชื่อว่าหยางเล่อ ระดับเดียวกันกับเฉาสิงจือ ถ้าการประเมินข้อสอบในวันนี้ ต้องให้เฉาสิงจือพิจารณาทีละคน ๆ แน่นอนว่าเขาไม่พอใจอย่างมาก
บวกกับผู้คุมสอบอีกสองคนที่พิจารณาข้อสอบเป็นคนของตระกูลจู ดังนั้นเฉาสิงจือคนเดียวจึงต้องรับมือศัตรูถึงสามคน กำหนดให้แยกจากกันยาก
แม้ว่าชื่อจะเลือนลาง แต่เฉาสิงจือก็สนใจข้อสอบของเซียวติ้ง
"เมื่อเป็นขุนนางชั้นสูงในราชสำนักควรเป็นห่วงประชาชน เมื่ออาศัยในที่ห่างไกลอย่าลืมใส่ใจความปลอดภัยของประเทศ........อย่างคำที่กล่าวว่า"เป็นกังวลล่วงหน้าก่อนคนใต้หล้าทั้งหลายจะกังวล มีความสุขภายหลังที่คนใต้หล้าทั้งหลายมีความสุขแล้ว ..........."
เฉาสิงจืออ่านข้อสอบฉบับนี้แล้ว มองปราดเดียวก็สามารถแยกแยะได้ว่า ข้อสอบของเซียวเฉวียนควรจะเป็นอันดับหนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...