ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1517

ในเมื่อเขามีตำแหน่งเป็นถึงองค์จักรพรรดิของต้าเวยนั่น ย่อมต้องเข้าใจถึงความจริงในข้อนี้ด้วย

ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด มิควรใช้อารมณ์ของตนเองในการตัดสินใจสิ่งใด มิเช่นนั้นมันจะนำพาอันตรายมาสู่ตนเอง

ฝ่าบาทเองก็เคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์รัฐประหารในพระราชวังขององค์ไทเฮามาแล้ว เมื่อมาถูกมารดาของตนเองหักหลังเช่นนี้ ย่อมมิมีเรื่องอันใดจะเลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว

ความอดทนขององค์จักรพรรดิจึงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่เซียวเฉวียนปกปิดเอาไว้ ก็มิได้สร้างความเสียหายอันใดให้กับองค์จักรพรรดิเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่เซียวเฉวียนครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มานาน เขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อซ่อนความจริงที่ว่าองค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่ เขาจะพยายามปกปิดมันเอาไว้ให้ได้นานที่สุด ทางที่ดีที่สุดคิดปกปิดเรื่องนี้เอาไว้จนกว่าอำนาจขององค์จักรพรรดิจักมั่นคงและเข้าที่เข้าทางเสีย เมื่อนั้นทั่วทั้งต้าเวยจักดำเนินไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง รวมไปถึงใต้หล้าจักได้สงบสุขลงเสียที

เมื่อถึงเวลานั้น เซียวเฉวียนก็จักเกษียณตัวเองลง พร้อมทั้งพาภรรยาและบุตรสาวของตนเองออกไปค้นหาสรวงสวรรค์สำหรับการใช้ชีวิต ออกไปให้ห่างไกลจากปัญหาของเรื่องราวในใต้หล้า

เรื่องที่องค์หญิงยังมีชีวิตอยู่นั้น หาได้มีผู้ใดล่วงรู้ไม่

หากว่าเขาไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้นั้น ยามที่องค์จักรพรรดิเอ่ยถามเซียวเฉวียนเป็นการส่วนตัวเมื่อใด เซียวเฉวียนย่อมเรียกบอกไปตามความจริง

เมื่อพิจารณาถึงความเมตตาที่องค์จักรพรรดิมีต่อเซียวเฉวียนนั้น พระองค์คงจะมิทำอะไรกับเซียวเฉวียนมากกระมัง เกรงว่าพระองค์คงจะบ่นเกี่ยวกับเซียวเฉวียนสักสองสามคำ หลังจากบ่นแล้วนั้น เซียวเฉวียนก็ยังคงเป็นราชครูของรวมไปถึงสหายร่วมรบของพระองค์เช่นเดิม

ท้ายที่สุดแล้ว องค์จักรพรรดิยังคงต้องการเซียวเฉวียน

ชิงหลงเข้าใจการกระทำของเซียวเฉวียนเป็นอย่างดี ในเมื่อเซียวเฉวียนคิดเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีแล้วนั้น ชิงหลงก็มิอาจเอ่ยอันใดออกมาได้อีก

ในแง่ของไหวพริบแล้วนั้น นับว่าชิงหลงยังด้อยกว่าเซียวเฉวียนมากนัก อีกทั้งเรื่องนี้ชิงหลงเองก็ไม่สามารถช่วยเหลือเซียวเฉวียนอันใดได้มาก

หากให้เขาช่วยวิ่งวุ่นไปทำธุระอะไรบางอย่างให้ได้ก็พอแล้ว

ทว่า หลังจากที่ชิงหลงครุ่นคิดถึงมันแล้วนั้น เขาก็นึกถึงอีกปัญหาหนึ่งได้ขึ้นมา "ใต้เท้าเซียว ข้าสมควรกลับไปที่ภูเขาคุนหลุนก่อนหรือไม่?"

หากว่าเขาไม่กลับไปมันจะเป็นอันตรายต่อเซียวเฉวียนอย่างมาก หากมีคนค้นพบร่องรอยของเขา

เซียวเฉวียนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยว่า "กลับหรือไม่กลับนั้น อยู่ที่เจ้าจักตัดสินใจ"

หากชิงหลงไม่กลับ ย่อมมิมีผู้ใดสามารถค้นพบร่องรอยของชิงหลงได้หากว่าเขาอยู่ในจวนตระกูลเซียว

ทว่า มันอาจจะเป็นการทำร้ายต่อชิงหลงเล็กน้อย ที่เขาไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ในช่วงนี้

เมื่อชิงหลงได้ยินเช่นนั้น เขาพลันกล่าวออกมาในทันทีว่า "เช่นนั้นข้าจักอยู่ที่จวนตระกูลเซียวต่อไป"

หลายวันที่มิได้ออกไปข้างนอกนั้น หาได้เป็นอันใดไม่

ในฐานะมกุฎราชกุมารแห่งคุนหลุนแล้ว ยามที่เขายุ่งวุ่นวายกับงานการนั้น เขายังมิอาจออกจากห้องตนเองได้เป็นเวลาหลายวัน

ยิ่งไปกว่านั้น จวนตระกูลเซียวที่ใหญ่โตเช่นนี้ ย่อมมีกิจกรรมมากมายทั้งยังมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาอีกด้วย

ตัวอย่างเช่นเซียวเฉวียน เจี้ยนจงและมู่จิ่น

ชิงหลงสามารถเอ่ยพูดคุยกับพวกเขาได้โดยไม่หยุดปาก

อีกทั้ง พวกเขาทั้งสามคนยังมีความรู้กว้างขวางในฮว๋าเซี่ย นั่นจึงทำให้ชิงหลงรู้สึกทึ่งไปกับโลกที่พวกเขาบรรยายออกมายิ่งนัก

อย่างไรก็ตามในบรรดาทั้งสามคนนั้น ชิงหลงไม่ค่อยพูดคุยกับเจี้ยนจงมากนัก เนื่องจากเจี้ยนจงเป็นบรรพบุรุษที่ชิงหลงให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่ง เสมือนกับคนรุ่นหลังที่ให้ความเคารพต่อบรรพบุรุษโดยสัญชาตญาณก็ไม่ปาน รวมไปถึงกลิ่นอายที่เย็นชาของเจี้ยนจงนั้น ทำให้ชิงหลงนึกหวาดกลัวเขาเสียจนมิกล้าเขาไปสนิทชิดเชื้อด้วยได้

สำหรับมู่จิ่นแล้ว ยามที่ภาคเรียนของสถานศึกษาชิงหยวนเปิดขึ้นแล้วนั้น ในฐานะอาจารย์ผู้สอนเช่นเขาจึงมิมีเวลามากนักที่จักอาศัยอยู่ในจวนตระกูลเซียว

แม้แต่เว่ยเป้ยเองก็ยังยุ่งเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้วนั้น จึงเหลือเพียงประมุขแห่งชิงหยวนเช่นเซียวเฉวียนที่มีเวลาว่างมากกว่าใครเพื่อน

หากว่ากันตามจริงแล้ว ชิงหลงต้องการตามติดเซียวเฉวียนเสียมากกว่า

เซียวเฉวียนพลางแย้มยิ้มกล่าวออกมาเบา ๆ ว่า "เอาล่ะ เจ้าสามารถอยู่ในจวนตระกูลเซียวได้ หากว่าข้ามิได้อยู่ที่นี่ละก็ หากเจ้าต้องการอันใด เจ้าก็ไปหาเฉวียนอีเสีย "

พูดจบ เซียวเฉวียนจึงเรียกเฉวียนอีมาในทันที เพื่อให้ชิงหลงทำความรู้จักกับเขา

หลังจากที่สั่งการเอ่ยกำชับกับเฉวียนอีกแล้วนั้น ว่าให้ทำการต้อนรับชิงหลงเป็นอย่างดี คอยรับใช้ชิงหลงอย่าให้ขาดตกบกพร่อง

เฉวียนอีจึงน้อมรับคำสั่งด้วยความเคารพไปในทันใด

เหตุผลที่เซียวเฉวียนต้องจัดการเรื่องทั้งหมดนั้น เนื่องจากเขาที่มีสถานะเป็นถึงประมุขแห่งชิงหยวน ในยามที่สถานชิงหยวนเปิดใหม่เช่นนี้ เขาหาได้มีอิสระอย่างที่ชิงหลงคิดจินตนาการเช่นนั้นไม่

เขายังต้องคิดวางแผนการเรียนการสอนร่วมกับเว่ยเป้ย

เนื่องจากทั้งสองคนยังจำเป็นต้องพักฟื้น เซียวเฉวียนจึงขอให้เสี่ยวเชียนชิวพาพวกเขาไปพักฟื้นที่ห่างไกลแทน

สำหรับหลี่ซื่อแล้วนั้น หลังจากที่เขาคืนเงินให้กับเจ้าของบ้านแล้ว เขาได้ระดมคนมากมายเพื่อตั้งป้อมยามรอบๆ จวนตระกูลเซียว เพื่อจับตาดูผู้คนที่เข้าออกจากจวนตระกูลเซียวในยามนี้

พร้อมทั้งตัวเขาเองที่นำม้านั่งตัวเล็กๆ มานั่งมองมุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นผู้คนที่เข้าออกทางเข้าของจวนตระกูลเซียวได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะนั่งลงพร้อมทั้งแทะเมล็ดทานตะวันไปพลาง ๆ พร้อมทั้งจ้องมองที่ประตูของจวนตระกูลเซียวอย่างไม่วางตา เพื่อรอคอยให้หลี่เมิ่งปรากฏตัวออกมา .

ทว่า หลังจากที่เขานั่งจ้องมองมาสี่วันแล้วนั้น มิต้องเอ่ยถึงหลี่เมิ่งเลย แม้แต่แมลงวันสักตัวเขาก็หาได้เจอไม่

หลี่ซื่อพลันรู้สึกร้อนใจขึ้นมาในทันที

ทุก ๆ ครั้งที่เขาอยากจะยอมแพ้ เขามักจะจดจำคำเตือนของนักฆ่าผู้นั้นได้เสมอว่าอดทนเข้าไว้อย่าวู่วาม

จวบจนดำเนินมาถึงวันที่หกแล้วนั้น หลี่ซื่อและคนของเขาก็ยังมิพบสิ่งใด ในคราวนี้ หลี่ซื่อมิอาจรั้งรออยู่เฉย ๆ ได้อีก เขาจึงเอ่ยเรียกกำลังพลของตัวเองถอยทัพในทันที

มิใช่ว่าเขาไม่ต้องการจับตาดูจวนตระกูลเซียว ทว่า หลังจากที่เขาจับตาดูจวนตระกูลเซียวมานานหลายวันแล้วนั้น หากว่าหลี่เมิ่งอยู่ด้านในจริงๆ หลี่เมิ่งย่อมปรากฏตัวขึ้นมานานแล้ว

ถึงอย่างไรเขาก็ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาแล้ว หาใช่ว่าเขาเกียจคร้านไม่ แต่เขามิเจอหลี่เมิ่งจริงๆ เขามิอาจจับตาดูจวนตระกูลเซียวเป็นเดือนได้ หากว่าหลี่เหมิงมิปรากฏตัว เช่นนี้ หากหลี่เมิ่งมิมาปรากฏตัวเป็นเวลาหนึ่งปีเล่า เขามิใช่ว่าต้องจับตาดูจวนตระกูลเซียวเป็นเวลาหนึ่งปีเลยหรือ

หรือบางทีหลี่เมิ่งอาจจะมิได้อยู่ในจวนตระกูลเซียวจริงๆ

ในช่วงหกวันที่ผ่านมา เหล่านักฆ่าเองก็เห็นพ้องต้องกันแล้วว่าหลี่ซื่อมิพบเจออันใดจากการจับตามองจวนตระกูลเซียวเลยแม้แต่น้อย

แม้แต่เหล่านักฆ่าเองก็ยังอยากยอมแพ้ยิ่งนัก

ฉะนั้นแล้ว ในยามที่หลี่ซื่อต้องการจะยอมแพ้ เหล่านักฆ่าหาได้เอ่ยอันใดออกมาไม่ ทั้งยังมิได้มาหาเรื่องอันใดกับหลี่ซื่ออีก ดังนั้นพวกเขาจึงจำใจปล่อยหลี่ซื่อออกไปแทน

หากจะกล่าวว่าผู้ใดเป็นผู้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการหายตัวไปของหลี่เมิ่งนั้น หาใช่ใครอื่นนอกจากหลี่ซื่อ

เหตุการณ์นี้ ทำเอาหลี่ซื่อรู้สึกตื่นเต้นพอ ๆ กับการนั่งรถไฟเหาะเลยทีเดียว มิใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะกล่าวว่าเขารอดพ้นจากความตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด

แม้ว่าจะมีขึ้นๆ ลงๆ บ้าง ทว่า ผลลัพธ์กลับดียิ่ง

ส่วนหลี่เมิ่งจะอยู่หรือตายนั้น หลี่ซื่อหาได้สนใจอีกต่อไปไม่

หลังจากชำระหนี้จนจบแล้วนั้น หลี่ซื่อหาได้เรียนรู้เรื่องราวอันใดจากบทเรียนในครานี้ไม่ เขายังคงออกไปเที่ยวเล่นเช่นเดิมในบ่อนพนันอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย