ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1486

ต่อหน้าคนรู้ใจกระจ่างแจ้งราวกระจก จะปิดบังอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ แถมยังแสดงให้เห็นว่าเจ้าฉลาดแกมโกง

ปรมาจารย์ยิ้มบางพลางเอ่ย “ไม่ทราบว่าใต้เท้าเซียวเหตุใดจึงมาอยู่ตรงนนี้หรือ?”

หากพูดว่าเซียวเฉวียนจะใช้บริการของหอสมบัติจืออิน ตีให้ตายปรมาจารย์ก็ไม่เชื่อ

ตามที่เขาเข้าใจ แต่ไหนแต่ไรมาเซียวเฉวียนประพฤติตนสะอาด ไม่ละโมภหลงใหลในความงามนี่

แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นเขาเข้าสถานที่โลกีย์มาก่อน

หากพูดให้มันดูน่าฟังเยอะๆ หน่อยก็คือต่อให้นิสัยของเซียวเฉวียนจะเปลี่ยนไป ต่อให้เขามาหาแม่นางที่หออินอินท่านใดก็ไม่ควรจะใช้เส้นทางเดินนี้

ใครกันมีถนนดันไม่เดิน ดันมาเดินหลังคา?

อีกทั้ง เซียวเฉวียนไม่โผล่มาตอนเช้าหรือตอนเย็น แต่กลับจำเพาะต้องโผล่มาในเวลานี้ จะไม่ให้คนเขาสงสัยก็เป็นเรื่องยาก

เซียวเฉวียนที่ได้ยินเสียงความคิดในใจของปรมาจารย์แล้วก็ยกมุมปากเผยรอยยิ้มที่คล้ายมีและไม่มีออกมา เขาเอ่ย “เซียวเฉวียนเพิ่งจะตามรอยโจรผู้หนึ่งมาถึงตรงนี้ ไม่คิดเลยว่าจะได้พบปรมาจารย์โดยบังเอิญ”

ไม่เชื่อว่าข้าผ่านมา เช่นนั้นข้าก็ยังจะแถว่าผ่านมาอยู่ดี

เชื่อไม่เชื่อก็ตามใจเจ้า

แต่ว่า ปรมาจารย์รายนี้ก็ยังพอมีเขี้ยวเล็บอยู่ ได้บังเอิญพบเซียวเฉวียนก็ยังนิ่งได้ขนาดนี้ แถมไม่ลนลานไม่หอบหายใจสักนิด ยังจะยิ้มออกมาได้อีก พื้นฐานจิตใจนั้นมั่นคงสุขุม

ปรมาจารย์เผยท่าทีประหลาดใจออกมาพูดว่า “อ้อ? ใต้เท้าเซียวกำลังไล่จับโจรอย่างนั้นหรือ?”

กล่าวแล้ว สายตาคู่ที่กำลังเฉียบคมนั้นก็กลอกไปมาบนร่างของเซียวเฉวียนโดยไม่ทิ้งร่องรอย เพื่อเสาะค้นให้เห็นคำโป้ปดของเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนไม่เหลือบแลสักนิด เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบยิ่ง “ก็ไม่มีหรอก ท่านดูสิ มิใช่ว่ามือทั้งสองข้างของข้ายังว่างอยู่หรอกหรือ ขอไม่ปิดบังความจริง ข้าไล่ไม่ทันแล้ว”

ปรมาจารย์ไหลตามคำพูดของเซียวเฉวียนพลางเอ่ย “ได้ยินมาว่าใต้เท้าเซียวฝีมือฉกาจ ผู้ที่หนีรอดจากมือของไต้เท้าเซียวไปได้ ต้องเป็นผู้ที่ร้ายกาจมากแน่ๆ ใต้เท้าเซียวต้องระวังสักหน่อย”

ความหมายในคำพูดนั้น แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยเซียวเฉวียน

แต่แท้จริงแล้ว ปรมาจารย์กำลังแอบเสียดสีเขาต่างหาก “มิใช่ว่าท่านเก่งมากๆ หรอกหรือ? เหตุใดจึงไล่ตามคนคนหนึ่งไม่ได้กันล่ะ?”

ปรมาจารย์เองก็รู้ว่าเซียวเฉวียนสามารถอ่านความในใจได้ เขาเลยจงใจเผยความคิดในใจนี้

เขากำลังเสียดสีเซียวเฉวียน

การตายของอู๋ฟาน ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะเป็นผู้วางแผนหรือไม่ แต่เซียวเฉวียนก็ไม่อาจสลัดพ้นความเกี่ยวข้อง ความแค้นของจวนอู๋กับจวนเซียวนั้น แน่นอนว่าไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าได้

การได้พบกับเซียวเฉวียนที่นี่ ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะมีเจตนามาที่นี่หรือไม่ หรือว่าเดินผ่านมานั้น นับว่าศัตรูพบกันในทางแคบจริงๆ

พบศัตรูในทางแคบ ก็คงต้องเอ่ยวาจาทำร้ายสักหน่อย หมิ่นหยามเล็กน้อย เป็นเรื่องปรกติยิ่ง

อีกทั้ง เซียวเฉวียนต้องรู้เรื่องในเมืองหลวงเป็นอย่างดี อู๋ฟานยังพูดทิ่มเซียวเฉวียนในราชสำนักอยู่หลายครั้ง เรื่องนี้เซียวเฉวียนเองก็ทราบดี

ต่อให้อู๋ฟานไม่ได้ตาย จวนอู๋กับจวนเซียวก็เป็นมิตรต่อกันไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นอู๋ฟานจะต้องตายเพราะเซียวเฉวียนแน่นอน

แต่ว่า อย่างอื่นนั้น ปรมาจารย์ไม่มีทางหยิบยกหรือคิดขึ้นมาต่อหน้าเซียวเฉวียน ดังนั้น เซียวเฉวียนคิดจะสืบข่าวอย่างอื่นจากใจของปรมาจารย์ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้

ครั้นได้ยิน เซียวเฉวียนก็ทำเป็นคล้ายไม่ได้ยินเสียงปริศนานี้ เขาแย้มยิ้มบางพลางเอ่ย “ขอบคุณความหวังดีของท่านปรมาจารย์”

กล่าวแล้ว เซียวเฉวียนก็คล้ายฟังปริศนาภายในเสียงนี้ไม่ออก เขายิ้มบางพลางเอ่ย “ขอบคุณเจตนาของท่านปรมาจารย์”

กล่าวแล้ว เซียวเฉวียนก็ยังแสร้งมองเขาอย่างไม่มีเจตนารอบหนึ่ง พลางกล่าว “อ้อ ปรมาจารย์ได้รับบาดเจ็บหรือ?รุนแรงหรือไม่?”

“ปรมาจารย์ไปล่วงเกินบุคคลสุดยอดท่านใดมากระนั้นหรือ?”

“ตามที่ตัวข้าแซ่เซียวได้เห็น คนพวกนี้ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้าเหลือเกิน กระจ่างแจ้งราวตะวัน ส่องแสงสาดใต้หล้า ใต้ฝ่าเท้าโอรสสวรรค์กลับกล้ากระทำเรื่องเช่นนี้ ช่างไม่เห็นราชสำนักอยู่ในสายตาเลย”

ความหมายแฝงนั่นก็คือ กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูอย่างอาจหาญเช่นนี้ ปรมาจารย์ท่านกับจวนอู๋ของท่านหากว่ามีความเคลื่อนไหวใดๆ ก็ควรจะคิดให้รอบคอบ เสียหลายๆ รอบก่อนค่อยลงมือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย