สรุปตอน บทที่ 1449 ผิดหวังมาก – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 1449 ผิดหวังมาก ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้เซียวเฉวียนไม่สามารถเคลื่อนไหวและใช้พลังภายในของเขาได้
แต่ผู้นำทางคาดไม่ถึงว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเซียวเฉวียนเลย
เซียวเฉวียนเพียงแค่ใช้พลังจิต ความแข็งแกร่งภายในของเขาก็หลั่งไหลออกมา แม้ว่ามือของเซียวเฉวียนจะไม่ขยับ แต่เขาก็ยังคงสามารถทำให้ผู้นำทางกระเด็นออกไปได้
“ปัง!” มีเสียงดังขึ้นที่พื้น ผู้นำทางล้มลงกับพื้นอย่างแรงเหมือนสุนัขตัวถูกเหวี่ยง
เขาแค่คิดอยากจะลุกขึ้น แต่กลับพบว่ากระดูกทั่วร่างกายของเขารู้สึกปวดร้าวไปหมดและเขาไม่สามารถใช้กำลังใดๆ ได้
แย่แล้ว เขาจะเป็นอัมพาตหรือเปล่า?
ผู้นำทางยกศรีษะขึ้น เขามองดูเซียวเฉวียนด้วยท่าทางหวาดกลัวและขุ่นเคือง ในใจรู้สึกสับสนอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ามือของเซียวเฉียวนถูกเขาตรึงเอาไว้ เขายังสามารถพลักเขากระเด็นออกไปได้ เซียวเฉียวนทำได้อย่างไรกัน?
สำหรับเรื่องนี้แล้วอย่าว่าแต่ผู้นำทางเลย แม้แต่เซียวเฉียวนเองก็รู้สึกแปลกใจ
เดิมที เขาแค่อยากจะลองดู แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะสามารถขับเคลื่อนกำลังภายในของเขาด้วยพลังจิตของเขาได้จริงๆ
มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ จากนี้ไป หากเซียวเฉียวนต้องการใช้กำลังภายในของเขาอย่างลับๆ เขาก็ใช้เพียงแค่พลังจิตเท่านั้น
ได้เพิ่มวิชาอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่างเป็นผลพลอยได้ที่เกินความคาดหมายจริงๆ
และเมื่อเห็นผู้นำทางนอนอยู่บนพื้นไม่สามารถลุกขึ้นด้วยสีหน้าอันเจ็บปวด เซียวเฉวียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ช่างเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดจริง ๆ
แม้แต่นักปราชญ์ผู้รอบรู้ก็ยังตกใจกับพละกำลังของเซียวเฉวียน
มันเป็นไปได้อย่างไร?
นักปราชญ์มองเห็นด้วยตาตัวเองว่าเซียวเฉวียนแทบไม่ขยับมือเลยด้วยซ้ำ เขาสามารถพลักผู้นำทางกระเด็นออกไปได้
นี่มันเป็นวิชาอะไรกัน?
เสวียนอวี๋รู้วิธีโจมตีผู้คนจากระยะไกล แต่นั่นก็ต้องใช้ระยะห่างเช่นกัน นอกจากนี้เสวียนอวี๋ยังต้องลงมือด้วยเช่นกัน
แต่นี่เซียวเฉวียนไม่ได้เว้นระยะห่างและไม่ได้ขยับมือเลยก็สามารถทำให้ผู้นำทางล้มไม่เป็นท่าได้
เซียนเฉวียนไปฝึกกังฟูนี้มาจากสำนักไหน?
เรียกได้ว่านักปราชญ์ได้เห็นและได้ยินที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เซียวเฉวียนหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งและมองดูนักปราชญ์อย่างเฉยชา
นักบุญมองดูเซียวเฉวี่ยนด้วยสีหน้างุนงง
แม้ว่านักปราชญ์จะไม่รู้ว่าเซียนเฉวียนฝึกกังฟูแบบไหน แต่เมื่อตอนที่เขายังเด็กเขาเคยได้ยินอาจารย์ของเขาพูดว่า ในยุทธภพนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้ความสามารถนี้ได้นั้นก็คือเจี้ยนจง
และอีกอย่าง ความสามารถนี้เป็นวิชาเฉพาะของเจี้ยนจง ซึ่งไม่สามารถถ่ายทอดให้คนภายนอกได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนจะใช้วิชากังฟูของเจี้ยนจงได้อย่างไร?
นักปราชญ์แม้ฝันก็ไม่สามารถจิตนาการได้ว่าปัจจุบันหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษได้แบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย
ถึงเขาจะคิดจนหัวระเบิด เขาก็คงคิดไม่ถึงว่าผนึกจูเสินก็เป็นส่วนหนึ่งของหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษ
ยิ่งไปกว่านั้นผนึกจูเสินก็อยู่ในร่างของเซียวเฉวียน และได้ผนึกรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างของเซียวเฉวียน
ทักษะวิชาของหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษ เขาได้รับการฝึกฝนทั้งเจี้ยนจงและผนึกจูเสิน นั่นก็หมายความว่าเซียวเฉวียนเป็นทั้งสองวิชา
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนยังไม่สามารถนำวิชาเหล่านี้ออกมาใช้ได้ทั้งหมด
เพียงแค่ใช้พลังจิตในการขับเคลื่อนนั้นถือเป็นหนึ่งในทักษะวิชาของผนึกจูเสิน
เมื่อกี้ที่ผนึกจูเสินให้พละกำลังแก่เซียวเฉวียนนั้นอันที่จริงแล้วแค่ต้องการช่วยเซียวเฉวียนปลุกพลังจิตของเขาและกระตุ้นกำลังภายในของเขา
เมื่อเห็นว่าเซียนเฉวียนที่โดนตรึงอยู่แล้วยังสามารถทำร้ายผู้อื่นได้ นักปราชญ์ก็ไม่อาจไม่ป้องกันตัวมากขึ้นได้
เขาค่อยๆเข้าใกล้เซียวเฉวียนอย่างระมัดระวังและมองเซียวเฉวียนด้วยท่าทีของผู้ชนะ
เนื่องจากได้รับพละกำลังจากผนึกจูเสิน ทำให้อาการบาดเจ็บที่แขนของเซียวเฉวียนหายไป
คาดว่าผนึกจูเสินไม่ต้องการให้นักปราชญ์เห็นร่องรอย มันแค่ช่วยหยุดความเจ็บปวดให้เซียวเฉวียนเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วย รักษาบาดแผลให้เขา
คนธรรมดาคนหนึ่งบาดแผลที่สาหัสจะหายเร็วเกินไปอาจจะทำให้คนสงสัยได้
โดยเฉพาะคนขี้สงสัยอย่างนักปราชญ์คนนี้
เซียวเฉวียนดันตาข่ายแล้วยืนขึ้นและมองไปที่นักปราชญ์
หากยืนพูด ความสูงและรูปร่างที่สูงของเซียวเฉวียนมีข้อได้เปรียบอย่างแน่นอน
ดูจากระยะห่างแล้วนักปราชญ์ยังต้องเงยหน้ามองเซียวเฉวียนด้วยซ้ำ
เขาต้องการให้นักปราชญ์รู้สึกว่าเขาต้องเงยหน้ามองเซียวเฉวียน นั้นยิ่งทำให้นักปราชญ์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แต่ว่าสำหรับเซียวเฉวียนแล้วยิ่งนักปราชญ์แสดงอาการไม่พอใจแค่ไหนเขายิ่งรู้สึกดีใจ
เซียวเฉวียนคำรามอย่างเย็นชาและพูดว่า :” ตาข่ายนี้เป็นของดีจริง ๆ หากเจ้าไม่อยากเสียมันไปก็รีบเอามันออกไปโดยเร็วซะ”
ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉวียนจะไม่ปล่อยโอกาสให้นักปราชญ์ทำร้ายเซียวเฉวียนด้วยเข็มทองอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นมือของนักปราชญ์ขยับ เซียวเฉวียนระดมกำลังภายในของเขา กำลังภายในก่อเกิดเป็นรัศมีอันทรงพลังอยู่รอบ ๆ ตัวของเซียวเฉวียน ทำให้นักปราชญ์ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้
สิ่งนี่ทำให้นักปราชญ์ประหลาดใจอีกครั้ง และเขาคิดในใจ:”ทำไมจู่ ๆ พละกำลังของเซียนเฉวียนกลับมีพลังที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้?
ก่อนที่เขาจะถูกตราตรึง นักปราชญ์รู้สึกว่าพลังของเซียวเฉวียนไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงสรุปว่าต้องเป็นเพราะถูกตรึงอยู่เลยทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นแน่
นี่สู้พวกนักปราชญ์ที่ดูดญานของคนอื่นเพื่อมาฝึกญานของตัวเองได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?
เซียวเฉวียนใช้วิธีอะไรกันแน่?
ในใจของนักปราชญ์เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าเสี่ยวเฉวียนเป็นคนปากแข็งมาก และเขาและเซียวเฉวียนก็เป็นศัตรูกัน หากเขาต้องการรู้จากปากของเซียวเฉวียนนั้นมันยากยิ่งกว่าฟ้าถล่มเสียอีก
ดังนั้น นักปราชญ์ก็ไม่ต้องการถามเซียวเฉวียนอีก
ในเมื่อเซียวเฉวียนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ยิ่งจะปล่อยเขาเอาไว้ไม่ได้
สำหรับเสบียงนั้นหลังจากที่ฆ่าเซียวเฉวียนตัวปัญหานี้แล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาทีหลัง
ทางออกย่อมต้องมีอยู่
คิดได้ดังนั้น นักปราชญ์ก็ระดมกำลังภายในทั้งหมดของเขาเพื่อส่งเข็มทองไปยังเซียวเฉวียน
แต่กำลังภายในของเซียวเฉวียนนั้นแข็งแกร่งมาก และนักปราชญ์ใช้พละกำลังมหาศาลทั้งหมดของเขาเข็มทองก็ยังคงอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน
ในขณะนี้ เซียวเฉวียนได้เพิ่มพละกำลังของเขาทำให้นักปราชญ์ต้องล่าถ่อยทีละก้าวทีละก้าว
ในเวลาเดียวกัน ภายใต้พละกำลังที่แข็งแกร่งของเซียวเฉวียน เข็มทองก็เปลี่ยนทิศทางและพุ่งตรงไปยังนักปราชญ์
อะไรกันนี่?
พิษชนิดนี้แม้แต่นักปราชญ์ยังคิดค้นยาแก้พิษไม่ได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้านักปราชญ์โดนเข็มทองทิ่มแทงเขาก็จะตายสถานเดียว
เมื่อสายตามองเห็นเข็มทองกำลังจะทิ่มแทงร่างกายของเขา นักปราชญ์ก็หลบไปด้านข้างอย่างว่องไวและหนีพ้นการโจมตีของเข็มทองไปได้
กำลังภายในของเซียวเฉวียนนั้นทรงพลังมากจนนักปราชญ์รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...