สรุปเนื้อหา บทที่ 1411 กำลังเสริมมาแล้ว – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 1411 กำลังเสริมมาแล้ว ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เหมิงเอ้าพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง “นายท่าน นายท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เซียวเฉวียนกลอกตาขาวใส่เหมิงเอ้า จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเฉยเมย “ไม่เป็นไร”
ไม่เป็นไร?
นี่คือท่าทางของคนไม่เป็นอะไรงั้นหรือ?
แม้แต่ค้างคาวตัวเดียวยังจัดการไม่ได้
เหมิงเอ้าที่ไม่รู้อะไรก็คิดแค่ว่า ค้างคาวตัวนี้นั้นแข็งแกร่งและกล้าหาญกว่าค้างคาวทั่วไป
แต่เซียวเฉวียนคือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจของเหมิงเอ้า ด้วยตัวตนเช่นนี้ในใจของเขา แค่สังหารค้างคาวเพียงตัวเดียวยังทำไม่ได้ เช่นนี้จะดูเหมือนว่าไม่เป็นอะไรได้อย่างไร
ภายใต้ความสงสัยของเหมิงเอ้า เขายกดาบจิงหุนขึ้นมา ร่างกายของเขาหายไปจากที่เดิมราวกับสายฟ้า ฟันไปที่ค้างคาวตัวนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเซียวเฉวียนจริง ๆ หรือไม่
เขาไม่คาดคิดเลยว่าค้างคาวตัวนี้จะรวดเร็วและคล่องแคล่วถึงเพียงนี้ อย่าว่าแต่ฟันไปให้โดนมันเลย แค่เฉียดยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เอ๊ะ!
ก็แค่ค้างคาวเองไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงรับมือยากเสียยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก?
อย่างไรก็ตาม เหมิงเอ้ายังคงไม่เชื่อว่าเขาไม่สามารถจัดการกับมันได้!
เมื่อคิดอย่างนั้น เหมิงเอ้ายกดาบจิงหุนขึ้นมาอีกครั้งและโจมตีไปที่ค้างคาวตัวนั้นอย่างดุเดือด
ในขณะเดียวกัน เซียวเฉวียนเองก็โจมตีไปที่ค้างคาวตัวนั้นด้วย
ทั้งสองคนร่วมมือกันโจมตีออกไป ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวไปพร้อมกับค้างคาวราวกับสายลม
แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับค้างคาวได้
และตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เป้าหมายของค้างคาวก็คือเซียวเฉวียนไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันกำลังคิดที่จะหาโอกาสในการโจมตีเซียวเฉวียนอยู่
แต่เมื่อมีเหมิงเอ้าเข้ามาให้ความช่วยเหลือ มันก็ไม่สามารถโจมตีเซียวเฉวียนได้
ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งสองคนจึงไม่สามารถทำอะไรกับค้างคาวตัวนี้ได้
และในตอนนั้นเอง ในที่สุดเหมิงเอ้าก็เชื่อแล้วว่า ด้วยพลังของเขาเพียงคนเดียวมันไม่อาจเอาชนะค้างคาวตัวนี้ได้
และไม่แน่ว่าเขาอาจจะถูกค้างคาวตัวนี้ดูเลือดเอาก็ได้
เจ้านักปราชญ์บัดซบ เหตุใดในมือของเขาถึงได้มีของเล่นที่ยุ่งยากเช่นนี้อยู่ด้วย?
พวกเขาถูกขังอยู่ที่นี่ หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าจะไม่ถูกค้างคาวดูดเลือดจนตาย แต่ไม่ช้าก็เร็วก็คงเหนื่อยตายอยู่ดี
เหมิงเอ้าไม่ได้กลัวความตาย แต่เขาไม่อาจปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเซียวเฉวียนได้
เขาสู้กับค้างคาวไปพร้อมกับพูดออกมาว่า “นายท่าน เร็วเข้า รีบคิดออกมาเร็ว พวกเราจะสามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้อย่างไร”
ค้างคาวที่แปลกประหลาดเช่นนี้ หากไม่เรียกว่าสัตว์ประหลาดแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
เซียวเฉวียนป้องกันการโจมตีของค้างคาวไปพร้อมกับพูดออกมาว่า “เหมิงเอ้า หาทางจุดไฟเผามันกันเถอะ”
แสงแห่งพู่กันเฉียนคุนก็ไม่กลัว สายฟ้าก็ไม่กลัว เช่นนั้นก็คงต้องจัดการมันด้วยไฟ
เซียวเฉวียนเองก็ไม่รู้ว่าค้างคาวตัวนี้กลัวอะไร เขาคงทำได้เพียงทดลองออกมาทีละอย่างเท่านั้น
แต่หวังว่าพระเจ้าจะแสดงความเมตตาต่อเสี่ยวฉวน ให้เขาประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งแรก
เซียวเฉวียนเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ตลอดทอง เขาไม่คิดที่จะมาพ่ายแพ้ให้กับค้างคาวเพียงตัวเดียวแบบนี้
แบบนี้ไม่ใช่แค่เซียวเฉวียนคนเดียวเท่านั้นที่ต้องขายหน้า แต่มันยังเป็นการทำให้ผนึกจูเสินต้องขายหน้าไปด้วย
คิดหาวิธีไปเรื่อย ๆ ผนึกจูเสินก็ไม่ได้พูดหรือบอกอะไรกับเซียวเฉวียนเพิ่มเติม เซียวเฉวียนตกอยู่ในมือของค้างคาวตัวเล็ก ๆ เพียงตัวเดียว นี่มันเป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าผนึกจูเสินเทียบไม่ได้กับค้างคาวตัวเล็ก ๆ เพียงตัวเดียว
ผนึกศักดิ์สิทธิ์พันปีอันสง่างาม แต่เทียบไม่ได้กับค้างคาวตัวเล็ก ๆ เพียงตัวเดียว
แบบนี้จะให้ผนึกจูเสินเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
แม้จะไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ต้องทำเพื่อผนึกจูเสินที่มีอายุมากกว่าพันปี ไม่ว่าอย่างไรเซียวเฉวียนก็ต้องชนะ!
ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉวียนยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังทำไม่เสร็จ สถานศึกษาชิงหยวนยังไม่ได้ทำการเปิดเรียนอย่างเป็นทางการ กองกำลังชาวยุทธ์แท้เองก็ยังหาไม่เจอ เรื่องของกองทัพตระกูลเซียวทั้งห้าก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข นักปราชญ์และหมิงเจ๋อก็ยังไม่ตาย และต้าเว่ยเองก็ยังไม่ได้พบกับวันวานอันสดใส......
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่รอให้เซียวเฉวียนไปจัดการ
ชิงหลงได้รับคุณสมบัติและการถ่ายทอดวิชามาจากเหล่าผู้อาวุโสแห่งเทือกเขาคุนหลุน
ไม่ว่าเขาจะเรียนรู้ในสิ่งใด เขาจะมีอาจารย์คอยให้คำสั่งสอนอยู่เสมอ เรื่องค่ายกลเองก็เช่นเดียวกัน
ค่ายกลที่มีเชื่อเสียงไปทั่วทั้งใต้หล้าของผู้อาวุโสชีชิง ชิงหลงก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากเขา
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกแล้ว ไม่ว่าชีชิงจะสร้างค่ายกลชนิดใดออกมา ชิงหลงก็สามารถทำลายค่ายกลของเขาได้ แต่ค่ายกลของชิงหลงกลับสร้างปัญหาให้กับชีชิง แม้แต่ชีชิงเองก็ยังรู้สึกลำบากใจ
แต่ค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ ชิงหลงกลับไม่มีความมั่นใจที่จะทำลายมัน
แต่ในเมื่อชิงหลงมาถึงที่นี่แล้ว มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะนั่งดูอยู่เฉย ๆ
ทำลายได้หรือไม่ ต้องเข้าไปตรวจสอบด้านในค่ายกลก่อนถึงจะรู้
ดังนั้นหลังจากที่ชิงหลงสั่งให้เจินฮ่าวคุ้มกันไว้ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ร่างของเขากายหายไป เข้าสู่ใจกลางของค่ายกล
ในตอนนี้ เซียวเฉวียนที่กำลังคิดหาวิธีในการโจมตีค้างคาวก็เห็นชิงหลงปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ
แต่ไม่นานเซียวเฉวียนก็เข้าใจ ชิงหลงจะต้องมาที่นี่เพื่อเป็นกำลังเสริมจากการขอร้องของเจินฮ่าวเป็นแน่
เมื่อเห็นชิงหลง ดวงตาของเหมิงเอ้าก็เต็มไปด้วยความสดใส “ใต้เท้าชิงหลง ท่านมาได้จังหวะพอดีเลย! ท่านคือคนของเทือกเขาคุนหลุน ความรู้กว้างไกล ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ รีบดูเร็วว่าสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้อย่างไร”
ในสายตาของเหมิงเอ้า ในฐานะที่ชิงหลงเป็นองค์ชายแห่งคุนหลุน มันก็ไม่ต่างอะไรกับเทพเจ้า
นอกจากเซียวเฉวียน คนที่เหมิงเอ้าชื่นชมมากที่สุดก็คือชิงหลง
ใช่ แม้แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจของเหมิงเอ้า ในใจของเขา เซียวเฉวียนจะเป็นที่หนึ่งตลอดไป ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้
ชิงหลงพยักหน้า บ่งบอกว่าเขามาเพื่อช่วยพวกเขาออกไปจากที่นี่ เขามองไปรอบ ๆ เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์โดยรวม
เมื่อเห็นศพของค้างคาวที่นอนเกลื่อนอยู่เต็มพื้น มันช่างทำให้เขารู้สึกตกใจยิ่งนัก
และแค่มองชิงหลงก็รู้ได้เลยว่า ค้างคาวเหล่านี้นั้นมีพิษ
เขาพูดออกมาด้วยความกังวล “ใต้เท้าเซียว พวกท่านไม่ได้ถูกค้างคาวเหล่านี้กัดใช้หรือไม่?”
ตราบใดที่มีใครถูกพวกมันกัด พิษจะไหลเวียนเข้าไปในร่างกายของเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าอย่างช่วยไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...