สายฟ้าที่ปล่อยออกมาจากภาพชุนเซี่ยวนั้นมุ่งตรงไปยังค้างคาวอย่างแม่นยำ
ด้วยจำนวนที่มากเกินไปของค้างคาว เมื่อสายฟ้าผ่าลงมา ทำให้สามารถสังหารค้างคาวได้จำนวนไม่น้อย
ด้วยความรุนแรงของสายฟ้า ทำให้ค้างคาวจำนวนไม่น้อยถูกแผดเผา
หากไม่ใช่ค้างคาวที่น่ารังเกียจ เป็นหนูนาหรือปลาอะไรสักอย่าง หลังตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่ามันไม่มีพิษ เซียวเฉวียนก็สามารถนำมันมาใส่ผงปรุงรสและรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย
เสียงฟ้าผ่าตัดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง จำนวนของค้างคาวลดลงอย่างรวดเร็ว ค้างคาวกว่าเจ็ดส่วนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นพร้อมกับร่างกายที่ไหม้เกรียม
ส่วนค้างคาวที่เหลือ ราวกับสัมผัสได้ถึงอำนาจการทำลายของสายฟ้า พวกไม่พุ่งเข้ามาโจมตีเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าอย่างสุดชีวิตโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น
พวกมันเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการระบุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ มันจึงโจมตีเข้ามายังตำแหน่งที่เซียวเฉวียนและเหมิงเอ้ายืนอยู่อย่างไม่มีผิดพลาด
ดังนั้นการโจมตีมายังเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้า สำหรับพวกมันแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
พวกมันบินเข้ามาหาเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าอย่างดุเดือด
ทั้งสองคนชักดาบจิงหุนออกมาพร้อมกัน ฟันค้างคาวที่กำลังบินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
หนึ่งดาบสังหารค้างคาวได้เป็นจำนวนมาก ความเร็วในการเคลื่อนไหวของพวกเขาช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก
แต่ต่อให้พวกเขาเร็วแค่ไหน พวกเขาก็มีเพียงแค่สองมือ เมื่อวัดจากจำนวนแล้ว ทางฝั่งของค้างคาวดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขา
ดังนั้นฝ่ายที่ป้องกันจึงเป็นฝ่ายของพวกเขา ไม่ใช่ฝ่ายของค้างคาว
ประกอบกับจำนวนที่ลดลงของค้างคาว ทำให้พื้นที่บริเวณรอบเพิ่มขึ้น ค้างคาวสามารถโบยบินได้อย่างอิสระ ตอนนี้พวกมันบินกระจัดกระจายกันอยู่บนท้องฟ้า
ดังนั้นแม้ว่าจะมีสายฟ้าผ่าลงมา แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะโจมตีลงมาโดนค้างคาว ยังมีค้างคาวอีกจำนวนมากที่สามารถหลบหลีกการโจมตีของสายฟ้าได้
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ภาพชุนเซี่ยวไม่สามารถปกป้องเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าได้อีกต่อไป
เนื่องด้วยเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงจำเป็นต้องใช้ไม้เด็ดของเขาออกมา
เขาค้นหาบทกวีของหลี่ไป๋ กวีผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง 《เซี่ยเค่อซิง》:
จ้าวเค่อมาน หูหยิง อู๋โกวซวง เสวี่ยหมิง
อานม้าสีเงินส่องประกายบนม้าขาว ส่งเสียงเกือกย้ำพสุธาราวกับดาวตก
ฆ่าคนภายในสิบก้าว พันลี้ไม่เหลือร่องรอย
สิ้นเรื่องหนีหาย ซ่อนแยบคายเรื่องชื่อเสียง
เซียวเฉวียนพึมพำสี่วรรคนี้ออกมา ความหมายของสี่วรรคนี้ก็คือ อัศวินของจ้าวหยาน สวมพู่ทหารแห่งอัศวินไว้เหนือศีรษะ แขวนดาบอันเจิดจ้าของวู่เยว่ไว้ที่เอว
พวกเขาขี่ม้าขาวอานม้าสีเงิน และควบม้าไปตามถนนราวกับดาวตกบนท้องฟ้า
ศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมากจนสามารถฆ่าคนได้ภายในสิบก้าว พวกเขาสามารถเดินทางได้หลายพันลี้โดยไม่มีใครหยุดยั้งได้
พวกเขาเป็นวีรบุรุษผู้ชอบธรรม หลังจากจัดการเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ปฏิเสธที่จะทิ้งชื่อเสียงของพวกเขาเอาไว้
สี่วรรคนี้ หลี่ไป๋เขียนออกมาเกินความเป็นจริง เริ่มต้นที่เครื่องแบบที่อัศวินสวมใส่ ราวกับสิ่งที่เขาเขียนออกมานั้นไม่ใช่มนุษย์ อำนาจแห่งความแข็งแกร่งที่เขาเขียนออกมาเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของอัศวินนั้นมันเกินความที่จะจินตนาการถึง
เนื่องจากนักกวีนั้นไม่ได้เขียนเรื่องราวผ่านบทกวีที่เกินจริงออกมาเพราะประโยชน์ของสิ่งต่าง ๆ แต่เขาเขียนโดยคำนึงถึงแรงผลักดันจากจิตวิญญาณของผู้คน ด้วยความช่วยเหลือจากวัตถุจะแสดงความกล้าหาญและความเอื้ออาทรของเจ้าของ หลังจากเขียนทุกอย่างให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว นักกวีก็บรรยายถึงพฤติกรรมของอัศวินว่าพวกเขามีศิลปะการต่อสู้อันแข็งแกร่ง ไม่ได้แสวงหาชื่อเสียงและโชคลาภ ทำทุกอย่างโดยคำนึงถึงความยุติธรรมเป็นหลัก
แค่สี่บรรทัดนี้ก็เต็มไปด้วยจิตสังหารและเจตนาฆ่าที่รุนแรง
และเซียวเฉวียนก็พึ่งพาความแข็งแกร่งของมันในการใช้พู่กันเฉียนคุน
หลังจากที่บทกวีจบลง เซียวเฉวียนก็ตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น “จัดการมัน!”
พู่กันเฉียนคุนได้รับคำสั่ง พวกมันจึงเปล่งแสงออกมามากยิ่งขึ้น
แสงดังกล่าวมีไว้เพื่อการส่องสว่างเท่านั้น
และแสงจากบทกวี ถึงเป็นแสงแห่งการสังหารที่แท้จริง
และแสงสว่างดังกล่าวก็กระจัดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ค้างคาวไม่อาจขวางมันไว้ได้เลย
ดังนั้นภายใต้แสงที่สาดส่อง เมื่อค้างคาวถูกโจมตี มันก็ร่วงหล่นลงไปดิ้นอยู่บนพื้น
เห็นค้างคาวจำนวนมากร่วงหล่นลงพื้น เหมิงเอ้ายิ้มออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นพูดออกมาอย่างภาคภูมิ “คิดจะสู้กับนายท่านของข้า สิ่งที่รออยู่ก็มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือความตาย ความตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!”
เซียวเฉวียนเป็นใคร เขาคือคนที่สัมผัสกับกวีสมุทรคุนหลุน สามารถประณามคนไม่ดีและสิ่งที่ไม่ดีได้ทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษร
เขาคือผู้ที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ด้วยบทกวีเพียงบทเดียว!
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเหมิงเอ้าจะมีความสุขมากเกินไป
ดังสุภาษิตที่ว่า ความสุขสุดขั้วย่อมนำไปสู่ความโศกเศร้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...