ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1545

แต่เซียวเฉวียนก็ไม่ได้มีความคิดที่จะกระตุ้นความคิดของชิงหลง

ปล่อยให้เขาอยู่ในชื่อนี้ต่อไป มันถือเป็นการดีต่อเทือกเขาคุนหลุน

ในความเป็นจริง ความหมายของเซียวเฉวียนคือ จะเป็นการดีกว่าที่ชิงหลงอยู่ในคุนหลุน

ชิงหลงเป็นคนตรงไปตรงมา หากผู้อาวุโสคนไหนทำสิ่งใดไม่ชอบมาพากล ชิงหลงจะต้องรายงานไปยังเซียวเฉวียนเป็นแน่

สามารถทำให้องค์ชายแห่งคุนหลุนมาเป็นสายลับที่คอยจับตาดูเหตุการณ์ต่างๆ ในคุนหลุน เรื่องนี้มันก็ค่อนข้างเกินความคาดหมายของเซียวเฉวียนไปเหมือนกัน

เนื่องจากเซียวเฉวียนเองก็คิดไม่ถึง ในยุคสมัยที่แต่ละคนโหยหาในอำนาจ ต้องการได้อำนาจมายึดครองแต่เพียงผู้เดียว จะมีคนเรียบง่ายและซื่อสัตย์อย่างชิงหลงอยู่ด้วย ถึงขั้นยอมสละตำแหน่งอันทรงเกียรติเช่นนี้

มันทำให้ผู้คนตาสว่าง!

สำหรับในยุคนี้ มันคือสิ่งที่แปลกใหม่!

เป็นอย่างที่คิด สิ่งที่เหมือนกันมักจะมารวมตัวกัน หากแตกต่างกันก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ชิงหลงสามารถเป็นเพื่อนกับเซียวเฉวียนได้ นั่นก็แสดงว่าพวกเขามีอะไรที่คล้ายกันอยู่

หากไม่ถูกสถานการณ์บังคับ เซียวเฉวียนเองก็อยากเป็นคนเกียจคร้าน เช่นเดียวกับคุณชายที่ร่ำรวยอย่างอี้กุย ออกห่างจากราชสำนักมากที่สุด ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับภรรยาและลูกอย่างมีความสุข

ไม่เหมือนกับเวลานี้ที่ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นแห่งหนใดล้วนมีคนอยากทำร้ายเซียวเฉวียน ต้องการสังหารเซียวเฉวียนเพื่อขึ้นมาแทนที่

แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งแรกที่เซียวเฉวียนเดินทางมาถึงต้าเว่ย เขาไร้ซึ่งเงินทอง ไร้ซึ่งสถานะ ถูกผู้อื่นรังแกอยู่บ่อยครั้ง แม้แต่แม่และน้องสาวของเขาที่ผูกพันกันทางสายเลือดเองก็ถูกรังแกด้วยเช่นกัน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เซียวเฉวียนทำได้เพียงยืนหยัดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือตัวเองและปกป้องคนในครอบครัว

บางทีอาจจะเป็นอย่างที่มู่จิ่นพูด การเดินทางมายังต้าเว่ยของเซียวเฉวียนนั้นคือประสงค์ของพระเจ้า พระเจ้าต้องการให้เซียวเฉวียนเป็นคนพิเศษ ต้องการให้เขาเป็นคนโดดเด่นในต้าเว่ย และช่วยพัฒนาต้าเว่ยไปสู่ความรุ่งโรจน์

ที่จริงเซียวเฉวียนไม่คิดว่านี่คือประสงค์ของพระเจ้า แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากอำนาจของผู้เป็นตัวเอก

พูดตามตรง ผู้เขียนที่เขียนถึงเขานั้นมากไปด้วยจินตนาการ พยายามทุกวิถีทางเพื่อเขียนเซียวเฉวียนออกมาให้สง่างามและพิเศษที่สุด

เซียวเฉวียนต้องการที่จะออกไปจากข้อจำกัดและสิ่งผูกมัดเหล่านี้!

ออกจากข้อจำกัดได้ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่เซียวเฉวียนก็รู้สึกไม่สบายใจ ฮวาเซี่ยกว้างใหญ่ มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมาย เหตุใดผู้เขียนถึงกำหนดให้วิญญาณของเซียวเฉวียนต้องมาอยู่ที่ต้าเว่ย หรือว่าต้องการกำหนดให้เซียวเฉวียนเป็นตัวเอกชาย?

หรือว่าเป็นเพราะเซียวเฉวียนมีหน้าตาที่หล่อเหลา?

หากพูดถึงความหล่อเหลา เซียวเฉวียนจะไปเทียบกับราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ที่โด่งดังในฮวาเซี่ยได้อย่างไร?

สี่ราชาผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าใครจะมายืนอยู่ด้านหน้าของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนล้วนแต่ถูกพวกเขาบดบังทั้งสิ้น

ใครก็ตามที่เดินทางข้ามเวลามาร้องเพลง เต้นรำ ทุกอย่างล้วนสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ให้กับคนยุคโบราณได้ทั้งทางด้านภาพและเสียง ทำให้หัวใจของคนในยุคโบราณพวกนี้ตกตะลึง

การที่พวกเขาจะจัดการกับคนชั่วในยุคโบราณนี้ มันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

เซียวเฉวียนคิดไม่ตก มีผู้คนมากมายถึง 1.4 พันล้านคน เหตุใดผู้เขียนถึงเลือกเขามา?

นี่มันยากเสียยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่!

หากมีโอกาสได้กลับไปสู่ยุคปัจจุบัน เซียวเฉวียนจะซื้อลอตเตอรี่เป็นแน่

อ่า ไม่ หากได้กลับไปสู่ยุคปัจจุบัน เซียวเฉวียนจะนำสมบัติทั้งหมดที่เขามีในต้าเว่ยกลับไป มูลค่าของมันประเมินค่าไม่ได้ ต่อให้เป็นลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ เซียวเฉวียนก็ไม่สนใจมันอยู่ดี

ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความคิดของเซียวเฉวียนก็ล่องลอยไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่สัญญาณของการกลับไปสู่ยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ แต่เซียวเฉวียนกลับคิดถึงเรื่องราวหลังจากที่กลับไป

เมื่อถึงเวลานั้น เนื่องจากสมบัติโบราณล้ำค่าเหล่านี้ เขาจะกลายเป็นเศรษฐีโดยไม่รู้ตัว

เมื่อมีเงินทองมากมายขนาดนั้น เซียวเฉวียนจะต้องการอะไร?

แน่นอนว่าเซียวเฉวียนจะไม่เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ต่อไปแน่นอน

แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ ต่อให้มีเงินทองมากมายแค่ไหนก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่ดี วันวานที่ไม่มีอะไรให้ทำนั้นช่างยาวนาน เห็นได้ชัดเลยว่ามันน่าเบื่อและน่าหงุดหงิดถึงเพียงใด

เมื่อพูดถึงความปรารถนา ตั้งแต่เล็กจนโต เซียวเฉวียนไม่เคยมีความปรารถนาใดๆ อยู่เลย

เซียวเฉวียนมองไปที่ประตู เขาไม่พบร่องรอยขององค์หญิง ใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าองค์หญิงไม่ได้มาด้วย แสดงว่าเซียวหมิงชิวเป็นคนหนีออกมาจากพระราชวังเพียงลำพัง

เซียวเฉวียนอ้าแขนรับ บ่งบอกให้เซียวหมิงชิวรีบเข้ามาในอ้อมแขนของเขา

เซียวหมิงชิวเข้าใจ โผเข้าใส่อ้อมกอดของเซียวเฉวียนอย่างรวดเร็ว เด็กคนนี้แม้จะมองว่ายังตัวเล็กมาก แต่เมื่อพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเซียวเฉวียน มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดไปถึงกระดูก

เซียวเฉวียนส่งเสียงร้องออกมา แต่ก็เป็นเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง ลูบไปที่จมูกของเซียวหมิงชิวเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง? แม่ของเจ้ารู้หรือเปล่า?”

เซียวหมิงชิวยิ้มออกมา ส่ายศีรษะเล็กๆ เพื่อบ่งบอกว่าแม่ของนางไม่รู้ว่านางแอบหนีออกมา

ในตอนที่นางออกมา องค์หญิงกำลังหยิบรองเท้าของเซียวเฉวียนขึ้นมาและพูดคุยกับเสวี่ยเยี่ยน

หลังจากที่เสวี่ยเยี่ยนเข้าไปในวังเพื่ออยู่เป็นเพื่อนนาง ดูเหมือนว่าอารมณ์ขององค์หญิงจะดีขึ้นไม่น้อย แค่มองจากรอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็สามารถสัมผัสได้

เซียวเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็ให้เหตุผลกับเซียวหมิงชิวว่า “ครั้งต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีกเป็นอันขาด แม่ของเจ้าจะเป็นห่วงได้รู้ไหม”

“อีกอย่าง หากเจ้าคิดถึงพ่อ เจ้าก็บอกกับพระนางเม่ยซีเหนียงเหนียง ให้นางส่งคนมาบอกกับพ่อ พ่อจะเข้าไปหาพวกเจ้าในพระราชวัง”

เซียวหมิงชิวออกมาเช่นนี้ หากมีคนคอยจับตาดูอยู่ นั่นคงเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่

ท้ายที่สุดแล้วมีคนเขียนจดหมายไปถึงฮ่องเต้โดยไม่ออกนาม ผู้เขียนจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย และยิ่งมีสิ่งอื่นแอบแฝงอยู่ด้วย

และเซียวเฉวียนก็อยากให้องค์หญิงและลูกของเขาปลอดภัย

เซียวหมิงชิวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ส่ายหน้าออกมา แสดงออกมาแทนคำพูดว่า “ไม่มีใครเห็น”

สิ่งที่นางอยากบอกก็คือ ทักษะของนางนั้นยอดเยี่ยม รวดเร็วราวกับสายลม ไม่มีใครเห็นนางเป็นแน่

ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสะกดรอยตาม หรือค้นหาตำแหน่งของนาง

เซียวเฉวียนแสร้งทำเป็นจริงจัง “แบบนั้นไม่ได้ เข้าใจไหม? ฟังที่พ่อพูด ห้ามไปไหนมาไหนโดยพลการ ครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นไร แต่หากมีครั้งต่อไป พ่อจะโกรธเอานะ!” 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย