ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1450

สรุปบท บทที่ 1450 ศัตรูที่หมดหนทางสู้: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1450 ศัตรูที่หมดหนทางสู้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1450 ศัตรูที่หมดหนทางสู้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

นักปราชญ์รู้ดีว่าความสามารถของตัวเองอยู่ในระดับไหน

แม้ว่าเขาจะทุ่มพลังหมดทั้งตัว เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเฉวียน

เมื่อเป็นเช่นนี้ หากนักปราชญ์อยากจะฆ่าเซียวเฉวียนนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

หากเขารู้เร็วกว่านี้นักปราชญ์ก็คงจะฆ่าเซียวเฉวียนไปตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ผู้นำทางลงมือก่อนทำให้เซียวเฉวียนมีเวลาพักฟื้นกำลัง

สิ่งที่ทำให้นักปราชญ์รู้สึกแย่ยิ่งกว่านั้นก็คือเหมิงเอ้าที่ออกไปทำภารกิจได้กลับมาแล้ว!

เหมิงเอ้าสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งที่เซียวเฉวียนอยู่ ดังนั้นเขาจึงส่งเถามันเทศไปที่คุนหลุนและเมื่อเขาได้มอบหมายมอบหมายภารกิจเสร็จสิ้นแล้วเขาก็รีบเดินทางกลับ

โดยไม่คาดคิด ทันทีที่เขากลับมาถึง ก็เห็นเซียวเฉวียนติดอยู่ในตาข่าย นั้นยิ่งทำให้เหมิงเอ้าโกรธเป็นฝืนเป็นไฟโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงฟาดฟันดาบใส่นักปราชญ์ด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว

มีอย่างนี้ด้วยเหรอ!

นักปราชญ์เฒ่าคนนี้ช่างตายยากตายเย็นจริงๆ เขากล้าดียังไงมารังแกเซียวเฉวียน

คอยดูวันนี้เหมิงเอ้าคนนี้จะทำสั่งสอนเขา!

ความโกรธทะยานขึ้นสูงสุดทำให้เหมิงเอ้าเต็มไปด้วยพละกำลัง และเขาก็คำรามเสียงดัง: "ไปตายซะเถอะ!"

หลังจากที่พูดจบดาบจิงหุนก็ฟาดฟันเข้ามาอย่างแรง

ในขณะนี้ นักปราชญ์รีบดึงดาบของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว สกัดกั้นการโจมตีของเหมิงเอ้า

อย่างไรก็ตาม พละกำลังของเหมิงเอ้านั้นแข็งแกร่งมากและนักปราชญ์ก็ไม่สามารถต้านทานได้นาน ไม่ถึงห้าหกนาทีในการต่อสู้ นักปราชญ์ก็ถูกเหมิงเอ้าโจมตีจนล่าถอยไปหลายก้าว

นักปราชญ์ไม่คิดว่าองครักษ์ผู้นี้มีพละกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้ เขารู้เพียงแค่ว่าเหมิงเอ้ามีพละกำลังมาก

อย่างไรก็ตามเหมิงเอ้าก็มีรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแกร่ง

ไม่เพียงแค่พละกำลังเท่านั้น เขายังทำให้นักปราชญ์รู้สึกประหลาดใจ

พละกำลังนี้ทำให้นักปราชญ์ตระหนักว่าเขาไม่สามารถที่สู้เหมิงเอ้าได้

แต่ว่าวิชากังฟูและกำลังภายในของเหมิงเอ้านั้นสู้เขาไม่ได้

นับว่าฉลาดที่จะใช้จุดแข็งและหลีกเลี่ยงจุดอ่อน

เพราะฉะนั้นนักปราชญ์ก็จะไม่สู้กับเหมิงเอ้าด้วยพละกำลัง

เขารีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้โอกาสนี้ทิ้งระยะห่างระหว่างเขากับเหมิงเอ้า

มีช่องว่างถึงจะมีโอกาสชนะ

แต่เหมิงเอ้าก็ไม่ยอมปล่อยให้นักปราชญ์ทำสำเร็จ เขารีบตามฝีเท้านักปราชญ์ไปอย่างรวดเร็วและไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว

ในเวลานี้สายตาของนักปราชญ์ถึงกับต้องตะลึงที่แท้พละกำลังของเหมิงเอ้านั้นไม่เบาเลยทีเดียว

เหมิงเอ้าก็รู้สึกประหลาดใจในพละกำลังของตัวเองที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกระทันหัน

เดิมทีเขาเพียงแค่คิดว่าอยากทุ่มให้สุดกำลังทั้งหมดของเขาเพื่อปกป้องเซียวเฉวียน

โดยไม่คาดคิดว่าการทุ่มสุดกำลังในครั้งนี้ จะทำให้เหมิงเอ้ารู้ว่าความสามารถของตัวว่าสามารถสู้กับนักปราชญ์ได้โดยไม่ได้เสียเปรียบฝ่ายตรงข้ามเลย

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ!

ไม่เพียงแต่เท่านั้นเหมิงเอ้ายังรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบากว่าแต่ก่อนมาก

ระหว่างที่เดินทางกลับมาเขาก็รู้สึกเช่นนี้แล้ว

เพียงแต่เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ในเวลานั้น

เมื่อเขากลับมาถึง เหมิงเอ้าก็เห็นเซียวเฉวียนกำลังต่อสู้กับนักปราชญ์ด้วยกำลังภายในอยู่ และเขารู้สึกว่ากำลังภายในที่แข็งแกร่งของเซียวเฉวียนนั้นเหนือกว่านักปราชญ์มาก

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดเหมิงเอ้าก็เข้าใจว่าความแข็งแกร่งของเซียวเฉวียนนั้นพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความสามารถของเหมิงเอ้าในการต่อสู้กับนักปราชญ์นั้นเกิดจากการพัฒนาความแข็งแกร่งของเซียวเฉวียนนี่เอง

หนึ่งคนบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็พลอยได้ดีได้ขึ้นสวรรค์ไปด้วย

นักปราชญ์พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหลบหนีการโจมตีของเหมิงเอ้า และในใจของเขาเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาบ้างแล้ว

เป็นแค่องครักษ์คนหนึ่งแต่กลับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ แล้วถ้ามีเพิ่มมาอีกคนล่ะ? นักปราชญ์จะหนีรอดไปได้อย่างไร?

ตามที่นักปราชญ์รู้เซียวเฉวียนมีองครักษ์สองคน

ถ้าหากว่าอีกคนมาเพิ่มอีกล่ะก็ นักปราชญ์คงตายในไม่ช้าแน่ ๆ

หลังจากคิดได้นักปราชญ์ก็ตัดสินใจว่าจะยุติการต่อสู้กับเหมิงเอ้า เขาต้องรีบหาลู่ทางหลีกหนีออกไป

แต่ดูเหมือนเหมิงเอ้าจะโกรธจัด พละกำลังของเขายิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นนเรื่อยๆ ทำให้นักปราชญ์ไม่มีโอกาสที่จะได้พักเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่จะหลบหนี

ตามสถานการณ์ปัจจุบัน หากยืดเยื้อฝืนต่อไป นักปราชญ์จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ด้วยความสิ้นหวัง นักปราชญ์ทำได้เพียงต่อสู้จนสุดกำลังเท่านั้น

เขายกขาข้างหนึ่งขึ้นเตรียมโจมตีเหมิงเอ้า

ถ้าหากว่าเหมิงเอ้าตามไปอาจจะตกหลุมพรางของนักปราชญ์ได้ สถานการณ์ก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก

ไม่ควรไล่ล่าศัตรูที่จนหมดหนทางสู้

แต่เหมิงเอ้ารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย พูดว่า “จะปล่อยให้เขาหนีไปแบบนี้เหรอ?”

เซียวเฉวียนพยักหน้า “การล้างแค้นของลูกผู้ชาย สิบปีก็ยังไม่สาย”

ตอนนี้ รีบเอาตาข่ายที่คลุมตัวเซียวเฉวียนออกไปก่อนจะเหมาะสมที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากเหมิงเอ้าไล่ตามนักปราชญ์ไปเพียงลำพัง หากเขาเสียท่าตกหลุมพรางของนักปราชญ์ และนักปราชญ์ย้อนกลับมาเพื่อฆ่าเขา นั่นมันไม่ได้เป็นผลดีทั้งเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าเลยใช่ไหม?

หลังจากฟังคำพูดของเซียวเฉวียนแล้วเหมิงเอ้าก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเซียวเฉวียนถอดตาข่ายออก

ตาข่ายถูกผนึกจากด้านนอก และตาข่ายก็หนาแน่นมากจนเซียวเฉวียนไม่สามารถเอื้อมมือออกไปเปิดช่องได้

ดังนั้น หากว่าไม่มีคนช่วยเซียวเฉวียนก็ไม่สามารถหนีออกไปได้

เหมิงเอ้าพูดขณะที่เขาดึงตาข่ายออก:”นายท่าน ตาข่ายนี้ท่านไม่สามารถทำลายได้หรือ?”

แค่ตาข่ายผืนเดียวด้วยพละกำลังของเซียวเฉวียนแล้วเพียงแค่ใช้กำลังภายในก็สามารถฉีกมันออกเป็นเสี่ยงๆได้แล้ว

หลังจากพูดจบ เหมิงเอ้าเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาได้พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป สิ่งที่เขาคิดเซียวเฉวียนก็คงคิดได้ตั้งนานแล้ว

แต่เซียวเฉวียนยังถูกตาข่ายตรึงอยู่ด้านใน นั่นย่อมหมายความว่ามันไม่ใช่ตาข่ายธรรมดาๆทั่วไป กำลังภายในของเซียวเฉียวไม่สามารถทำลายมันได้

เซียวเฉวียนที่รับรู้ความคิดของเหมิงเอ้าจึงได้พูดขึ้นมาว่า :”ไม่เพียงแค่นั้น แม้กระทั่งดาบจิงหุนก็ไม่สามารถทำลายมันได้”

พูดง่ายๆคือดาบฟันมันไม่เข้า

ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือดูเหมือนว่ามันถูกควบคุมโดยนักปราชญ์

เมื่อได้ยินสิ่งนี้เหมิงเอ้าก็อดไม่ได้ที่จะมองดูตาข่ายนี้อีกสองสามครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับตาข่ายทั่วไปแล้ว อาจจะใช้วัสดุที่แตกต่างกันเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นวัสดุที่ดีแค่ไหนก็ไม่ถึงกับดาบฟันไม่เข้านี่นา

แต่ว่าเหมิงเอ้าก็รู้ดีว่าสิ่งที่เซียวเฉวียนพูดนั้นเป็นความจริง เพราะเซียวเฉวียนไม่เคยโกหกพวกเขา

ดังนั้นเหมิงเอ้ารู้สึกกังวลขึ้นมาแล้วพูดว่า:”ถ้างั้นจะจัดการกับมันอย่างไรดี?”

ในตอนนี้เหมิงเอ้าได้เอาตาข่ายออกจากตัวของเซียวเฉวียนแล้ว

พูดตามตรงเมื่อถือตาข่ายนี้ไว้ในมือ น้ำหนักของมันก็เหมือนกับตาข่ายทั่วไป

แต่ว่ามันแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ต้องไม่ใช่ของธรรมดาทั่วๆไปแน่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย